ข่าว

คำวินิจฉัย ศาล รธน.ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์จริงหรือ..ธนาธร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คำนิจฉัยศาล รธน.ให้นายธนาธร พ้น ส.ส.ถูกนายธนาธร ตอบโต้ทันควันว่า คำวินิจฉัยที่นำมาลงโทษเขาไม่มีหลักวิทยาศาสตร์ คำถามคือ คำวินิจฉัยไม่เป็นวิทยาศาสตร์จริงหรือ

       มีประเด็นที่น่าสนใจที่ ธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ  ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทันควัน หลังคำวินิจฉัยให้เขาพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. 

      กับประโยคที่ว่า  เหตุผลที่ศาลยกขึ้นมาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของผมสิ้นสุดลง ไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็น" วิทยาศาสตร์" 
   

          คำถามคือว่า....คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายธนาธร พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. เพราะถือครองหุ้นสื่อในขณะที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง  ไม่มีอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์จริงหรือ 

        ก่อนอื่นต้องถามนายธนาธรว่า หลักวิทยาศาสตร์ของนายธนาธร หมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงหลักเหตุและผล ศาลรัฐธรรมนูญก็อธิบายอยู่ในคำวินิจฉัย

         เหตุคือ นายธนาธร ถือหุ้นสื่ออยู่ในขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ยังไม่ได้โอนหุ้นสื่อให้เสร็จสมบูรณ์ครบถ้วนตามกระบวนการ 

            คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ :  พยานหลักฐานที่ได้จากไต่สวน ได้แก่ สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ซึ่งบริษัท วี-ลัคฯ ได้ยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฎว่านายธนาธรถือหุ้นบริษัทนี้จำนวน 675,000 หุ้น ตั้งแต่ 12 ม.ค. 2558  และพรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันที่ 6 ก.พ.62 มีชื่อนายธนาธรเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับที่ 1  ต่อมาภายหลังคือวันที่ 21 มี.ค. 2562 จึงปรากฏชื่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร เป็นผู้ถือหุ้นดังกล่าวในแบบ บอจ.5 "

            (แล้วอย่างนี้ยังไม่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พออีกหรือ)

            ผลก็คือ ขัดต่อกฎหมายห้ามไว้ จึงต้องพ้นจาก ส.ส.

            ส่วนจะเป็นเหตุผลที่นายธนาธร ชอบหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

         แต่ถ้าหลักวิทยาศาสตร์ของนายธนาธร หมายถึงการทดลองแล้วสรุปผลทดลองออกมาว่าเป็นไปตามสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตั้งไว้หรือไม่  ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะการพิพากษาคดีไม่ใช่ ฟิสิกส์ เคมี  วิทยาศาสตร์ล้วนๆ ทดลองกันในห้องวิทยาศาสตร์  

         และตามหลักกฎหมายมหาชน เช่น พรป.เลือกตั้ง ส.ส.  หากมีหลักฐานเชื่อได้ว่านายธนาธรผู้ถูกร้องกระทำผิด ศาลรัฐธรรมนูญก็ลงโทษได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องสิ้นสงสัยว่าจำเลยทำผิดหรือไม่เหมือนกับคดีอาญาจึงจะลงโทษได้

       แต่ถ้าจะเอาแบบสิ้นสงสัยนายธนาธร ก็ต้องรอคดีอาญา ซึ่งตอนนี้ กกต. ก็จ่อจะฟ้องนายธนาธร อยู่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส. ว่าลงสมัคร ส.ส. ทั้งที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง

     และ"สิ้นสงสัย"ในที่นี้หมายถึงวิญญูชนคนทั่วไปสิ้นสงสัย ไม่ใช่นายธนาธร สิ้นสงสัย หรือ สาวก พรรคพวกนายธนาธร สิ้นสงสัย

    อีกประเด็น นายธนาธร อ้างว่า ศาลให้น้ำหนักกับ"ข้อสันนิษฐาน"มากกว่าข้อเท็จจริง  เอาข้อสันนิษฐาน ข้อสงสัย มาลงโทษนายธนาธร

      สิ่งที่สื่อหลายสำนักนำเสนอเกี่ยวกับการถือหุ้นวี-ลัค มีเดีย ของนายธนาธร ชัดเจนเกินกว่า"ข้อสันนิษฐาน" มันละเอียดยิบชัดเจน ไม่ใช่ข้อสันนิษฐาน แต่เป็นข้อเท็จจริงหรือเกินกว่าข้อเท็จจริงด้วยซ้ำ คือมันคือความจริง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ