คอลัมนิสต์

ทอม เครือโสภณ ขอให้ผมได้เสนอและอาสาทำในสิ่งที่ผมเคยบ่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลือกตั้งผู้ว่า กทม.ต้นปีหน้า ทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง ประกาศว่าจะขอลงสมัครผู้ว่าฯกทม.แบบอิสระในครั้งนี้ด้วย ขอเสนอและอาสาทำในสิ่งที่ตนเองเคยบ่น

     ทีมข่าวการเมืองเครือเนชั่น

     แน่ชัดแล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ในช่วงปีหน้าคงจะเกิดขึ้น เพราะคำพูดของ”พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ระบุล่าสุดว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือเพื่อเตรียมดำเนินการจัดการเลือกตั้ง
     “สนามกทม.และอบจ.”คือเวทีแรกๆที่จะเกิดเลือกตั้งท้องถิ่น  คนการเมืองหลายคนประเมินว่าช่วงเดือนเม.ย.
-พ.ค.ปีหน้าคือห้วงเวลาที่น่าจะเหมาะสมที่จะมีการหย่อนบัตร  โดยหลายพรรคเตรียมที่จะส่งคนและทีมงานของตัวเองลงชิงชัยเพราะสนามท้องถิ่นนั้นส่วนหนึ่งยึดโยงกับฐานคะแนนของการเมืองระดับชาติด้วย
      จะเห็นว่าที่ผ่านมานั้น บางพรรคเช่น เพื่อไทย,อนาคตใหม่ทะยอยเปิดตัวผู้สมัครในสนามนายก อบจ.ตามที่พรรคนั้นๆมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะไปบ้างแล้ว....

      แต่การชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.นั้น ตอนนี้ ”ชัชชาติ สิทธิพันธุ์,โฆษิต สุวินิจจิต,รสนา โตสิตระกูล “เปิดตัวกับสังคมมาระยะหนึ่งว่าสนใจที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.แบบอิสระ

     แต่พรรคใหญ่ๆเช่น” ประชาธิปัตย์, เพื่อไทย ,อนาคตใหม่”  แม้จะแสดงออกเบื้องต้นว่า”พร้อมที่จะส่งบุคคลในนามพรรคลงแข่งขันในเวทีนี้” แต่ทั้งสามพรรคหลักที่หวังปักธงเมืองหลวงในเวทีนี้ยังไม่แสดงตัวชัดนักว่า จะส่ง”ใคร”ลงแข่งขัน
      “ทอม เครือโสภณ”นักธุรกิจชื่อดังและเคยไปช่วยงานพรรคภูมิใจไทยมาระยะหนึ่งหลายวันก่อน”ทอม”ประกาศว่าจะขอลงสมัครผู้ว่าฯกทม.แบบอิสระในครั้งนี้ด้วย
     “ทอม”กล่าวกับ "เครือเนชั่น"ในการตัดสินใจครั้งนี้ว่ามีเหตุผลเช่นใดจะขอลงแข่งขันในเวทีนี้  และคำตอบอยู่ที่นี่
      #ทำไมตัดสินใจลงสนามนี้
     ผมเบื่อในสิ่งที่ผมบ่นมาเสมอว่าปัญหาของกทม.มีหลายเรื่องแต่ผู้บริหารแก้ไม่ได้ และเมื่อผมบ่นแล้วมีสิ่งที่น่าจะบรรเทาปัญหาและทำให้กทม.ดีขึ้นได้ ทำไมไม่มาอาสาทำเอง ดังนั้นสิ่งที่ผมเสนอ ผมจะเสนอสิ่งที่ทำแล้วเป็นไปได้
 ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ผมไม่ติดใจ มันไม่ใช่โจทย์ ขอตั้งประเด็นว่า ผู้บริหารกทม.ควรมีบทบาทเช่นใด สิ่งที่จะเปลี่ยนกทม.คือความกล้าและการที่จะทำให้คนกทม.มีความสุขอย่างไรดีกว่า

   #ลงสมัครแบบไม่มองว่าจะชนะ แปลว่าอะไร

 ที่ผ่านมาพบแล้วว่าผู้ว่าฯกทม.สังกัดพรรคการเมืองนั้นคนกทม.จำเจและอกหักแค่ไหน ควรที่จะทดสอบกับคนใหม่ๆบ้าง คนกทม.คือคนที่ตัดสินใจในครั้งนี้ สิ่งที่ตนเสนอนั้น แม้อาจไม่ชนะ แต่หวังนำความจริงมาแก้ปัญหา และมองว่าคงยากและอีกนานที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

 # ทำไมมองแบบนั้น
   ที่ผ่านมาเลือกตั้งส.ส.เลื่อนกี่รอบ ลึกๆแล้วเลื่อนเพราะบางพรรคไม่พร้อม เมื่อพร้อมแล้วจึงเลือกตั้ง สภาวะการเมืองปัจจุบันผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบันยังทำงานให้รัฐบาลได้  บวกกับปัญหาการเมืองวันนี้และวันหน้า สมมติว่าหากรีบระบุวันเวลาเลือกตั้ง บางพรรคที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลเปิดตัวผู้สมัคร แบบนี้บางพรรคที่หนุนรัฐบาลนี้เสียเปรียบแน่ ตนมองว่า คดีการเมืองที่เกี่ยวกับการยุบพรรคของบางพรรคต้องยุติก่อน        แล้วจึงจะมีการระบุห้วงเวลาเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ชัดเจนออกมา

    ดังนั้นจึงมองว่าตอนนี้รัฐบาลยังไม่อยากให้จัดเลือกตั้ง และคงดึงเวลาไปเรื่อยๆจนกว่าบางพรรคที่หนุนรัฐบาลจะมีผู้สมัครที่มีชื่อเสียงมาสมัคร

       อย่าลืมบางประโยคทางการเมืองไทยว่า คนต่างจังหวัดเลือกรัฐบาล คนกทม.ล้มรัฐบาล กรณีนี้ก็เช่นกัน 

      แนวทางที่จะเสนอคนกทม.ให้พิจารณามีอะไร
      ปัญหากทม.นั้นผมมีโจทย์ง่ายๆข้อแรกว่า ผู้บริหารกทม.ต้องไม่ไปรับใช้รัฐบาลและรมว.มหาดไทยแบบเต็มตัว ไม่รับใช้คนที่มาหาผลประโยชน์คือไม่ใช่ขี้ข้า ผู้บริหารกทม.ต้องมีอิสระ ศักดิ์ศรีตามที่คนกทม.ลงคะแนนให้

     หากผู้ว่าฯกทม.มาจากระบบพรรค แน่นอนว่าต้องรับใช้รัฐบาล

     แน่นอนว่าการทำงานของผู้ว่าฯกทม.ต้องประสานรัฐบาลส่วนกลาง ผมเชื่อว่าหากผมได้รับความไว้วางใจ ผมทำหน้าที่นี้ได้

    ข้อต่อมา เสน่ห์ของกทม.ที่คนทั้งโลกรู้จักคือสตรีทฟู้ด เราต้องฟื้นขึ้นมาด้วยการจัดระเบียบใหม่ สมัยก่อนมีการปิดถนนบางเส้นในกทม.ในวันหยุด เช่น สีลม เป็นต้น นักท่องเที่ยวก็เข้าไปเยอะ สร้างรายได้ให้พ่อค้าแม่ค้าที่มีทุนน้อยได้ 
      ข้อต่อมา สิ่งแวดล้อม คลองในกทม.มีน้ำเน่าเสีย แล้วทำไมเมืองใหญ่ๆของโลกหลายเมืองเคยมีปัญหานี้แต่แก้ไขได้เพราะรณรงค์ไม่ให้คนในเมืองนั้นไม่ให้มักง่ายและใส่สารเคมีบำบัดน้ำเสียในคลองนั้นๆ
      ข้อต่อมา ผู้บริหารต้องไม่โกง  ต้องลดการทุจริตให้ได้ หากพบว่าลูกน้องในหน่วยงานโกงนั้นเป็นเพราะหัวหน้าอาจจะโกงด้วย ดังนั้นขอท้าคนที่สนใจจะสมัครผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ว่า จะลงนามในสัญญาหรือไม่ว่า หากตัวเองโกงจะรับโทษประหารชีวิตหรือไม่ เพราะเวียดนามและจีนก็ประหารชีวิตผู้บริหารที่ทุจริต

       ข้อต่อมา ระบบจราจร ไม่ต้องพูดเลยว่าจะแก้ปัญหาจราจรได้  ข้อเท็จจริงวันนี้คือรถยนต์มากกว่าถนน เรื่องนี้ผมทำไม่ได้ แต่หากผมมีโอกาสจะทำให้การจราจรในกทม.บรรเทาและดีขึ้น คือผมไม่เสนอสร้างระบบการขนส่งขนาดใหญ่ เพราะวันนี้มีการดำเนินการหลายโครงการแล้ว

      ผมจะเสนอการลดการใช้ยานยนต์บนถนน คือ ช่วง06.00-09.00น.และ 16.00-19.00น.ขอให้ตำรวจจราจรลงมาโบกรถบนถนน เพราะคนใช้รถมักกลัวตำรวจ หากไม่มีตำรวจแม้มีสัญญาณจราจร คนมักจะฝ่าฝืน และช่วงเวลานั้นการจราจรหนาแน่น และชอบฝ่าฝืนกฎ หากมีตำรวจตรงนี้จะช่วยได้

      การลดการเดินทางไปทำงาน หากบริษัทเอกชนให้พนักงานทำงานนอกสถานที่หรือทำงานจากบ้านได้วันนี้ระบบออนไลน์ทั่วถึง ทุกคนทำงานจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือได้ พนักงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัท ก็ไม่ต้องใช้ถนนในการเดินทาง หากบริษัทใดทำแบบนี้ ผมจะลดภาษีให้ เพราะมันลดต้นทุนการเดินทาง และเมืองใหญ่ๆในโลก เช่นนิวยอร์กก็ใช้วิธีนี้แล้ว
      การทำงานของเอกชนกับราชการ ทำไมเข้าและออกงานในเวลาเดียวกัน แบบนี้ การจราจรมันติดขัดหรือไม่ หากเหลื่อมเวลาการทำงานไม่ให้ตรงกันนัก มันลดการใช้พื้นที่ถนนได้
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ