คอลัมนิสต์

แชร์ เงินบุญ..หลอกลงทุนร้อยได้ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... สายตรวจระวังภัย ทีมข่าวอาชญากรรม

 

 


          หากเอ่ยถึง “แชร์ลูกโซ่” ก็มักจะปรากฏให้เห็นเป็นข่าวไม่เว้นวัน ยังคงมีผู้เสียหายหลายกลุ่มเข้าร้องทุกข์แจ้งความกับตำรวจไม่หยุดหย่อน ซึ่งคดีลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ทว่ามีมานานแสนนานแล้ว แต่ปัจจุบันกลับเพิ่มทวีขึ้น แม้จะมีข่าวความเสียหายและการเตือนภัยอยู่เป็นระยะ

 


          ข้อมูลตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน พบความเสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่สูงถึง 28,000 ล้านบาท และสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในระยะหลังมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเพราะมีการชักชวนผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีสื่อโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่างเฟซบุ๊กและแอพพลิเคชั่นไลน์ ทำให้เข้าถึงผู้เสียหายได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน


          แน่นอนว่าการประกาศชวนเชื่อระดมเงินจากประชาชนโดยเสนอผลตอบแทนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด มีความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือ กฎหมายแชร์ลูกโซ่ อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่วายมีกลุ่มแก๊งหลอกชวนลงทุนให้ผลตอบแทนสูงจนมีเหยื่อถูกฉ้อโกงอย่างต่อเนื่องอย่างที่บอกในข้างต้น เพราะเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 24 ตุลาคม ได้มี น.ส.เอ (นามสมมุติ) เดินทางมาที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. หลังถูกหลอกให้ลงทุนในโครงการ “เงินบุญ” ด้วยการชักชวนประชาชนว่าลงทุนหลักร้อยบาทจะได้ผลตอบแทนหลักล้าน ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินเกือบ 2 แสนบาท

 

 

แชร์ เงินบุญ..หลอกลงทุนร้อยได้ล้าน

 


          เหยื่อสาวรายนี้บอกว่าถูกเพื่อนสมัยเรียนชื่อว่า “ป้อม” มาชักชวนให้ลงทุนจึงตัดสินใจเข้าร่วม โดยโอนเงินสมทบทุนในโครงการดังกล่าวตั้งเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเพื่อนบอกว่าลงทุนหลักร้อยจะได้ผลตอบแทนเป็นกำไรหลักล้าน เมื่อเห็นว่าได้ผลตอบแทนเยอะก็ลงทุนสมทบโครงการไปเรื่อยๆ ระหว่างลงทุนได้สอบถามค่าตอบแทนทางไลน์กับเพื่อน แต่คำตอบคือให้อดทนรอและจะได้เงินตอบแทนเร็วๆ นี้ จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เงิน กระทั่งมั่นใจว่าถูกหลอก เลยตัดสินใจมาแจ้งความที่ บก.ปอศ. ส่วนเพื่อนคนที่ชักชวนทราบว่าลงทุนในโครงการนี้มากว่า 5-6 ปีแล้ว และยังไม่ได้เงินเช่นกัน โดยสูญเงินไปหลักล้านบาท
 

 

 

          “โครงการเงินบุญนั้น เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นเงินภาษีที่ได้จากการยึดทรัพย์ในความผิดตามกฎหมายต่างๆ และเป็นเงินของโครงการต่างชาติที่มาร่วมสมทบช่วยสนับสนุน หากใครร่วมลงทุนก็จะมีผลตอบแทนสูง ลักษณะเดียวกับการลงทุนแชร์ โดยหากชวนใครมาร่วมลงทุนก็จะได้ส่วนแบ่งที่สูงขึ้นไปด้วย” น.ส.เอ กล่าว


          ต่อมาวันที่ 25 ตุลาคม มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 ราย จากโครงการ “ออมเงินแม่มณี” รวมตัวกันแจ้งความที่ บก.ปอศ. เพื่อเอาผิดกับเจ้าของโครงการเนื่องจากไม่ได้เงินตามที่ตกลง ถูกเบี้ยวเงินหลายราย พร้อมแฉโครงการหลอกลวงอ้างได้ผลแทนสูงถึงร้อยละ 93 ทำให้คนหลงเชื่อสูญเงินตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงล้านบาท

 

 

 

แชร์ เงินบุญ..หลอกลงทุนร้อยได้ล้าน

 


          หญิงสาววัย 22 ปี หนึ่งในผู้เสียหายจากกรณีนี้ เล่าว่า ได้เห็นคนในเฟซบุ๊กแชร์คลิปไลฟ์สดจากบัญชีผู้ใช้ชื่อ “ฝากยอด ต่ออนาคต” ที่เชิญชวนให้ผู้คนเข้ามาร่วมลงทุนเงินกับกลุ่ม “บ้านออมเงินแม่มณี” เสนอดอกเบี้ยร้อยละ 93 กำหนดวงเงินเดือนละ 1,000 บาท ลงทุนเดือนนี้เดือนต่อไปได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยกลับมา 1,930 บาท โดยมีเจ้ามือผู้จัดเป็นหญิงสาวอายุ 28 ปี อ้างว่ามีหุ้นส่วนเป็นนายทุนใหญ่รวม 6 เจ้า นำเงินไปหมุนทำธุรกิจเกี่ยวกับซีรีส์โทรทัศน์และธุรกิจเครื่องสำอางที่มีดาราดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ กระทั่งเห็นว่าเจ้าตัวได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับการจัดรายการในเฟซบุ๊กและต่อมาก็เห็นรายการออกอากาศจริง อีกทั้งยังมีภาพการจัดสัมมนาและมีคนไปเข้าร่วมจริง จึงหลงเชื่อลองลงทุนเงินก้อนแรกไป 19,000 บาท ก็ได้รับกลับมา 3 หมื่นบาทเศษ ก่อนจะทยอยลงทุนไปอีก 2-3 เดือน รวมเงินทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับเงินกลับคืนมา พอสอบถามไปยังผู้จัดก็อ้างว่าได้ขึ้นเงินกับธนาคารต่างสาขา ทำให้ยังเคลียร์แคชเชียร์เช็คไม่เสร็จ


          พฤติการณ์คดีแชร์ลูกโซ่แม้จะมีหลากหลายแต่ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่เสนอค่าตอบแทนสูงจูงใจ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ใช้ความ “โลภ” ของคนมาเป็นโอกาสเท่านั้นเอง..!!

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ