คอลัมนิสต์

ช่วงเวลาอันตราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ช่วงเวลาอันตราย บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2562

 

 

          วันที่ 1 ธันวาคมนี้ สารเคมีเกษตร 3 ชนิด คือพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต จะถูกขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 ซึ่งหมายถึงวัตถุอันตรายที่ห้ามผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ตามมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เท่ากับว่า นับตั้งแต่วันนั้น เกษตรกรหรือใครก็ตาม หากใช้หรือมีสารพิษเหล่านั้นไว้ในครอบครองจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ 2 สัปดาห์นับจากนี้ ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุด ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องเร่งแจ้งข่าวสาร และทำความเข้าใจกับเกษตรกร ผู้ค้าเคมีเกษตรให้ทั่วถึง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดตามมา โดยเฉพาะที่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร

 

อ่านข่าว...  อึ้ง 3 สารพิษแปลงโฉม พาราควอตผสมปุ๋ยอินทรีย์ ดีเอสไอบุกทลาย

 

 


          ด้านความเคลื่อนไหวของกระทรวงเกษตรฯ รัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรบอกว่า ได้มีหนังสือเชิญ 3 สมาคมผู้ส่งออก-นำเข้า 3 สารเคมี มาประชุมวันที่ 21 พฤศจิกายน เพื่อหารือถึงมาตรการรับคืนสารเคมีจากประชาชน เกษตรกร และการส่งออกสาร 3 ชนิดไปประเทศที่สาม หรือประเทศต้นทาง จากนั้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน กระทรวงเกษตรฯ จะประชุมสารวัตรเกษตรทั่วประเทศจำนวน 300 กว่าคน เพื่อรับทราบแนวทางในการลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกรและประชาชนที่มีสารทั้ง 3 ชนิดไว้ในครอบครอง โดยจะมีแนวทางปฏิบัติสำหรับเกษตรกร ซึ่งจะต้องนำสารพิษไปส่งคืนบริษัท ร้านค้า หรือเอเย่นต์

 


          อย่างไรก็ตาม การแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ยังส่งผลกระทบต่อบางอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ซึ่งต้องพึ่งพิงวัตถุดิบการเกษตรนำเข้าจากประเทศที่ยังใช้สารเคมีอยู่ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่า ต้องปลอดจากสารเคมีปนเปื้อน 100% กรณีนี้ ประธานกรรมการหอการค้าไทยแจ้งว่า จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแนะแนวทางการดูแลของภาครัฐ เช่น แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ซื้อสารเคมีไว้ก่อนหน้าแต่ยังไม่ได้นำออกใช้ กฎเกณฑ์การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งหากยึดตามมาตรฐานการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ จะเอื้อประโยชน์ต่อการนำเข้าวัตถุดิบจากบางประเทศที่ยังใช้สารเคมีอยู่

 

 

 

          อย่าว่าแต่วันที่ 1 ธันวาคม ที่มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีผลบังคับใช้ ที่ยิ่งน่าสนใจก็คือ ก่อนหน้านี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้มีประกาศมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดมาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมาแล้ว กล่าวคือ เกษตรกร ผู้รับจ้างพ่นสารเคมี ผู้ค้าสารเคมี จะต้องผ่านการอบรมจากวิทยากรจากหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง แต่นับจากนั้น ก็ยังมีคำถามว่า หน่วยงานรัฐ หรือสารวัตรเกษตรได้ตรวจสอบอย่างถ้วนถี่หรือไม่ว่า การปฏิบัติเป็นไปตามประกาศของกระทรวง ยังไม่นับการกักตุนของร้านค้า ในระดับครัวเรือน การเร่งใช้สารเคมีในฤดูการผลิตสุดท้าย รวมถึงการปลอมแปลงเช่นที่ตำรวจได้จับกุมแหล่งผลิตมาแล้ว ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า หากรัฐบาลไม่เคร่งครัดจริงจัง ในทางปฏิบัติจะมีปัญหาตามมาอีกมาก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ