คอลัมนิสต์

จุดอ่อน  บิ๊กตู่ สู่จุดจบ  ธนาธร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จุดอ่อน  บิ๊กตู่ สู่จุดจบ  ธนาธร คอลัมน์...  วงในวงนอก   โดย... อสนีบาต aussaneebard @hotmail.com

 

 

  

          ระยะเวลาสี่ห้าปีถือว่าไม่นานนะครับ นับตั้งแต่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของ สุเทพ เทือกสุบรรณ จนกระทั่งมาถึงวันนี้ ปรากฏการณ์ปลุกระดมสร้างม็อบกลับมาอีก ด้วยน้ำมือของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

 

 

          นับเป็นห้วงเวลาที่บ้านเมืองกำลังก้าวไปด้วยความสงบสุข แต่มิวายด้วยกมลสันดานของคนที่เรียกได้ว่าเป็น "นักการเมือง” หาเรื่องปลุกระดมให้ผู้คนเกิดความขัดแย้ง


          บ้านนี้เมืองนี้ไม่ต้องรบกับใครที่ไหนหรอกครับ ยามสงบนักการเมืองในชาติหาเรื่องทะเลาะกันเอง ปลุกปั่นผู้คนให้เกิดความแตกสามัคคี
  

          อยากเล่าถึงชะตากรรม "ผู้ปลุกปั่น” และ "ผู้รอจังหวะ” สักหน่อย กรณีการเกิดขึ้นของมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของ “สุเทพ” มูลเหตุจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมคนโกง ผู้คนจึงพร้อมใจออกมาแสดงพลังเป็นล้านคน ส่วนฝ่ายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องมีผู้ออกมาปกป้องอำนาจเช่นเดียวกัน นั่นคือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
  

          ทั้งสองกลุ่มตั้งป้อมปราการรอจังหวะเผชิญหน้าโดยมีการกระทบกระทั่งเป็นระยะๆ ด้วยมือที่มองไม่เห็นทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต
  

          ก่อนที่สถานการณ์บานปลายมากกว่านี้ในที่สุด "ผู้รอจังหวะ” ก็มาด้วยสูตรเดิมกล่าวคือ “ทหาร” ยึดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดกติกาเลือกตั้งจนได้นักการเมืองทั้งหน้าเดิมหน้าใหม่เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ
  

          ส่วนบรรดา "แกนนำมวลชน” ผู้ใดกระทำการละเมิดสิทธิผู้อื่น สร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน สถานที่ราชการ ต่างต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


          แม้แต่แกนนำมวลชนตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณผ่านมาจนถึงป่านนี้ ต้องติดคุกติดตะราง บางรายยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่เลย บางรายถูกศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการเผาบ้านเผาเมือง ถึงกับต้องเตรียมตัวประกาศล้มละลาย

 


    

          “นี่คือผลตอบแทนแกนนำมวลชนที่อ้างว่าทำเพื่อ "ประชาธิปไตย” ไม่มีใครสุขสบายแม้แต่คนเดียวยกเว้น “นาย” ของพวกเขาเท่านั้น
  

          ไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ กรณี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้คนเห็นทนโท่กระทำการฝ่าฝืนกฎกติการัฐธรรมนูญจนต้องมีคดีความ ตั้งแต่การถือครองหุ้นสื่อขัดคุณสมบัติการเป็นส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพ และกำลังพาเหล่าคณะพรรคอนาคตใหม่เข้ารกเข้าพงจากการปล่อยเงินกู้ให้พรรค ซึ่งอาจถึงขั้นต้องยุบพรรค
  

          แต่ก็ชิงจังหวะขอลงถนนจัดชุมนุมด้วยการออกตัวทันที “ไม่ได้ชุมนุมเพื่อตนเองแต่มาชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย” ทั้งที่บ้านนี้เมืองนี้เพิ่งผ่านการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่ก็ได้รับเลือกตั้งมีส.ส.เข้าสภาถึง 70-80 คนมิใช่หรือ


          สถานการณ์มาถึงจุดย้อนเวลากลับไปหาคสช.ได้อย่างไร ทั้งที่มันเกิดจากปมปัญหาความบกพร่องเฮงซวยตามที่ตนเองก่อไว้แท้ๆ แต่กำลังทำให้คนในพรรคเดือดร้อน และกำลังทำให้สังคมชาติต้องปั่นป่วนวุ่นวายไปด้วย
  

          ผลิตวาทกรรมปลุกระดม "ทวงคืนประชาธิปไตย” เลยเถิดให้ผู้คนในชาติออกมา “ขับไล่นายกรัฐมนตรี” ….เฮ้ย! อย่างนี้ก็ได้เหรอ


          …อสนีบาต…มีโอกาสติดตาม “ธนาธร” ไปร่วมชุมนุมที่ลานสกายวอล์ก ปทุมวัน ด้วยเหตุต้องการรู้แจ้งเห็นจริงต่อความพยายามของ “นักการเมืองผู้สะสมคดีความ” ก็อาจต้องยอมรับกระบวนการปลุกมวลชน เขามีความสามารถในด้านการสื่อสารโลกยุคใหม่ผ่านการสร้างชุดความคิดอย่างเป็นระบบ
  

          จากการสดับตรับฟังผู้ร่วมชุมนุมสนทนากันจึงมีทั้งการด่าทอ โจมตีรัฐบาลด้วยถ้อยคำรุนแรงราวกับโกรธเกลียดกันมาหลายร้อยปี (เป็นไปได้อย่างไร) กล่าวพาดพิงมือกฎหมายข้างกาย กล่าวโจมตี กกต. และอะไรต่อมิอะไรที่ล้วนถูกผลิตขึ้นมาผ่านสื่อโซเชียลก่อนหน้านี้ในลักษณะเห็นดำเป็นขาวเห็นขาวเป็นดำตามที่นักปลุกระดมต้องการ


          ตรงนี้อาจต้องย้อนกลับไปดูรัฐบาลเช่นกัน เพราะความอ่อนด้อยของหน่วยงานในกำกับของรัฐไม่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารสร้างความเข้าใจอันดี จะกล่าวว่าไม่ทำงานก็แรงเกินไป เอาเป็นว่า “ทำ” แต่ช้ากว่ากลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่นัก สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ผู้คนมีความเข้าใจผิดและใหลหลงไปกับชุดข้อมูลของผู้ที่อ้างตนว่ามาเพื่อปกป้อง "ประชาธิปไตย” บังหน้า
  

          นี่เป็นโจท์ที่รัฐบาลประชาธิปไตยของ "บิ๊กตู่” ต้องรีบแก้ให้ทัน ก่อนจะลุกลามขยายวงกว้างมากกว่านี้ โดยเฉพาะชุดข้อมูลในระดับก้าวล่วงสถาบัน
  

          แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ถึงจุดพีกสุดของเรื่องย่อมกลับไปสูตรเดิมตามที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นล่ะท่าน ส่วน “ธนาธร” ก็จะมีชะตากรรมไม่ต่างกับศิษย์เก่าแกนนำม็อบมวลชนทั้งหลาย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ