คอลัมนิสต์

รถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุเพราะเศษมันสำปะหลังตกหล่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุเพราะเศษมันสำปะหลังตกหล่น คอลัมน์... เรื่องน่ารู้วันนี้...กับคดีปกครอง โดย... นายปกครอง

 

 

 

          พูดถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ขับรถราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ขับรถพยาบาลนับว่าเป็นอาชีพที่ต้องมีสติ มีความกดดัน และต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถสูง เพราะต้องเร่งรีบนำส่งผู้ป่วยให้ถึงมือหมอโดยเร็วที่สุด ยิ่งช่วงที่ฝนตกถนนลื่น ผู้ขับขี่ย่อมต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ รวมทั้งกรณีที่มีเหตุเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด เช่น มีสิ่งกีดขวางการจราจร หรือมีสิ่งของตกหล่นบนถนน

 

 

          โดยหลักการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2537 กรณีอุบัติเหตุเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การปฏิบัติหน้าที่ขับรถ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานขับรถจะรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นเฉพาะเมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น แต่หากอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อ (ธรรมดา) แล้ว เจ้าหน้าที่ผู้นั้นจะไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพราะหน่วยงานของรัฐต้นสังกัดจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด


          ฉะนั้นในกรณีที่มีอุบัติเหตุและมีความเสียหายเกิดขึ้น เช่น รถราชการเสียหาย จึงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่าผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ ในลักษณะเป็นความประมาทเลินเล่อ (ธรรมดา) หรือมีพฤติการณ์เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีผลต่อความรับผิดของเจ้าหน้าที่ดังที่กล่าวไปแล้ว


          เช่นเรื่องที่จะคุยกันวันนี้... กรณีรถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุ แต่โชคดีที่เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่นำส่งผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว คดีนี้...ผู้ฟ้องคดีตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ของโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ขับรถยนต์ตู้ไปส่งต่อผู้ป่วยที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง โดยมีนางสาวสวยและนายแมน พยาบาลวิชาชีพนั่งไปด้วย เมื่อส่งผู้ป่วยเสร็จจึงขับรถเดินทางกลับ โดยมีนางสาวสวยนั่งคู่อยู่ตอนหน้ากับผู้ฟ้องคดีโดยไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนนายแมนนั่งอยู่ในห้องโดยสารหลังคนขับ

 



          ระหว่างทางมีเศษมันสำปะหลังตกหล่นอยู่และถูกรถทับจนเละและเปียกแฉะเต็มพื้นถนน ผู้ฟ้องคดีไม่สามารถบังคับรถให้แล่นไปได้และลื่นไถลตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าผู้ฟ้องคดีไม่ต้องรับผิด แต่กระทรวงการคลังพิจารณาสภาพความเสียหายแล้วเชื่อว่าได้ขับมาด้วยความเร็วสูงถือเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์คำสั่ง แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยกอุทธรณ์ ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว


          ประเด็นสำคัญของคดี คือผู้ฟ้องคดีขับขี่รถยนต์ขณะฝนตกและมีเศษมันสำปะหลังบนพื้นถนนด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่?


          ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่าปรากฏเศษมันสำปะหลังตกอยู่เกลื่อนพื้นถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อได้ว่าเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดก่อนที่ผู้ฟ้องคดีขับรถผ่านบริเวณนั้นไม่นาน ส่วนความเสียหายของรถพยาบาลปรากฏว่า ด้านหน้าของเครื่องยนต์ ตัวถังด้านหน้าได้รับความเสียหาย แต่ไม่ลึกถึงห้องโดยสารคนขับและผู้โดยสารด้านข้าง ไฟหน้าสองข้างและกระจกด้านหน้าไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ปรากฏชัดมีเพียงนางสาวสวยเพราะเหตุไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนผู้ฟ้องคดีและนายแมนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย


          และเมื่อพิเคราะห์ใบสั่งซ่อมประเมินค่าใช้จ่ายที่มีการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถ ซึ่งโดยสภาพรถยนต์ตู้ที่ดัดแปลงมาเป็นรถพยาบาลด้านหน้ารถมีสภาพหน้าตัด เมื่อรถไถลตกกระแทกพื้นที่ความสูง 5 เมตร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายตามใบสั่งซ่อม ประกอบกับการที่รถพยาบาลได้รับความเสียหายอย่างหนักเฉพาะด้านหน้าและมีค่าซ่อมสูงจากระบบไฟฟ้า ชุดเกียร์ และกล่องควบคุม นอกนั้นเป็นการซ่อมตามสภาพของรถที่ตกจากที่สูง กรณีนี้จึงน่าเชื่อว่าผู้ฟ้องคดีไม่ได้ขับรถมาด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดในขณะที่มีฝนตกและถนนลื่น เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้ชะลอความเร็วลงเมื่อเห็นคนเก็บมันสำปะหลังข้างทาง แต่การที่มีมันสำปะหลังกระจายและละลายบนผิวถนนยิ่งทำให้ถนนลื่นกว่าสภาพฝนตกโดยปกติ ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นตามวิสัยของผู้มีประสบการณ์และอาชีพขับรถ โดยลดความเร็วในระดับที่ขับผ่านได้ปลอดภัยหรือหยุดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย การที่ผู้ฟ้องคดีใช้ความระมัดระวังตามวิสัยของการขับรถในขณะฝนตกและถนนลื่นเท่านั้น จึงยังไม่เพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงภัยจากความลื่นของมันสำปะหลังซึ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นเป็นพิเศษได้   อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ฟ้องคดีได้ใช้ความระมัดระวังในฐานะผู้มีอาชีพขับรถโดยไม่ห้ามล้อรถพยาบาลทันที เนื่องจากอาจทำให้รถหมุนและพลิกคว่ำได้ จึงถือเป็นการใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ของผู้มีอาชีพขับรถแล้ว ซึ่งหากผู้ฟ้องคดีใช้ความเร็วสูงความเสียหายน่าจะรุนแรงมากกว่าที่เป็น


          พฤติการณ์แห่งคดีน่าเชื่อว่าผู้ฟ้องคดีกระทำการโดยประมาทเลินเล่อแต่ไม่ร้ายแรงจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 8 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งที่พิพาท (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 431/2562)


          คดีนี้...ถือเป็นตัวอย่างแนวทางในการพิจารณาพฤติการณ์ที่ถือเป็นประมาทเลินเล่อ (ธรรมดา) ของพนักงานขับรถ และยังเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะของทางราชการซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในภาวะที่มีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น ฝนตก ถนนลื่น มีสิ่งกีดขวางทางสัญจร ภัยธรรมชาติ หรือมีสิ่งของตกหล่นบนพื้นถนน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดการณ์หรือหลีกเลี่ยงได้ ทั้งนี้ผู้ขับขี่จะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในขณะขับขี่ด้วยว่าอาจก่อให้เกิดหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหรือไม่ รวมทั้งไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ผู้โดยสารหรือผู้ร่วมเส้นทางก็ควรต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตนเองด้วย เรียกว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” นะครับ !
  

          (ปรึกษาคดีปกครองได้ที่สายด่วนศาลปกครอง 1355 และสืบค้นบทความเรื่องอื่นๆ ได้จาก www.admincourt.go.th เมนูวิชาการ เมนูย่อยอุทาหรณ์จากคดีปกครอง)


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ