คอลัมนิสต์

แผ่นพับแค่เป้าหลอกสู่เผชิญหน้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แผ่นพับแค่เป้าหลอกสู่เผชิญหน้า คอลัมน์...  วงในวงนอก    โดย... อสนีบาต [email protected]

 

 



          อุตส่าห์แอบเชียร์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ภายหลังตกงานจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการพูดไว้อย่างหล่อเชียว จะยืนเคียงข้างประชาชน ต่อต้านความอยุติธรรม โดยจะหาพื้นที่ใหม่ทางการเมือง

 

 

          มนุษย์เดินดินกินข้าวแกงอย่าง…อสนีบาต… พยายามมองโลกสวยคล้อยตามว่า “พ่อฟ้า” คงจะไปเปิดศูนย์บริการประชาชนคอยรับเรื่องราวร้องทุกข์ทั่วราชอาณาจักร สถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้นำนอกสภานำปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนมายื่นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำตัวจริงบนหอคอยงาช้างรับไปแก้ปัญหา


          กล่าวไว้คราวก่อน แข่งขันทำความดีทำไปเหอะ ไม่ว่ารับบทเป็นตัวแทนผู้ประสบปัญหาทุกข์ร้อนรับเรื่องมาเยียวยาแก้ไขก็ทำไป จะเป็นคู่แข่งศูนย์บริการประชาชนของทำเนียบก็ไม่ว่า ล้วนเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น อีกอย่างทำให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน ตื่นตัวทำงานด้วยความแข็งขัน


          ทว่า ความคาดหวังเห็น “ธนาธร” เป็นหัวหน้าศูนย์บริการประชาชนต้องดับวูบ เพราะดูไปดูมาเลือกจะเอาดีในสาขาวิชาชีพ “พนักงานแจกแผ่นพับ" มากกว่า หวังสืบสานอุดมการณ์พรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง ให้ "ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร”


          ราศีจับนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส. เหมือนวางแผนการล่วงหน้า ด้วยการสร้างกระแสเรียกร้องความเห็นใจให้สังคมมองว่า "ตนเองถูกกระทำ” จากฝ่ายผู้มีอำนาจ จึงต้องเปิดปฏิบัติการต่อเนื่อง รีบเดินทางไปใจกลางเมืองหลวง ปักหมุดบริเวณห้างสรรพสินค้าที่มีวัยรุ่นหนุ่มสาวเดินขวักไขว่ประเดิมแจกแผ่นพับรณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหารทันที เพียงเพื่อเช็กเรตติ้งความนิยมตนเองยังพอมีเหลืออยู่มั้ยนั่นเอง




          นั่นเป็นการแจกแผ่นพับครั้งแรก เป็นการกระทำก่อนที่เจ้าตัวจะเขียนจดหมายลาออกจากกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ และอนุกรรมาธิการพิจารณาด้านท้องถิ่นชายแดนใต้ ด้วยการยกเหตุผล มีคนไม่ต้องการให้อยู่ในสภาจึงจะไปทำงานเคียงข้างกับประชาชนนอกสภา


          หลังจากนั้น ขบวนการสุมหัวสุมไฟเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยมี ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ตามด้วย ส.ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียนผู้ให้การสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ที่ร้านอาหารย่านคอนแวนต์ ให้คำชี้แนะการต่อสู้รัฐบาลทหาร ต้องใจเย็น อย่าวู่วาม


          พร้อมกับยกประโยคในยุคสมัย อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เตือน ธนาธร “ต้องใช้ขันติประชาธรรม สัจจะต่อสู้กับอสัตย์" กล่าวคือรักษาสัจจะเป็นที่ตั้งสยบกลุ่มอำนาจที่ไม่ซื่อสัตย์จะด้วยการปฏิบัติหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือตระบัดสัตย์กลับมาสืบทอดอำนาจ ก็แล้วแต่จะว่าไป


          ส.ศิวรักษ์ กระซิบหัวหน้าพรรคคนรุ่นใหม่ด้วยว่า ความต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการนั้นไม่ง่าย ไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ต้องใช้เวลานาน


          จึงเป็นอะไรที่ "ธนาธร” กลับมาเดินเกมนอกสภาในลักษณะสะสมรวบรวมไพร่พลผ่านการเดินแจกแผ่นพับ รณรงค์เลิกเกณฑ์ทหาร นั่นล่ะท่าน


          นับตั้งแต่ "ธนาธร” กลายเป็น ส.ส.ตกงาน สิ่งที่เห็นเด่นชัดคือ การแจกแผ่นพับอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จากจุดใจกลางเมืองขยับขยายไปยังปริมณฑลหรือพื้นที่สีแดง เช่น พระนครศรีอยุธยา ตามด้วยวันเสาร์ที่ผ่านมาเลาะชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี สถานที่ตากอากาศของประชาชนทุกเพศทุกวัย แทนที่จะนั่งทอดกายจับกลุ่มรับประทานอาหารทะเลอย่างเอร็ดอร่อยต้องมาเจอพนักงานหน้าตี๋ไล่แจกแผ่นพับ ช่างขัดกับบรรยากาศพักผ่อนวันหยุดยิ่งนัก


          หัวหน้าหน่วยผลิตแผ่นพับยังทำการขยายเครือข่าย ด้วยการสั่งให้สมาชิกเข้าถึงสถาบันการศึกษา ตรงนี้ไม่ว่าเลย หากการรณรงค์พุ่งเป้าเวทีความคิดตามมหาวิทยาลัย แต่นี่กลับเข้าถึงระดับนักเรียนในโรงเรียน เป็นอะไรที่แสดงถึงวิถีการเมืองสกปรก เป็นการเล่นการเมืองล้ำเส้นเกินไปเสียแล้ว


          ไม่แปลกใจเลยที่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกลัทธิชังชาติบ้าง จาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงบ้าง เพราะแม้แต่สถานศึกษาระดับโรงเรียน ซึ่งไม่ควรนำเรื่องการเมืองเข้าไปแทรกซึม ก็ยังหาญกล้าเข้าไปทำกันได้


          แม้ "ธนาธร” เลือกเป็นพนักงานแจกแผ่นพับ แต่อาชีพใดๆ มีกฎกติกาบ้านเมืองกำหนด การกระทำใดๆที่ล้ำเส้นเกินงามและเป็นลักษณะซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนต้องการเรียกแขกทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนผู้เห็นต่างอย่างไรชอบกล


          อีกอย่าง ความพยายามเจาะฐานโรงเรียนทำให้นึกถึงสมัยแกนนำเสื้อแดงที่ตั้งโรงเรียน นปช. แถวภาคอีสาน จากนั้นก็ตกเป็นเครื่องมือนำมาเคลื่อนไหว ฉันใดก็ฉันนั้นสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้ คือความพยายามปลุกระดมผ่านคนรุ่นหนุ่มสาว แล้วกำลังจะลงไปถึงเด็กมัธยมปลาย


          “การจุดกระแสเลิกเกณฑ์ทหารเป็นเพียงแค่เป้าหลอก แต่เป้าประสงค์จริง คือ ความพยายามแจกแผ่นพับอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อหวังสร้างมวลชน ยั่วยุผู้เห็นต่างให้ออกมาเผชิญหน้า"


          แต่บทสรุปของเรื่อง ไม่ได้ทำให้ พนักงานแจกแผ่นพับก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ตามที่เคยประกาศไว้อย่างแน่นอน ริจะใช้แนวทาง "ฮ่องกงโมเดล” ครอบเมือง ก็ควรกลับไปนึกถึงข้อคิดของ ส.ศิวรักษ์ ที่เคยบอกไว้ด้วยแล้วกัน


          “เรื่องนี้มันไม่ง่าย ต้องใช้เวลานาน”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ