คอลัมนิสต์

เสียง..ที่หายไป

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เสียง..ที่หายไป คอลัมน์...  จี้จุดตาย..คลายจุดเป็น   โดย... เร้นกาย ไร้เงา

 

 

 

          เสียงสนับสนุนจากส.ส.ของขั้วหนุนและขั้วค้านลุงตู่ในรัฐสภาเกียกกายนั้นหนีกันไม่เกิน "สิบเสียง” และแต่ละเสียงชี้เป็นชี้ตายมติในแต่ละครั้งได้เป็นอย่างดี...

 

 

          ตอนนี้ปัญหา "เสียงปริ่มน้ำ” พ่นพิษให้เห็นแล้ว เพราะเหตุสภาล่มสองวันซ้อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ส่งผลให้คำสั่งจากผู้ใหญ่แห่งครม.และพปชร.ขันนอตว่า "เสียงของขั้วหนุนลุงตู่ต้องบังเกิดและต้องไม่มีเหตุดังกล่าวอีกต่อไป”


          เหตุแบบนี้มันจึงเกิดวิวาทะของ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาลที่ทิ่มแทงไปยังค่ายสีฟ้าว่าแหกมติวิปรัฐบาลจนเป็นต้นเหตุสภาล่ม แต่ "เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.เมืองคอน ปชป. ก็ย้อนศรไปหลายวาทะ เพราะหกส.ส.ปชป. ลงชื่อและหนุนมติศึกษาการใช้มาตรา 44 ด้วย


          รอดูว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นหลังคีย์แมนแต่ละพรรคร่วม “ดินเนอร์” กันกับบิ๊กรัฐบาลเรือเหล็กว่าจะบวกหรือลบ..


          ยามจากนี้ไปต้องจับตาว่าขั้วหนุนลุงตู่จะหาเสียงเพิ่มได้จากไหน? เพราะล่าสุดเสียงของ “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ผู้แทนฯ ปากน้ำของพปชร.ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่เพราะกกต.เคาะโต๊ะแล้วว่ามีความผิดเพราะคนใกล้ชิดใส่ซองงานศพช่วงประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้งและต้องเลือกตั้งซ่อมในเขตนี้ ตรงนี้และตอนนี้ขั้วหนุนลุงตู่ในรัฐสภา เกียกกาย ขาดกำลังพลไปหนึ่งอัตรา


          ไม่กี่วันข้างหน้าก็ลุ้นว่า “พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” ส.ส.กำแพงเพชร พปชร.จะได้ไปต่อหรือยุติการทำหน้าที่จากคำพิพากษาจากศาลคดีล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาเมื่อหลายปีก่อน หากผู้แทนฯ เมืองกล้วยไข่รอดก็นับว่าโชคดี หากต้องรับทัณฑ์ก็ต้องลุ้นว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่เมื่อใด และพปชร.จะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ไหม..ตรงนี้ก็ลุ้นอีกหนึ่งเสียงเช่นกันสำหรับพปชร.และขั้วหนุนลุงตู่

 



          และวัดผลในช่วงวันที่ 22 ธันวาคม ว่าเสียงที่จะมาเพิ่มให้ขั้วหนุนลุงตู่จากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น ระหว่าง “สมศักดิ์ คุณเงิน” อดีตผู้แทนฯ หลายสมัยจากพปชร.กับ ”ธนิก มาสีพิทักษ์” อดีตส.ส.จากเพื่อไทย ใครจะเข้าวิน? ดังนั้นพื้นที่นี้มีอีกหนึ่งเสียงที่มีความสำคัญเช่นกันสำหรับสองขั้วการเมือง


          เวลาที่งวดมาเรื่อยๆ สำหรับกลเกมในรัฐสภาที่ต้องอาศัยทุกคะแนนเสียงในการลงมติ ภาวะตอนนี้เท่ากับว่าพปชร.เสียงหายไปหนึ่งแล้วจาก "กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” และหากว่า "ผู้แทนฯ เมืองกล้วยไข่” ต้องหลุดไปจากการรับโทษก็อาจหายไปอีกหนึ่งและลุ้นการนับแต้มเลือกตั้งซ่อม "ส.ส.ขอนแก่น” ช่วงก่อนปีใหม่อีกหนึ่งเสียง


          “สองจากสามเสียง” ในมือของพปชร.มีค่ายิ่งในเวลาช่วงนี้และช่วงหน้าที่ต้องทวงกลับมา รวมทั้งลุ้นหนึ่งเสียงใหม่ที่จะแข่งกันสี่พรรค แต่ช่วงที่รอเวลาทวงคืนนั้น “เสียง...ที่หายไป” อาจสร้างภาวะพลิกผันทางการเมืองได้ ดังนั้นสภาวะแบบนี้ใช่ว่าจะดีงามสำหรับพปชร.ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะหลังจบศึก ม.44 เมื่อใด ขั้วหนุนลุงตู่ต้องรับศึกการศึกษาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการลงมติร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 รวมทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครม.


          ฉะนั้นแต่ละเสียงในขั้วหนุนลุงตู่จึงมีความหมายยิ่งยวด...


          แต่ “เสียง..ที่หายไป” ใช่ว่าจะพ่นใส่เรือเหล็กเสียฝ่ายเดียวเมื่อไหร่ เพราะ “งูเห่า” ในขั้วต้านลุงตู่แผลงฤทธิ์สวนแนวทางพรรคมาหลายวาระก่อนหน้านี้แล้ว และแว่วว่าจากนี้ไปจะแผลงฤทธิ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงูเห่าจาก ”สวนส้ม” ที่บางคนรู้เส้นทางแล้วว่าควรเลือกแบบไหนให้ชีวิตตัวเองในวันนี้และวันหน้า


          แต่แกนนำและส.ส.พรรคอนาคตใหม่ส่วนใหญ่ซึ่งวันนี้เดินเกมแรงอัดแหลกทุกด้านก่อนที่จะเดินเข้าสู่การสู้คดียุบพรรคจากเงินกู้ การล้มล้างการปกครอง ที่แม้ว่าจะมีการยื่นเรื่องไปแล้วแต่ยังไร้แววว่าจะมีการเรียกคู่ความมาให้ถ้อยคำเมื่อใด คีย์แมนในอนค.จึงยังไม่ร้อนใจและเปิดเกมชิงกระแสตัวเองก่อน แปลว่าชาวสีส้มรุกกลับเพื่อปิดช่องว่างที่ขั้วตรงข้ามจะลงดาบก่อนและไม่กังวลกับเสียง..ที่หายไป


          จากนี้..คอการเมืองน่าจะต้องเสพข่าว "เสียง..ที่หายไป” ของทั้งสองขั้วกันแบบต่อเนื่องเพราะมีผลยิ่งกับการเมืองไทยยามนี้และยามหน้า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ