คอลัมนิสต์

ก้าวข้ามศก.ชะลอตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ก้าวข้ามศก.ชะลอตัว บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562

 

 


          รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้านในช่วงที่เหลือของปีเพื่อทำให้เศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าปรับตัวดีขึ้น และรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวไปมากกว่านี้ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกที่จะเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเร็ว ความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย นอกจากนี้ความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ยังมีผลต่อการลงทุนของภาครัฐและเป็นข้อจำกัดหากรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่มีคนสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก เพราะปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ของไทยยังแข็งแกร่งโดยมีเงินทุนสำรองจำนวนมาก ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม

 

 


          การชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้นได้สะท้อนอย่างเห็นได้ชัดผ่านตัวเลขจีดีพี ในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และจากตัวเลขการส่งออกเบื้องต้น ประกอบกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้โภคที่ต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 น่าจะยังคงเติบโตต่ำกว่า 3 ต่อไปอีกหนึ่งไตรมาส แต่กระนั้นที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ก็คาดหวังกันว่าในปี 2563 เศรษฐกิจของไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากงบประมาณปี 2563 จะออกมา ช่วยให้ภาครัฐมีการใช้จ่ายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น การค้าขายในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม แนวโน้มยังไปได้ ส่วนการท่องเที่ยวคาดว่า ปีนี้ ยอดนักท่องเที่ยวน่าจะมียอดรวมประมาณ 40 ล้านคน โดยที่นักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่องยอดไม่ต่ำกว่า 10-11 ล้านคน


          นอกจากนี้ภาคเอกชนยังมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลให้เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อทำให้เศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 มีแรงส่งต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าได้แก่ มาตรการช้อปช่วยชาติ โดยให้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค (ยกเว้นสินค้าบางประเภท อาทิ สุรา ยาสูบ เป็นต้น) รวมทั้งของขวัญปีใหม่ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท, มาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท และของนิติบุคคลไม่เกิน 1.5 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง พร้อมทั้งเร่งการลงทุนภาครัฐเพื่อให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องของภาคเอกชน อันจะส่งผลต่อห่วงโซ่มูลค่าของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกด้วย

 


          ดูน่าสนใจไม่น้อยกับแนวทางในหลายเรื่องที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อเสนอในเรื่องการเมืองที่ผู้ประกอบการเอกชนอยากเห็นการเมืองไทยเป็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ เพราะจะทำให้นักลงทุนต้องการเข้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวอยากเข้ามาท่องเที่ยว จึงอยากฝากเรื่องนี้ให้รัฐบาลได้ตระหนักเพราะถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติเดินหน้าไปอย่างมั่นคง แม้กระทรวงเศรษฐกิจจะอยู่ในความดูแลของพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคก็ตาม แต่การทำหน้าที่ฝ่ายบริหารต้องยึดแนวนโยบายของรัฐบาลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงชะลอตัวเยี่ยงนี้การทำงานเพื่อหาลู่ทางแก้ไขปัญหาจะต้องมีการประสานงานกันมากขึ้น และเราเชื่อว่าหากทุกฝ่ายทั้งภาคการเมือง เอกชน ทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันอย่างเป็นเอกภาพก็จะสามารถสร้างบรรยากาศไปในทางที่ดีและก้าวข้ามปัญหาต่างๆ เหล่านี้ไปได้ในระดับหนึ่งแน่นอน
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ