อนาคตชาวสีส้ม คอลัมน์... จี้จุดตาย..คลายจุดเป็น โดย... เร้นกาย ไร้เงา
วันวาน "คณะกรรมการการเลือกตั้ง” ได้ประชุมพิจารณาสํานวนการสืบสวน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง มีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท ต่อพรรคการเมืองต่อปี
อ่านข่าว... อนาคตใหม่ ถีบทิ้ง อนาคตเก่า
แต่ อนค.ยังนิ่งไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่อนุกรรมการ กกต.ขอมา กกต.จึงมีมติเรียกเอกสารเพิ่มจากพรรคสีส้ม
กกต.คล้ายโต้กลับหลังเสี่ยเอกยื่นฟ้อง 7 อรหันต์ไปเมื่อวันจันทร์
เหตุเช่นนี้แปลว่าระเบิดหนึ่งลูกถูกจุดและโยนเข้าไปยังอาคารย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้ว เพราะหลายวันก่อน "เสี่ยเอก” พูดเองกับสื่อนอกและแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. ว่าให้พรรคอนค.กู้เงิน 191 ล้านบาท
ความร้อนบนเวทีการเมืองคุกรุ่นขึ้นอีกประเด็น
วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะแจ้งให้สังคมรู้ผลว่า "หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” จะมีสิทธิ/หมดสิทธิทำหน้าที่ส.ส.จากกรณีการโอนหุ้นสื่อ วี-ลัค มีเดีย หรือไม่ ?
แต่ในฐานะผู้นำของชาวสีส้มแล้วนั้น ไม่ว่าอย่างไร...ธนาธรยังเป็นเสาหลักของอนค. แม้จะมี/ไม่มีเก้าอี้ผู้แทนราษฎร
ธนาธรก็ยังเป็นจิตวิญญาณในการนำชาวสีส้มทำงานการเมืองในรูปแบบและแนวทางเดิมมิเปลี่ยนแปลง เพราะอาการอยู่ไม่เป็น !
และจากนี้ไป...อีกกว่ายี่สิบคดีที่แกนนำและพรรคสีส้มต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์กันอีก โดยเฉพาะคดียุบพรรคจากหลากสำนวน แม้ยังไม่มีแววว่าจะเกิดขึ้นยามใด ?
หากให้ประเมินคงอีกหลายเดือนกว่าเรื่องราวเหล่านี้จะนำมาพิสูจน์และได้คำตอบในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม หากวันนั้นข้อกล่าวหาไม่มีมูล อนค.ก็ยังอยู่ในสารบบการเมือง หากวันนั้นข้อกล่าวหาในการยุบพรรคสีส้มมีมูล พรรคจะดับสิ้นไปและจะทำให้พรรคนี้แพแตกหรือไม่...
ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคสีส้มคนหนึ่ง บอกว่า “หากวันข้างหน้าพรรคโดนยุบ พรรคมี 80 ส.ส.ในตอนนี้เชื่อมั่นว่าเกือบทั้งหมดจะยังปักหลักกับอนค.” แปลว่าหากมีพรรคอนาคตใหม่ในสารบบการเมืองไทย ส.ส.ก็จะยังอยู่กับต้นสังกัด หากไม่มี อนค. ร้อยละ 80 จะเกาะกลุ่มไปขึ้นฝั่งใหม่ตามที่แกนนำพรรคจะชี้เป้า
และราวๆ ร้อยละยี่สิบอาจจะเรรวน/ปันใจไหลไปอยู่กับพรรคอื่นๆ ตามเงื่อนไขการเมือง
แกนนำชาวสีส้มระดับท็อปคนหนึ่งก็สำทับว่า “งูเห่าสีส้มนั้นมีอยู่แล้ว และวันนี้ก็ยังอยู่ รอเวลาที่จะเปิดตัวตามจังหวะการเมือง แต่ ส.ส.ส่วนใหญ่ยังเดินตามเจตนารมณ์ของพรรคต่อไป”
แปลความได้จากการพูดคุยในขั้นต้นคือ จะมี ส.ส.ชาวสีส้มสิบกว่าคนไหลไปขึ้นฝั่งกับพรรคอื่นที่ทอดไมตรีมาให้ในวันที่ไร้ชื่อ อนค. แต่จะไปค่ายใดขึ้นอยู่กับเงื่อนไข...
เมื่อแกนนำ อนค.ผู้นี้ระบุเยี่ยงนี้ มันคล้ายกับสิ่งที่คนไกลบ้านเคยพูดไว้ยามยุบพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทยในวันนี้ว่า “ยุบได้ยุบไป ตั้งพรรคใหม่ได้เพราะจิตวิญญาณและความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ชาวบ้านจดจำ ใครทรยศประชาชนจะได้รับการลงโทษ”
อนค.คงเรียนรู้บทเรียนนี้มาและประเมินว่าฆ่าอย่างไร...ชาวสีส้มก็ยังแจ้งเกิดใหม่ได้เสมอ
และเมื่อเป็นเช่นนี้ ขั้วหนุนลุงตู่ที่หวังบางชีวิตของชาวสีส้มให้มาเทแต้มและเพิ่มกำลังพลให้พ้นอาการปริ่มน้ำคงต้องพยายามขึ้นกว่าเดิมในการทาบทาม ส.ส.ชาวสีส้ม โดยต้องอดทนรอเวลาว่า อนค.จะโดนยุบพรรคหรือไม่และโดนเมื่อใด ?
ที่แน่ๆ ในช่วงหลายเดือนจากนี้ชาวสีส้มจะมีกิจกรรมและบทบาททั้งในและนอกสภามาเป็นระยะเพื่อย้ำภาพความเป็นพรรคให้แฟนคลับรวมทั้งสังคมจดจำไปเรื่อยๆ และหากผู้แทนราษฎรชาวสีส้มคนใดทรยศคะแนนเสียงของประชาชนที่เลือกไป วันนั้นคือวันมรณังของคนคนนั้นทางการเมืองเป็นแน่แท้
แบบนี้แสดงว่าแกนนำชาวสีส้มยักไหล่ไม่แคร์กับสิ่งที่จะบังเกิดในยามหน้า เพราะน่าจะรู้ชะตาว่าจะชีวิตเป็นเช่นใดและด้วยเหตุใด ?
เกมเสี่ยงที่แกนนำชาวสีส้มเปิดเล่นทำนอง "คามิกาเซะ” ของนักบินหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยในการทำศึกเมื่อยามสงครามโลกครั้งที่สองนั้น... นักการเมืองไทยส่วนใหญ่ไม่กระทำเยี่ยงนี้ แต่แกนนำชาวสีส้มกล้าที่จะเปิดเสี่ยง
บทเรียนประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่านักบินหนุ่มแห่งกองทัพเรือแดนอาทิตย์อุทัยยามนั้น สายลมแห่งสวรรค์พัดพาพวกเขาไปที่ใดหลังไร้ลมหายใจ
แกนนำชาวสีส้มคงใช้บทเรียนสายลมแห่งสวรรค์กับการเดินหมากการเมืองคราวนี้ และรู้เส้นทางชีวิตหลังจากนี้แล้วว่าจะเป็นเช่นใดต่อไปเช่นกัน...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง