ฟันธง สงครามหมากรุกทางการเมือง สหรัฐฯตัดจีเอสพีไทย

        เป็นเรื่องใหญ่สำหรับประเทศไทยและรัฐบาลต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน กรณีสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐได้ออกประกาศว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามประกาศเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือ GSP กับสินค้าของไทยเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 40,300 ล้านบาท โดยระบุว่าไทยยังไม่สามารถยกระดับสิทธิแรงงานให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

         ทั้งนี้ยูเอสทีอาร์ ระบุว่า มาตรการที่จะใช้กับไทย จะมีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน จะครอบคลุมสินค้าของไทยที่ได้รับสิทธิพิเศษประมาณ 1 ใน 3 แต่ในส่วนของสินค้าอาหารทะเลทุกประเภทจะถูกระงับจีเอสพี เนื่องจากปัญหาสิทธิและสวัสดิการแรงงานของไทยยังไม่ได้มาตรฐานสากล

         คาดการณ์ว่า สินค้าไทยที่อยู่ในการที่จะถูกตัดสิทธิ GSP ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2563 จะมีถึง 571 รายการ ครอบคลุมทั้งของกินและของใช้ตั้งแต่อาหารทะเล ผักและผลไม้ เมล็ดพันธุ์ น้ำเชื่อมและน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง น้ำผักและผลไม้ ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องครัว ประตูหน้าต่าง ไม้อัดและไม้แปรรูป เครื่องประดับ แผ่นเหล็ก และสแตนเลส 

       " สหรัฐฯใช้แรงกดดันที่จะแก้ปัญหาใน 3 เรื่อง" รศ.ดร. สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์  นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มอง

         จากนั้นอธิบายต่อว่า ...

         หนึ่ง  มาจากปัญหาสหรัฐฯขาดดุลการค้ากับทั่วโลกซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น ทรัมป์ เองต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่สามารถแก้ไขปัญหาสหรัฐฯขาดดุลการค้ากับทั้งพันธมิตรและศัตรูได้ แม้ไทยจะเป็นพันธมิตรกับเขาก็ตาม

        และตัวเร่งในการที่ทำให้สหรัฐฯตัดสิทธิจีเอสพีไทยก็คือ การที่เราแบนห้ามใช้สารพิษ" ไกลโฟเซต"  เพราะสหรัฐฯบอกว่า  ไกลโฟเซต ในอียู และสหรัฐฯก็ใช้ แต่ทำไมประเทศกลับสั่งแบนสารตัวนี้ 

         สอง  สไตล์และนิสัยของทรัมป์  ไม่พอใจเรื่องใดก็เล่นงานกลับทันที กรณีทรัมป์ คงไม่พอใจที่เราแบน ไกลโฟเซต พอไทยแบสารตัวนี้ ทรัมป์ ก็สั่งตัดจีเอสพี สินค้าไทย กลับทันที

        สาม   การเมืองระหว่างประเทศ สหรัฐฯต้องการมีบทบาท ซึ่งไทยเป็นประเทศสำคัญในอาเซียน และไทยเริ่มเข้าหาใกล้ชิดกับจีน สหรัฐฯไม่พอใจในส่วนนี้ ซึ่งเป็นเหตุตัดจีเอพี 1 ใน 3 เพื่อเปิดโอกาสให้เราเจรจาก่อน จะเห็นได้ว่าในประกาศตัดจีเอสพี  จะมีผลใน 6 เดือนข้างหน้า ไม่ได้มีผลทันที จึงเป็นต้องการสร้างแรงกดดันเพื่อนำไปสู่การเจรจา โดยในการเจรจา ทรัมป์ จะเอามิติในหลายเรื่องๆมาบีบให้เรายอมตามเขา 

       โดยสิ่งที่เขาต้องการ คือ

       หนึ่ง ต้องการให้สหรัฐฯไม่ขาดดุลการค้า

       สอง ต้องการให้ไทยทิ้งระยะห่างกับจีน

       ส่วนการแก้ไขปัญหาของไทยในการที่อาจถูกตัดสิทธิ จีเอสพี นั้น

       หนึ่ง การที่เราจะไปยกเลิกเรื่องแบนสารพิษ ไกลโฟเซต คงเป็นไปไม่ได้เพราะในแง่การเมือง เมื่อประเทศไทยประกาศออกมาแล้วว่า แบนสารตัวนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คงไม่ยอมแน่นอน อีกทั้งในเรื่อง จีเอสพี สหรัฐฯไม่สามารถนำเรื่องที่เราแบนสารพิษ มาตัดสิทธิเราได้ ดังนั้น สหรัฐฯ  จึงมาหาว่าเราละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน เราก็ต้องแก้ปัญหาในเรื่องแรงงานเพื่อเราจะได้มีข้ออ้างในการให้สหรัฐฯยกเลิกการตัดจีเอสพี

       สอง  สหรัฐฯ ต้องการให้เรานำสินค้าของเขาเข้าประเทศเราให้มากขึ้นและส่งเสริมการลงทุนให้กับสหรัฐฯ

       สาม  ทางการเมืองต้องการควบคุมไทยทิ้งระยะห่างกับจีนมากขึ้น 

      " คือ สหรัฐฯ ใช้ จีเอสพี  บีบไทย ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งด้านการค้า การลงทุนและการเมือง  สหรัฐฯจึงให้เวลาเรา 6 เดือนในการปรับตัว  กรณีของเราก็เหมือนยูเครน พอปรับตัวได้สหรัฐฯก็คืนจีเอสพีให้กับเรา"  อ.สมชาย วิเคราะห์ถึงสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหา

      และทิ้งท้ายว่า   ตอนนี้การเมืองระหว่างประเทศเข้มข้น เราอยู่ใน"สงครามหมากรุกทางการเมือง" ดังนั้นในทางการเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ต้องรอบคอบ อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึก แม้ว่าเราอาจไม่พอใจสหรัฐฯที่ตัดสิทธิจีเอสพี เราก็ต้องเจรจาให้เรากระทบน้อยที่สุด เพราะว่าตอนนี้เศรษฐกิจไทยก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ถ้าถูกตัดจีเอสพี ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะว่าการระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือ จีเอสพีกับสินค้าของไทยคิดเป็นมูลค่าถึงกว่า 4 หมื่นล้านบาท  เราก็ต้องเอาหลายๆเรื่องไปเจรจากับเขา อย่างเรื่องแรงงาน เราก็ยังมีโอกาสปรับใหดีขึ้นได้

    "ส่วนคนไทยก็เป็นเรื่องดุลยพินิจของแต่ละคนว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อสหรัฐฯในเรื่องนี้ "  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ปรี๊ดแตก แอ๊ด คาราบาว ปลุกคนไทยสู้อเมริกา
-(คลิป)จุรินทร์ สั่งดูผลกระทบสหรัฐไม่ปลื้มแบน 3 สาร
-571 สินค้าไทยถูกสหรัฐฯตัด GSP
-อนุทิน ไม่กังวลกระแสข่าวสหรัฐฯ กดดันไทย เลิกแบนสารพิษ