ชีพจร พท.วันนี้เป็นเช่นใด... โดย... ทีมข่าวการเมืองเครือเนชั่น
รอยร้าวในอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นสำนักงานของพรรคเพื่อไทย (พท.) บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่นั้น คล้ายจะย้ำรอยแผลให้ปะทุขึ้นมาอีก จากกระแส ส.ส.หลายชีวิตบินไปยังนครดูไบเพื่อพบ “ทักษิณ ชินวัตร” เนื่องจากไม่พอใจบทบาทของประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่ชื่อ ”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”
แม้ล่าสุด "นายใหญ่” จะทวิตข้อความขอบคุณ ส.ส., หัวหน้าพรรคและคุณหญิงหน่อยที่ไปอวยพรปีใหม่ให้นายใหญ่และน้องสาวเพื่อสยบข่าวร้าวในพรรคแล้ว
ภาวะที่แท้จริงวันนี้ที่เพื่อไทยยังหลอมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันมิได้นั้น เนื่องจากหลายคนในพรรครู้ลึกๆ ว่า คีย์แมนแต่ละคนนั้นขึ้นตรงกับใครบ้างในตระกูลชินวัตร และแต่ละช่วงเวลาคีย์แมนคนใดจะรับบทนำตามที่คนในตระกูลชินวัตรให้ข้อแนะนำ
ตรงนี้เอง...จึงทำให้คีย์แมนแต่ละคนอาจจะเดินจังหวะคร่อมเลนจนคีย์แมนอีกฝ่ายหนึ่งในพรรคไม่แฮปปี้
รอยหมางใน พท.นั้นบังเกิดรางๆ ตั้งแต่คุณหญิงหน่อยชิงดำกับ “จาตุรนต์ ฉายแสง” กับเก้าอี้ประธานยุทธศาสตร์พรรค เพราะรอยปรินี้เริ่มในพรรคตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว จนตอนนั้น ”เดอะ อ๋อย” ย้ายไปพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) และเมื่อ ทษช.ไร้ชื่อในสารบบการเมือง “เดอะ อ๋อย” ก็มิได้กลับมาที่พท. แต่กลับไปทำหน้าที่ติวเตอร์ให้พรรคอนาคตใหม่ในช่วงที่ผ่านมา
รวมทั้งยามที่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคแทน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และ ”น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” มาเป็นเลขาธิการพรรคแทน ภูมิธรรม เวชยชัย ภาวะซ่อนดาบในรอยยิ้มก็ยังปรากฏเสมอ เพราะมันกระเพื่อมมาระยะหนึ่งแบบต่างกรรมต่างวาระที่สะสมพลังไม่พอใจจนถึงเวลาปะทุในตอนนี้ แม้นายใหญ่จะออกมาสยบความเคลื่อนไหวรอยหมางนี้แล้ว แต่ใช่ศึกว่านี้จะจบได้ง่ายๆ เพราะการคอนโทรลพรรคระยะไกลมันเหนื่อยนัก เห็นง่ายๆ ในยุคพรรคพลังประชาชน “สมัคร สุนทรเวช” คือคนที่นายใหญ่เลือกมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค แม้จะมีพ่อบ้านพรรคคือ “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” สายตรงจากชินวัตร รวมทั้ง ”เนวิน ชิดชอบ” ที่ยามนั้นขึ้นหม้อยิ่งในสายตานายใหญ่ คอยขับเคลื่อนเกมตามคำสั่งจากต่างแดนก็ตาม
เพราะสุดท้ายแล้วนายใหญ่และนายหญิงก็คอนโทรลรุ่นใหญ่อย่าง "สมัคร สุนทรเวช” มิได้ และสองขุนพลที่ส่งไปก็โดนข้อหา "แก๊งออฟโฟร์” จนสุดท้ายคนโตแดนอีสานใต้ต้องอกหักและเร้นกายออกมาตั้งพรรคภูมิใจไทย หลังดันสมัครกลับไปเป็น สร.1 ไม่ได้ เนื่องจากนายใหญ่กดปุ่มมาว่า 1 ใน 3 ส.แห่งพลังประชาชน (นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, สมพงษ์ อมรวิวัฒน์, สมชาย วงศ์สวัสดิ์) จะทำหน้าที่แทนสมัคร และสุดท้ายคำตอบคือ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์”
“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” คือใคร...หลายคนรู้คำตอบดี และมาทำหน้าที่ยามนั้นจากบทเรียนเรียกใช้คนนอกบ้านนั้นไม่ง่าย...
กาลยามนี้ของ พท. มันคล้ายจะย้อนรอยวันวาน แม้ข้อเท็จจริงจะแตกต่างจากวันนั้น แต่บางอย่างละม้ายคล้ายยิ่ง เพราะอาการคนในบ้านคร่อมเลนและเหยียบตาปลากัน
“สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” คือคนที่นายใหญ่หวังไว้เมื่อหลายสิบปีก่อนว่าจะทาบทามมาทำหน้าที่พ่อบ้านพรรคในยุคสร้างไทยรักไทยให้เติบใหญ่ แต่ตอนนั้น สมพงษ์ ย้ายมาไม่ได้เพราะมีสัญญาใจกับบรรหาร ศิลปอาชา แห่งพรรคชาติไทย ครั้นถึงเวลาอันสมควร สมพงษ์ จึงอำลามังกรเมืองสุพรรณมาสู่อ้อมอกพลังประชาชน และต้องเว้นวรรคไป 5 ปีเพราะโทษยุบพรรค เมื่อมีโอกาสคัมแบ็ก สมพงษ์ สายตรงคนเมืองเชียงใหม่ จึงมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยามนี้
ส่วน "คุณหญิงหน่อย” นั้นแนบแน่นกับนายใหญ่ตั้งแต่สมัยพรรคพลังธรรม, ช่วงก่อตั้งพรรคไทยรักไทยก็รับหน้าที่รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ต้นๆ ทั้งยังรั้งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข 4 ปี รวมทั้ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลไทยรักไทยสมัยที่สอง ก่อนจะเว้นวรรคเพราะโทษยุบพรรคไป 5 ปี เมื่อพ้นพันธะก็ตระเวนเดินงานสายบุญและแสดงความเห็นทางการเมืองบนโลกออนไลน์ก่อนมาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย จนได้รับเลือกเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
สองคนนี้เท่ากับว่าเป็นสายตรงคนในครอบครัวชินวัตร แต่อยู่ที่ว่าใครอยู่สายใด...และสายนั้นแข็งพอจะหักสายอื่นในครอบครัวได้หรือไม่...
ภาวะยามนี้คุณหญิงหน่อยคล้ายจะเสียเปรียบ เพราะหลายคนในพรรคมิค่อยแฮปปี้กับการนำเดี่ยวแทนหัวหน้าพรรค และไม่ค่อยแลเหลียว ส.ส.ที่มิยอมเดินตาม อีกทั้งกระแสปัจจัยที่จะดูแล ส.ส.ในพรรคก็มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงหน่อยมิได้ดำเนินการ จนใครหลายคนโร่ไปฟ้องนายใหญ่มาหลายครั้งแล้ว
แต่คุณหญิงหน่อยเคยเปรยกับคนแวดล้อมหลายวาระว่า มาครั้งนี้เพื่อกอบกู้พรรคกับภาวะที่โดนบีบล้อมทุกมุม ต้องขับเคลื่อนหลายจุดที่เคยพลาด โดยเฉพาะคนเมืองหลวงและคนรุ่นใหม่ที่เมิน พท.ไปเยอะมากจากรอยแผลในวันวาน ภาพลักษณ์พรรคใหม่ในวันนี้และวันหน้าคือสิ่งจำเป็นสุดในสายตาของคุณหญิงหน่อยและทีมงาน
ตรงนี้คือเส้นของความไม่ลงรอยกันและกันของแต่ละมุ้งในพรรคเพื่อไทย
คนการเมืองอาจพูดว่า พรรคการเมืองย่อมมีความเห็นแตกต่าง เพราะมีหลายคน แต่มันต้องยึดประโยชน์พรรคเป็นหลัก แต่แรงกระเพื่อมจากความไม่พอใจในบางเรื่องอาจขยายวงได้
และภาวะแบบนี้มันบังเกิดแล้วอีกคราวในพรรคเพื่อไทย แม้ศึกนี้จะยุติได้ยามที่นายใหญ่กดปุ่ม แต่รอยหมางในใจของแต่ละคนยากนักที่จะหยั่งได้ว่าเจือจางและเข้าใจในเหตุผลของอีกฝ่ายหนึ่งไปตามกาลเวลาหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง