อนค.คิดอะไรอยู่..โหวตสวน พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ

      ต้องบักทึกไว้ว่า 17 ต.ค. 2562  พรรคอนาคตใหม่  70  เสียง ลงมติไม่เห็นชอบกับ พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 ตามที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอ
 

        ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม  ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า  การเสนอ พ.ร.ก. ฉบับนี้ ก็เพื่อสนับสนุนภารกิจส่วนราชการในพระองค์ในการปฏิบัติหน้าที่ การถวายพระเกียรติและการรักษาความปลอดภัยขององค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ รวมทั้งให้การปฏิบัติภารกิจทั้งปวงตามพระราชอัธยาศัย และตามพระราชประเพณีให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ และเกิดความปลอดภัยสูงสุด จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วน อันมิอาจหลีกเลี่ยงในการที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ 
        สืบเนื่องจากรัฐบาล กองทัพบก กระทรวงกลาโหม ได้ตกลงตัดสินใจร่วมกันกับหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์  ว่า เมื่อได้มีพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 ให้มีการจัดระเบียบบริหารราชการในพระองค์ และมีพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 กำหนดให้มี "หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์" เป็นส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งเป็นความมั่นคงของประเทศเรียบร้อยแล้ว ก็ให้จัดอัตรากำลังของกรมที่เกี่ยวข้องเดิมในการถวายรักษาความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์ฯ  ซึ่งก็คือ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11  มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์  ซึ่งทั้งสองกรมนี้ทำหน้าที่ถวายรักษาความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์ มาแต่ดั้งเดิมจนถึงปัจจุบัน โอนมาขึ้นกับ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์
      ส่วนการที่ออกเป็นพระราชกำหนด ก็เนื่องจากว่าหากใช้วิธีออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต้องใช้เวลานาน บางร่าง พ.ร.บ.  อาจใช้เวลานานเป็นปี การออกเป็น พ.ร.ก. ก็เพื่อความรวดเร็ว และถูกต้องตามกฎหมายและเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศด้วย และเมื่อสภาฯเปิด ก็ค่อยนำ พ.ร.ก. มาให้สภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามขั้นตอนปกติของการออก พ.ร.ก. 
       ที่ผ่านมา รัฐบาล- ฝ่ายค้าน ทุกยุคทุกสมัย ก็จะให้ความเห็นชอบในสิ่งที่เราเคารพและถูกต้อง  และครั้งนี้ทุกพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภา ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ก็เห็นชอบกับ พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลฯ กันทั้งหมด แต่กลับมีอยู่พรรคการเมืองเดียว คือ พรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.ก. ฉบับนี้
     ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า  เรื่องใดๆ ก็ตามไม่เฉพาะเจาะจงแค่การลงมติไม่อนุมัติพ.ร.ก.ฉบับนี้เท่านั้น ตนอยากให้มองเป็นเรื่องทั่วไป เพราะเราต้องการออกแบบกระบวนการทำอย่างไรให้สมาชิกพรรคได้สามารถถกเถียงได้อย่างเต็มที่ เสร็จแล้วก็ลงมติ แล้วว่ากันไปตามเสียงข้างมาก
     แต่การกระทำเช่นนี้ได้ทำลายความรู้สึกประชาชน คำถาม คือว่า พรรคอนาคตใหม่กำลังคิดอะไรอยู่