คอลัมนิสต์

เบรก สม รังสี รักษาสัมพันธ์ ฮุนเซน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เบรก สม รังสี รักษาสัมพันธ์ ฮุนเซน คอลัมน์...  ถอดรหัสลายพราง  โดย... พลซุ่มยิง

 

 

 

          ขณะที่ทุกสายตาจับจ้องไปยังการประชุมสุดยอดอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 35 


          ในระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะใช้เวทีดังกล่าวเจรจากับสหรัฐหลังถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรทางการค้า (จีเอสพี) แล้ว ยังเป็นการโคจรมาพบกันของผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา 

 

 

 

 

          การเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยถูกยกระดับในขั้นสูงสุดภายใต้การกำกับดูแลของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยการสนธิกำลังระหว่าง ตำรวจ-ทหาร กว่า 10,000 ชีวิต พร้อมแผนปฏิบัติการรองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หวังกู้หน้าและเรียกความเชื่อมั่นคืนกลับประเทศไทยที่ประสบความล้มเหลวในการจัดการประชุมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 


          ในห้วงปี 2552 เกิดวิกฤติการเมือง มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเป็นเวลาเดียวกันที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘คนเสื้อแดงได้บุกเข้าไปในโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงาน ส่งผลให้การประชุมต้องยกเลิก ท่ามกลางข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นการทำลายภาพลักษณ์ประเทศและความล้มเหลวในมาตรการรักษาความปลอดภัยของรัฐบาล


          มาครั้งนี้ “บิ๊กป้อม” ถอดเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียน โดยวางมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียนครอบคลุมทุกมิติ หลังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนมีความพยายาม ‘ดิสเครดิต’ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงจัดงานสำคัญนี้ ประกอบกับการส่งเจ้าหน้าที่ประกบติดผู้ต้องสงสัยทั้งในและนอกประเทศตลอดจนถึงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์


          แต่ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนหลังมีกระแสข่าว ทางการไทยปฏิเสธไม่ให้ นายสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) และอดีตพรรคฝ่ายค้านกัมพูชาใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางเข้า “กราบแผ่นดินกัมพูชา” ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งตรงกับวันเอกราชของกัมพูชา ครบรอบ 66 ปี ภายหลังมีการร้องขอมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

 




          รายงานข่าวพบว่าคำปฏิเสธของทางการไทยมีขึ้นเนื่องจากกังวลจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและอาจส่งผลไปถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ในฐานะไทยเป็นประธานอาเซียน


          ภายหลัง นายสม รังสี ประกาศชัดว่าการกลับมาครั้งนี้จะมีการปลุกระดมชาวกัมพูชาให้ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลสมเด็จฮุนเซน พร้อมนัดหมายกลุ่มผู้สนับสนุนเมืองปอยเปต


          ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีเส้นทางสะดวกสุดที่จะใช้เป็นทางผ่านเข้ากัมพูชา เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางการไทยเคยกักตัวนางมู โสชัว อดีตรองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือซีเอ็นอาร์พี อดีตพรรคฝ่ายค้านชั้นนำของกัมพูชาได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและส่งตัวกลับไปยังประเทศที่เดินทางมาคือกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย 


          สอดคล้องกับ ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ วิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต เชื่อมั่นว่าทางการไทยคงไม่อนุญาตให้ สม รังสี ใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อไปเคลื่อนไหวในประเทศกัมพูชาเพราะความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาขึ้น-ลง วูบวาบเหมือนตลาดหุ้น ที่เป็นไปตามสถานการณ์ แม้ปัจจุบันความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศอยู่ในระดับดีโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระดับผู้นำระหว่าง สมเด็จฮุนเซน และพล.อ.ประยุทธ์ 


          “ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องภายในประเทศกัมพูชาจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากกัมพูชามีการบังคับใช้กฎหมายแบบเด็ดขาดกับกลุ่มต่อต้าน ในขณะเดียวกันเครือข่าย สม รังสี ในประเทศกัมพูชาเบาบางลงไปมากแล้ว” ผศ.วันวิชิต ระบุ


          ทั้งนี้หากย้อนดูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยจะเห็นได้ว่าเริ่มระหองระแหงมาตั้งแต่ปี 2551 และมาหนักสุดกรณีเกิดการปะทะกันในพื้นที่พิพาทประสาทพระวิหาร หรือแม้แต่กรณีมีคนไทยบางกลุ่มใช้พื้นที่ในกัมพูชาเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลตัวเองในขณะนั้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ล้วนมีปัจจัยมาจากเหตุการณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น 


          แต่หลังเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชามีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นและได้รับความร่วมมือที่ดีมาโดยตลอด หลังสมเด็จฮุนเซน แสดงท่าทีชัดเจนไม่ให้กลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชาใช้พื้นที่กัมพูชาเคลื่อนไหวโจมตีคณะรัฐประหารและรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จวบจนถึงปัจจุบันนี้


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ