ฤา..เรือเหล็กจะฝ่าช่องแคบลำบาก

 

 

          เห็นฤทธิ์แล้วว่า หากเจ็ดพรรคต้านลุงตู่ขยับอาวุธแล้วนั้น สภาผู้แทนฯ จะล่มทันควัน

          และสองวันมานี้สภาผู้แทนฯ ล่มสองครั้งรวด...

          จากการตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบตามมาตรา 44 ของหัวหน้าคสช.

 

 

          ขั้วต้านลุงตู่จะใช้กลเกมตามกติกาโดยอ้างหลายวาระและเหตุผลในการวอล์กเอาท์เช่นใดก็ได้ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าแรงสามัคคีบนเรือเหล็กยามนี้แผ่วยิ่งนัก...

          เมื่อกลเกมเป็นเช่นนี้ มันก็ต้องไปแบบนี้ เพราะปลาคนละน้ำนั้น อย่างไรเสียก็อยู่ร่วมข้องกันลำบาก !

          แปลความว่า เสียงข้างมากที่ปริ่มน้ำของเรือเหล็กในการคุมพังงาของกัปตันลุงตู่ หากเจอกลเกมของขั้วตรงข้ามแบบใช้เทคนิคทางกติกาเสยปลายคางไปสองครั้งติดๆ ก็พังได้ !

          แม้ลุงตู่และลุงป้อมคล้ายจะไม่ยี่หระ แต่ภาวะแบบนี้ไม่ใช่สิ่งดีนักสำหรับฝ่ายนิติบัญญัติในสายตาชาวบ้านและนักลงทุน เพราะมันสื่อถึงอายุการใช้งานของเรือเหล็กและกัปตันลุงตู่ว่าจะอยู่อีกนานและทนทานแค่ไหน ?

          ภาพแบบนี้ไม่ใช่มุมบวกของฝ่ายบริหารภายใต้การนำของลุงตู่และลุงป้อม เพราะความเห็นของสมาชิกรัฐสภาและกฎหมายคือเครื่องมือของรัฐบาลและรัฐสภา หากการร่างกติกาสะดุด จากฝ่ายนิติบัญญัติมันก็เหนื่อยสำหรับฝ่ายบริหาร

          แม้ขั้วหนุนลุงตู่จะมีเปรียบตรงท่อน้ำเลี้ยง เพื่อล่องูเห่าขั้วตรงข้ามมาเพิ่มเสียงไม่ให้ปริ่มน้ำ แต่ยามนี้กระแสงูเห่าของทั้งสองขั้วที่เริ่มขยับกันแล้วและอ้างเหตุผลต่างๆ นานาในการสวนแนวทางต้นสังกัด แต่หากคนร่วมเรือเหล็กสวมบทงูเห่าสวนแนวทาง...มันมิใช่สิ่งสนุกนึกเลย

 

          เมื่อเกมการเมืองขยับเยี่ยงนี้และส่งผลต่อการเดินจังหวะของเรือเหล็กบ้างแล้ว และเมื่อจังหวะมันขยับมาถึงตรงนี้ คนการเมืองทุกขั้วต้องรับกรรมไปทั่วหน้า และคนที่ต้องชั่งใจขนานหนักคือลุงตู่ว่าจะเดินจังหวะเช่นใดต่อไปไม่ให้สะดุดเพราะเค้าลางบางอย่างแสดงออกมาให้เห็นกันแล้ว...

          เพราะเสียงปริ่มน้ำที่มีอยู่มันบ่งบอกแล้วว่า จะขยับอะไรก็ยาก...หากขั้วตรงข้ามไม่ร่วมใจ

          ครั้นจะโทษฝ่ายค้านก็ป้ายสีไม่ได้เต็มเหนี่ยว เนื่องจากกลเกมที่ขั้วหนุนลุงตู่วางไว้มันมีช่องทางที่ขั้วต้านลุงตู่อาศัยกติกาแบบนี้เก็บแต้ม

          อย่าลืมว่าที่ผ่านมาคนในพปชร.ออกอาวุธแบบที่คนฝั่งตรงข้ามจับอาการได้ตรงประเด็นและแก้เกมแบบที่ทุกฝ่ายมองออก แต่คนในขั้วหนุนลุงตู่ก็ออกอาวุธไม่ได้มากไปกว่านี้เพราะหมดโควตาแล้ว...

          เสียวสันหลังแทนเลยว่า หากมีวาระสำคัญๆ แล้วเจรจากันไม่ลงตัวในสองขั้วในสภาผู้แทนฯ ภาพแบบนี้จะบังเกิดอีกไหม ?

          ช่องทางแบบนี้ การวางทุ่นและขวากหนามใต้น้ำคงจะเพิ่มในหลายวันข้างหน้า เพราะฝ่ายค้านบีบเส้นทางเดินของเรือเหล็กให้เข้ามาสู่ดินแดนแห่งอันตรายแล้ว...

          เสียงปริ่มน้ำเมื่อวันวานที่ส่งผลให้ลุงตู่คัมแบ็กรอบสอง วันนี้มันส่งผลในอีกด้านหนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไรก็ยากที่จะทำให้เรือเหล็กแล่นได้สบายๆ

          และยิ่งภาวะเกาเหลาของคนบนเรือเหล็กที่ค่อยๆ ฉายภาพออกมาเรื่อยๆ มันยิ่งตอกย้ำว่ากัปตันลุงตู่เหนื่อยหลายยกในการถือพังงาฝ่าอุปสรรค

          และเกมแบบนี้หากเกิดขึ้นอีก... พปชร.จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ยากยิ่ง เพราะเป็นพรรคหลักและมีพรรคร่วมเรือเหล็กอีกเพียบที่มิรู้ว่าจะหักทางขวางเมื่อใด ? และยามนั้นพปชร.กับลุงตู่คงจะอ่านรหัสได้ว่าการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

          ไทม์ไลน์สภาล่มสองวันซ้อน!
          27 พฤศจิกายน 2562
          16.50 น. เข้าสู่วาระเสนอตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ ม. 44 โดย "ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่นำทีมอภิปรายปัญหาในการใช้มาตรา 44 ของ “พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ในช่วงทำหน้าที่หัวหน้า คสช. เป็นเวลา 5 ปี
          สภาผู้แทนฯ มีมติเห็นชอบให้ตั้ง กมธ. ด้วยคะแนน 236 : 231 งดออกเสียง 2 เสียง
          เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำของ พล.อ.ประยุทธ์แพ้ฝ่ายค้านในช่วงลงมติและเป็นวาระสำคัญ
          “วิรัช รัตนเศรษฐ" ประธานวิปรัฐบาล เสนอนับคะแนนใหม่ ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 85 ท่ามกลางการประท้วงของฝ่ายค้าน 30 นาที
          “ชวน หลีกภัย" ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะประธานในที่ประชุม สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 15 นาที ตามที่ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" ผู้นำฝ่ายค้านเสนอ และมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหารือหลังบัลลังก์เพื่อหาข้อยุติแต่ตกลงกันไม่ได้
          18.55 น. สภาผู้แทนฯ กลับมาประชุมต่อ โดยประธานในที่ประชุมยืนยันคำวินิจฉัยเดิมให้นับคะแนนใหม่ แต่ต้องเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเสียงโดยเปิดเผยด้วยวิธีเรียกชื่อ ตามข้อบังคับข้อที่ 83 ระหว่างนี้ ส.ส. ฝ่ายค้านเริ่มวอล์กเอาท์ครั้งแรก
          “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน“ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอให้นับองค์ประชุม ก่อนที่ประธานในที่ประชุมจะเรียกองค์ประชุมพบว่ามี 92 เสียง ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบและช่วงก่อนหน้านั้น ”ประธานวิปรัฐบาล” เสนอขอปิดการประชุม แต่ไม่เป็นผล
          19.17 น. ประธานในที่ประชุมสั่งปิดการประชุม

          28 พฤศจิกายน 2562
          11.09 น. เข้าสู่วาระเสนอตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบมาตรา 44
          “สุทิน คลังแสง“ ประธานวิปฝ่ายค้านแจ้งว่า ”ฝ่ายค้านไม่ขออยู่นับคะแนน และไม่ร่วมทุกกระบวนการหากยังใช้มติเดิมของวันวาน”
          และ ส.ส.ฝ่ายค้านยืนยันหลายคนว่าหากจะนับคะแนนใหม่ ต้องขานมติเฉพาะ ส.ส. 467 เสียงที่อยู่ในองค์ประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย.
          11.19 น. “ชวน หลีกภัย" ประธานในที่ประชุมสั่งตรวจสอบองค์ประชุม โดย ส.ส.ฝ่ายค้านทยอยวอล์กเอาท์ครั้งที่สอง
          11.24 น. ประธานในที่ประชุมสั่งปิดการประชุมเพราะมีเพียง 240 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง (250 เสียงจาก 500 ส.ส.)

          กองหนุนเรือเหล็กเสียงปริ่มน้ำแพ้แล้วสี่ยก!
          การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ต้องล่มและปิดประชุม และฝ่ายรัฐบาลแพ้การลงมติเป็นครั้งที่ 4
          ไทม์ไลน์สี่ครั้งของความแพ้พ่ายนั้นมีดังนี้
          ครั้ง 1 วันที่ 8 สิงหาคม 2562 วาระพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ....
          ครั้งที่ 2 วันที่ 14 สิงหาคม 2562 วาระร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ....
          ครั้งที่ 3 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 วาระตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44
          ครั้งที่ 4 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 วาระตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44

          เป็นเพียงอุบัติเหตุการเมือง!
          “วิรัช รัตนเศรษฐ" ประธานวิปรัฐบาล ตอบคำถามสื่อมวลชนเหตุสภาล่มสองวันซ้อน !
          00 จะสามารถทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลต่อไปได้หรือไม่หลังการประชุมสภาล่มมา 2 ครั้ง
          “เหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาไม่ได้ถือว่าล่ม เป็นเพียงอุบัติเหตุทางการเมือง"
          00 จะไม่เป็นเกมได้อย่างไรในเมื่อการนับองค์ประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่นั่งอยู่ในห้องประชุมก็ไม่ได้ออกเสียง
          “เมื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ออกไปแล้ว เราก็ไม่สามารถไปดึงไว้ได้ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเองก็อยู่เฉยๆ รอดูถ้าพวกเขามาโหวตก็โหวตพร้อมกัน บางคนไม่โหวตก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามจะพยายามให้ฝ่ายรัฐบาลเข้าให้ครบในครั้งหน้า”
          00 กรณีที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วนโหวตสวน
          “ได้มีการแจ้งต่อจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ส่วนเป็นการตอบโต้กรณีที่ไม่เสนอชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานคณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่ภายในพรรคเขาจะจัดการกันเอง ถือเป็นสิทธิของสมาชิก”
          00 ในครั้งหน้าหากการประชุมสภาล่มและควบคุมเสียงไม่สำเร็จจะทบทวนการทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลของตัวเองหรือไม่
          “ไม่เป็นไร พร้อม”

          คุยกันก่อนโหวตแล้ว..
          “กรณีพรรคร่วมโหวตสวนทางกับรัฐบาลจนทำให้แพ้โหวต เป็นเรื่องของสปิริตไง จะให้ทำอย่างไร ซึ่งมีการพูดคุยกันก่อนโหวตแล้ว ไม่ต้องแก้ปัญหาเพราะเป็นเรื่องสปิริตของ ส.ส. และยืนยันไม่มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของบุคคล อีกทั้งไม่มีความกังวลถึงการโหวตในครั้งต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคล เพราะในส่วนของพรรคการเมือง พูดคุยกันเรียบร้อยดี"
          พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ

          ผมถือสัญญาลูกผู้ชาย
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม "เป็นเรื่องธรรมดา ผมติดตามดูแล้ว เพราะพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนติดราชการต่างประเทศ บางคนไปต่างประเทศกับผม กลับมาไม่ทัน เรื่องกฎหมายก็ว่ากันไป เป็นระบบของสภาไม่ใช่เรื่องของความไม่มั่นคงของรัฐบาล ผมยังเชื่อมั่นในความมั่นคงอยู่”

          “ผมถือว่าผมเป็นทหารเก่า ผมถือว่าสัญญาลูกผู้ชาย สุภาพบุรุษ สำคัญที่สุด การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง จะไปมองเรื่องนี้เรื่องเดียวไม่ใช่ต่อสู้กันทางการเมืองอย่างเดียวเลย จะมองไปในเรื่องการเลือกตั้งในอนาคต แต่มันยังไม่ถึงเวลาเลือกตั้ง ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาความมั่นคง และมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งสงครามการค้า แล้วเราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เลยหรือ โจมตีกันไปมา ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใครทั้งสิ้น แม้แต่กับพรรคการเมืองของตัวเอง ประชาชนเรียนรู้และตัดสินใจได้เองในวันหน้า เมื่อมีการเลือกตั้ง การทำงานอย่ามองว่ารัฐบาลสอนให้คนขี้เกียจ เรามองคนที่เขาไม่มี เขาจะทำอย่างไร มีอะไร ก็เสนอมา การโจมตีไปมา ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ประชาชนจะได้เห็นว่าสภาของเรา ส.ส.ของเรา ทำงานให้ประชาชน”

          ต้องวางตัวเป็นกลาง
          “เป็นสิทธิของสมาชิกที่ขอให้นับคะแนนใหม่ ผมไม่มีทางหลีกเลี่ยง ถ้าไม่ให้นับใหม่ผมก็ทำผิดข้อบังคับการประชุม ในฐานะประธานไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่จะให้ทำอย่างไรเพราะต้องวางตัวเป็นกลาง”

          “...หากฝ่ายค้านยังยืนยันที่จะวอล์กเอาท์อีกก็ไม่มีใครว่าอะไร เป็นเรื่องของรัฐบาล ในฐานะเสียงข้างมาก จะต้องนำสมาชิกมาให้ครบองค์ประชุม”
          ชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร

          ให้เปลี่ยนจุดยืนกลับไปกลับมาไม่ทำ
          สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ...ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายค้าน แต่อยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลจัดการไม่ได้เอง และกำลังเอาเรื่องรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกันหรือ หากจะนำเรื่องรัฐธรรมนูญเข้ามาก็จะเกิดการนับคะแนนใหม่อีก หากเที่ยวนี้ยอม เที่ยวต่อไปก็จะมีปัญหา