คอลัมนิสต์

3ก๊ก ใน พลังประชารัฐ จูนกันติด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พปชร.ผ่านจุดที่คนในต่างคนต่างเดิน เมื่อแกนนำสำคัญๆ 3 ก๊กสามารถจูนกันติด การเข้ามานั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์พรรคของ บิ๊กป้อม ก็มีส่วนทำให้พรรคสามารถประสานรอยร้าวได้

      นับตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัย2 สำเร็จ ดูเหมือนคลื่นลมภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะสงบจบลงไปชั่วขณะ ต่างจากช่วงหลังการเลือกตั้งใหม่ๆ ที่แต่ละก๊กในพรรค ต่างขบเหลี่ยม ขับเคี่ยวแข่งขันกันจนไร้ความเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตอนนั้นพรรคเข้าขั้นระส่ำอย่างหนัก จนแกนนำบางคนในพรรคมองหน้ากันไม่ติด 

 

        มาถึงตอนนี้ "พปชร." ผ่านจุดที่คนในต่างคนต่างเดินแล้ว เมื่อแกนนำสำคัญๆ 3 ก๊ก สามารถจูนกันติด ได้แก่

        กลุ่มสามมิตร นำโดย "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม และ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม ที่มีส.ส.ในพรรคสนับสนุนไม่น้อย

       "กลุ่มกทม." นำโดย "ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาธิการ ,"พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

     และกลุ่ม 20 ส.ส.ภาคกลาง นำโดย เสี่ยเฮ้ง  "สุชาติ ชมกลิ่น" ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส. ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับส.ส.สายอีสานของพรรค โดยเฉพาะ "ตระกูลรัตนเศรษฐ" และอื่นๆ รวมถึง ส.ส.ชายแดนใต้ของพปชร. นอกจากนั้น ในสายของ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็ดูจะมองไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

        มีการมองถึงเหตุผลสำคัญที่ส่งผลให้พรรคสามารถประสานรอยร้าวได้อย่างเห็นผล เพราะการเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคของ บิ๊กป้อม "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับดึงคีย์แมนของแต่ละก๊กมาร่วมในยุทธศาสตร์พรรค อาทิ เสี่ยแฮ้งค์ "อนุชา นาคาศัย" ส.ส.ชัยนาท จากสามมิตร คนสนิท "สมศักดิ์-สุริยะ" มาเป็นรองประธานยุทธศาสตร์, เสี่ยโอ๋ "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากสายกทม. มาเป็นเลขานุการ รวมถึง "เสี่ยเฮ้ง" ประธานส.ส. เข้ามาขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกัน

       การมาของ "บิ๊กป้อม" ใช่จะอยู่บนหอคอยงาช้าง แต่ลูกพรรคสามารถเข้าหาปรึกษา ขอความช่วยเหลือได้อยู่เสมอ และบุคลิกของความเป็นพี่ใหญ่ ผ่านประสบการณ์โชกโชน รู้จักวิธีและเทคนิคในการปกครองคนเป็นอย่างดี ว่ากันว่า แกนนำในพรรคบางคนถึงกับออกปากซูฮกถึงความเป็นคนประนีประนอม ใจกว้าง กล้าขอกล้าให้ของ "บิ๊กป้อม" 

        ตรงนี้เอง อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แกนนำแต่ละกลุ่มต่อกันติด มองทิศทางของพรรคไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายเดียวกัน การดำเนินการต่อจากนี้ จึงมีแนวโน้มค่อนข้างราบรื่น

          อย่างไรก็ตาม ในภาวะเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล และกำลังจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ประมาณกลางเดือนธันวาคมนี้ จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อที่ทำให้ทั้ง 3 ก๊ก ในพลังประชารัฐ จูบปากกันได้ 

      อย่างน้อยก็อุ่นใจได้เปราะหนึ่งว่ามีส.ส.แต่ละก๊กในพรรคยกมือหนุน ไม่ให้กระเด็นหลุดเก้าอี้ ในกรณีมีแกนนำก๊กใดก๊กหนึ่ง โดนล่อเป้าซักฟอก 

       นอกจากนั้น ในภาวะที่คู่แข่งทางการเมือง ทั้ง "เพื่อไทย" ที่เดินเกมในสภา ในฐานะฝ่ายค้านครั้งนี้ ไม่เข้มแข็ง หรือ "อนาคตใหม่" ที่กำลังเมาหมัดทั้งศึกใน-ศึกนอก จนเดินไม่เป็นทรง ปัจจัยเหล่านี้ ก็หนุนให้รัฐบาลทำงานได้สะดวกขึ้น 

       ดังนั้น 3 ก๊กในพลังประชารัฐ ก็คงไม่เห็นถึงเหตุผลในการขย้ำกันเองแบบก่อน สู้หันหน้าเข้าหากัน ช่วยประคับประคองพรรคและรัฐบาลให้อยู่ได้ตลอดรอดฝั่งน่าจะดีกว่า

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ