ทรัมป์ หัวร้อนไทยเสียภาษีเพิ่ม คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]
ณ เวลานี้ต่างพูดกันถึงเรื่องประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ มีคำสั่งให้ตัดสิทธิ์ ‘จีเอสพี’ สินค้าไทยหลายรายการ โดยอ้างเรื่องมาตรฐานแรงงานสากล
ขอเรียนให้ทราบว่า ‘จีเอสพี’ หรือแปลเป็นไทยเต็มๆ ว่า ‘สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรทางการค้า’ ซึ่งการที่ทรัมป์หัวร้อนตามภาษาวัยรุ่นนี้ส่งผลกระทบถึงไทยมากจริงๆ และอย่าปล่อยให้เลยตามเลยเด็ดขาด
กรณีนี้เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงทั้งแรงงาน พาณิชย์ เกษตรกรและอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องร่วมมือกันแก้ไขโดยเร็วที่สุดเพราะไทยจะสูญเสียรายได้หลายหมื่นล้านบาทและต้องเสียภาษีเพิ่มหลายพันล้านบาท
มีพวกมองโลกสวยว่าเกี่ยวข้องกับการตอบโต้ของอเมริกาที่ไทยมีมติแบนสารเคมียักษ์ใหญ่ของอเมริกาและมีอำนาจทางการเมืองอย่างมาก
‘ดับเครื่องชน’ จึงขอให้รัฐบาลมองโลกนี้เป็นเรื่องด่วนเพราะรัฐบาลจะต้องรับบทเป็นผู้เจรจากับอเมริกา
นาทีนี้ไทยถูกตัดสิทธิ์จีเอสพี เราจะต้องจ่ายภาษีเต็มราคาทำให้เสียเปรียบคู่แข่งขันทางการค้าได้มาก สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่อย่าคิดว่าส่งสินค้าไปขายที่อื่นก็ได้นั่นเป็นการคิดสั้น
อย่าปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินแก้เป็นอันขาด
อ๊อด เทอร์โบ
สัญญา 5 ปีรอได้
จดหมายจากคุณ ‘สัญญา’ ระยอง ต่อไปนี้มีข้อสรุปสาระที่เป็นประโยชน์มาก ซึ่งเมื่อ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เป็นประธานเซ็นสัญญาโครงการใหญ่รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้เรียบร้อยแล้ว
ภายในเวลา 5 ปีต่อนี้ไปขอให้พวกเราเตรียมตัวใช้บริการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภากันได้แล้ว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่สรุปแจ้งมาและหวังว่านี่เป็นโครงการยักษ์ที่รัฐบาลลงมือทำและส่งผลดีเป็นวงกว้างต่อไป
อ๊อด เทอร์โบ
รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
เซ็นสัญญาแล้ว 24 ต.ค.
ผมขอนำข่าวใหญ่มาทบทวนให้ทราบอีกทีว่าเมื่อ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เป็นประธานเซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงกับกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ ซีพี หรือซีพีเอช แล้ว ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ลงทุนเกือบ 2.5 แสนล้านบาท
เรื่องนี้จึงเขียนจดหมายมาเพื่อเสริมรายละเอียดบางประการแล้วในชาตินี้เราคงได้ใช้บริการและต่อยอดไปถึงโครงการอื่นๆ โดยไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องธุรกิจการเมือง
ปัญหาใหญ่คือการส่งมอบพื้นที่ของ รฟท. ซึ่งรับผิดชอบจะลดลงจาก 4 ปีเหลือ 2 ปีกว่าๆ และราวๆ 5 ปีก็จะได้ใช้บริการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแน่
โอกาสนี้จึงขอเป็นสื่อกลางแจ้งให้ทราบว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) หรือไฮสปีดเทรน มูลค่า 224,544 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (ซีพีเอช) ผู้ชนะประมูล
การลงนามสัญญาถือเป็นการนับหนึ่งของการเริ่มก่อสร้าง ซึ่งการก่อสร้างรถไปเชื่อม 3 สนามบินจะเป็นไปตามสัญญาการรื้อถอน ย้าย จะเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้
โครงการมีประโยชน์มากไม่เฉพาะการเชื่อม 3 สนามบินเท่านั้น แต่ยังเชื่อมไปยังโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน ที่กำลังจะก่อสร้างในภาพอีสานและจะเชื่อมโยงไปประเทศอื่นๆ ด้วย
กลุ่มซีพีเอชจะใช้เวลาในการก่อสร้างให้ได้ใน 1 ปี แต่ต้องไม่เกิน 24 เดือน เพื่อให้การก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2566 โดยเส้นทางสายแรกที่จะเป็นให้บริการคือ สถานีมักกะสัน-สนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบันมีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์เปิดให้บริการอยู่แล้ว โดยซีพีเอชจะเข้ามาปรับปรุงระบบงานและเปิดให้บริการจะใช้เวลาไม่นานนัก
เส้นทางที่ 2 คือสนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร (กม.) รฟท.ระบุว่า จะส่งมอบพื้นที่ได้เร็วขึ้น จากเดิม 2 ปีลดลงเหลือ 1 ปี 3 เดือน
เส้นทางที่ 3 สนามบินดอนเมือง-มักกะสัน จะส่งมอบพื้นที่ได้เร็วขึ้น จากเดิม 4 ปีลดลงเหลือ 2 ปี 3 เดือน หากการส่งมอบพื้นที่เป็นไปตามที่กำหนดไม่เกิน 5 ปี รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะก่อสร้างเสร็จทั้งหมดและพร้อมเปิดให้บริการ
นี่เป็นสัญญาณประวัติศาสตร์และจะเป็นจริงได้หรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไปและขอให้ฝันเป็นจริงด้วยเถิด
สัญญา (ระยอง)
ผู้ว่าฯกทม.เป็นใคร
ต้องเข้มข้น-เข้มแข็ง (ผ่านไปยังพรรคการเมือง)
ผมอ่านข่าวเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะส่ง ‘กรณ์ จาติกวณิช’ ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้วขอสนับสนุนและขอให้ทุกพรรคการเมืองเปิดตัวผู้สมัครลงชิงเป็นผู้ว่าฯ กทม.โดยเร็ว
ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. มีความสำคัญอย่างมากและบางทีผมว่าน่าจะใหญ่กว่ารัฐมนตรีบางกระทรวงด้วยซ้ำไป
จึงขอให้ทุกพรรคการเมืองสรรหาคนทำงานเก่ง คนดีมีคุณธรรมและทุกอย่างพร้อม เพราะผู้ว่าฯ กทม.ต้องทำงานหนักเพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
วิโรจน์ (กทม.))
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ปรี๊ดแตก แอ๊ด คาราบาว ปลุกคนไทยสู้อเมริกา
-(คลิป)จุรินทร์ สั่งดูผลกระทบสหรัฐไม่ปลื้มแบน 3 สาร
-571 สินค้าไทยถูกสหรัฐฯตัด GSP
-อนุทิน ไม่กังวลกระแสข่าวสหรัฐฯ กดดันไทย เลิกแบนสารพิษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง