คอลัมนิสต์

ดราม่า2.2ล้านล้านบาท เชื่อ'บิ๊กตู่'แค่โยนหินถามทาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ค้านปล่อยกู้เงินกองทุนประกันสังคม"ชาลี"เชื่อดราม่า 2.2ล้านล้านบาท "บิ๊กตู่" แค่โยนหินถามทาง ชี้เสี่ยงกองทุนล่ม-ผิดกฏหมาย แนะรื้อบอร์ดใหม่ หลังม.44ไม่เคยเปลี่ยน

 

 

         กลายเป็นประเด็นดราม่าในสังคมไทย หลังพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนำเงินกองทุนประกันสังคม ให้ผู้ประกันตนกู้ยืมเพื่อลงทุนทางสังคมหรือตามความจำเป็นอื่นๆนั้น

          อ่านข่าว :  "คสรท.-สรส."บุกทำเนียบวันแรงงานทวงถาม 10 ข้อเสนอ

 

 

 

 

 

         เกี่ยวกับเรื่องนี้ "นายชาลี ลอยสูง"  รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)เปิดเผยกับ “เว็บไซด์คมชัดลึก” ว่า ตามพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ไม่สามารถนำเงินมาปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตนได้ เพราะผิดกฏหมาย อีกทั้งหากทำเช่นนั้นจะเกิดปัญหาผู้ประกันตนหลั่งไหลเข้ามากู้และสุดท้ายจะกระทบกองทุนภาพรวมอาจล่มได้ไปจนถึงเงินบำนาญของผู้ประกันตนทุกคน

 

      “ดังนั้นหากจะปล่อยกู้ให้กับผู้ประกันตนและคิดดอกเบี้ยนั้นผมไม่เห็นด้วย เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การเลิกจ้างมีมากขึ้น  จึงไม่รู้ว่าหากกู้ไปแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่ายคืน แต่จะสนับสนุนหากเป็นในลักษณะของการนำเงินบำเหน็จบำนาญบางส่วนมาใช้โดยมีเงื่อนไข แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อถึงวันรับเงินบำนาญเงินจะลดน้อยลงเพราะต้องหักส่วนที่เอาไปใช้ก่อนแล้ว และเรื่องนี้เคยมีการทำประชาพิจารณ์ผู้ประกันตนไปแล้วเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกรณีนี้” นายชาลีกล่าว

 

     นายชาลี กล่าวอีกว่า ในส่วนหากจะปล่อยกู้ให้กับนายจ้าง ผู้ประกอบการ จริงๆ เคยทำมาแล้ว โดยทำเป็นโครงการร่วมกับทางธนาคาร ซึ่งมีเงื่อนไขมาก โดยนายจ้างหรือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาการดำเนินการและต้องการเงินสามารถขอกู้ผ่านโครงการของสำนักงานประกันสังคมร่วมกับธนาคารได้ มีวงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาใช้ไป 5,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรื่องการกู้เงินนั้น หากสำนักงานประกันสังคมจะทำก็ต้องทำร่วมกับธนาคาร โดยสามารถใช้เงิน 10 เปอร์เซ็นต์จากกองทุนไปลงทุนได้ แต่ก็จะมีเงื่อนไขจำนวนมาก รวมไปถึงการให้ผู้ประกันตนกู้ซื้อบ้านก็จะทำเป็นโครงการ

 

      ในระเบียบของสปส. ได้หาช่องทางในการเพิ่มมูลค่าจากวงเงิน 2.2ล้านล้านบาท จากผู้ประกันตนจำนวน 11-12 ล้านคน อยู่แล้ว ในรูปแบบของนำเงินไปฝากกับทางธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ย การซื้อหุ้นบางจาก  การซื้อพันธบัตรรัฐบาล  การลงทุนตราสารเงินต่างประเทศ  เป็นเรื่องที่สำนักงานประกันสังคมทำกันอยู่แล้ว และได้รับผลประโยชน์ประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท

 

 

 

    “ผมเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี แค่โยนหินถามทาง  คงไม่ปล่อยกู้เงินกองทุนประกันสังคม เพราะหากจะทำจริงต้องศึกษาผลดี ผลเสีย อีกทั้งหากปล่อยกู้โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ใครจะประกันความเสี่ยง เพราะเงินเหล่านี้เป็นสิทธิ์ที่ผู้ประกันตนควรได้รับการคุ้มครอง เพราะกองทุนฯเสี่ยงล่ม ไม่ใช่คิดจะเอาเงินไปทำอะไรก็ได้ ขณะนี้ผมเดินหน้าฟ้องสปส.อยู่หลายคดีถึงความไม่ชอบมาพากล ในการนำเงินไปใช้ เช่นการซื้อหุ้นบางจาก ของปตท.” นายชาลี กล่าว

 

      นายชาลี เสนอรัฐบาลว่า สิ่งที่ควรทำคือการขยายเวลาเกษียณในตำแหน่งงานของผู้ประกันตน จาก 55 ปี เป็น 60 ปีเพื่อให้ผู้ประกันตนอยู่ในระบบให้นานที่สุด รองรับสังคมผู้สูงวัย และเป็นการยืดระยะเวลาเงินในกองทุนให้ได้มากขึ้น ขณะเดียวกันควรจะมีการทบทวนบอร์ดประกันสังคม ทั้ง 3 ชุด หลังมีคำสั่งตามมาตรา 44 ไม่เคยมีการเปลี่ยนบอร์ดสปส.ชุดนี้อีกเลย ทั้งที่หมดวาระไปนานหลายปีแล้ว หากปล่อยไว้ อาจจะมีการร้องเรียนเพราะผิดมาตรา 157 

   

      "ขอให้นายกฯล้มเลิกความคิดนี้ซะ เพราะไม่งั้นผู้ประกันตนเกือบ 12 ล้านคน อาจจะเข้าใจผิดว่ารัฐบาลถังแตก  อาจจะมีการฟ้องร้องศาลปกครองได้ อีกทั้งขยายการเปิดช่องให้โรงพยาบาลเอกชนเก็บ 60 บาทเป็นค่าบริการทางการแพทย์นั้น ดูไม่ชอบมาพากล เพราะค่าบริการทางการแพย์คิดค่าหัว1,500 บาท อยู่แล้ว เรื่องนี้ผมกำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกันตน"  รองประธาน คสรท.กล่าวในที่สุด

                      ...กมลทิพย์  ใบเงิน...รายงาน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ