คอลัมนิสต์

เครนก่อสร้าง อันตราย!กทม.นำร่องรักษาความปลอดภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

          ‘กรุงเทพมหานคร’ หรือ กทม.ของเราเวลานี้มีเครนก่อสร้างมากมาย และที่ผ่านมาเกิดเครนล้มจากพายุฝนหรืออุบัติเหตุทำให้เกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

 

 

          ที่แรกก็จะมีการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยกันอย่างขึงขัง แล้วเรื่องก็เงียบหายไปเหมือนไฟไหม้ฟาง

          จนมาวันก่อนทางกทม.หยิมยกเรื่องเครนก่อสร้างหรือปั้นจั่นหอสูงขึ้นมาเพื่อพิจารณาว่าทำอย่างไรจะทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

          จึงขอสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่และขอให้ทำกันอย่างจริงจังไม่ใช่เป็นข่าวแล้วเงียบหายไปเพราะมีเรื่องอื่นเข้ามาแทรก

          สรุปความได้ว่าวันที่ 5-6 กันยายนนี้ สำนักการโยธา กทม.และทั้ง 50 เขตจะตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของเครนก่อสร้างหรือปั้นจั่นโครงการต่างๆ แบบยกเครื่องใหม่

          ไม่ใช่ตรวจสอบอย่างเดียวแต่จะจัดให้เจ้าหน้าที่ไปแนะนำการใช้งานการควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งต่อไปอันตรายจะลดน้อยลงหรืออาจจะไม่มีเลย

          ‘อุบัติเหตุ’ ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลาจึงขอให้จำไว้ว่า ‘ปลอดภัยไว้ก่อน’ เป็นดีที่สุด

          ขอให้กทม.เอาใจใส่ดูแลเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ ไว้ก่อน
อ๊อด เทอร์โบ

 


ตัดสินใจว่าเลือกไปทางไหนดี
          ส่งท้ายด้วยจดหมายจากคุณ ‘มานะพล’ นครปฐม เกี่ยวกับเรื่องสบายๆ เกี่ยวกับความเจริญพัฒนาของจีนกับญี่ปุ่นในเรื่องรถไฟแม่เหล็ก ซึ่งทำความเร็วได้อย่างเหลือเชื่อ

 

          อันที่จริงกรณีนี้ผมได้ทราบเรื่องจากเว็บไซต์ของ CNN แล้วและขอเป็นสื่อกลางนำมาเรียนให้ทราบอีกครั้งว่าชาวบ้านที่เริ่มมีรถไฟมาเท่าๆ กับเรา-เขาไปถึงไหนแล้ว

          เชื่อว่าต่อไปความเร็วของรถแม่เหล็กจะไม่หยุดลงแค่นี้แน่นอน
อ๊อด เทอร์โบ

 

 


จีนก้าวไกลไปอีกแล้ว
รถไฟแม่เหล็กเวอร์ชั่น 5

          ผมได้ติดตามข่าวรถไฟหัวกระสุนพลังแม่เหล็กรุ่นใหม่ของจีน ที่ใกล้ความจริงเข้าไปอีกก้าว ซึ่งสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเซี่ยงไฮ้ไปปักกิ่ง รถไฟความเร็วสูง 5 ชั่วโมง, เครื่องบิน 4 ชั่วโมง (รวมขั้นตอนตรวจความปลอดภัย), รถไฟแม่เหล็ก 3 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะสถานีรถไฟอยู่กลางเมือง ตะลึงทั้งญี่ปุ่น เยอรมนี โดยเฉพาะอเมริกา

          ขบวนรถไฟความเร็วสูงแม็กเลฟ ใช้ระบบแรงยกตัวของแม่เหล็กไฟฟ้า ขบวนรถลอยตัวเหนือรางวิ่งแทนการใช้ล้อ รุ่นต้นแบบของโครงการ เผยโฉมหน้าออกจากโรงงานประกอบในเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง ทางภาคตะวันออกของจีน

          รถไฟแม็กเลฟของจีน ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทไชน่า เรลเวย์ โรลลิ่ง สต็อก คอร์ปอเรชั่น หรือ ซีอาร์อาร์ซี ของรัฐบาล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์รถไฟโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าแม็กเลฟรุ่นนี้จะผลิตออกวิ่งให้บริการผู้โดยสารอย่างเป็นทางการในปี 2564 หลังการทดสอบอย่างเข้มข้น รถไฟหัวกระสุนแม็กเลฟเวอร์ชั่นจีน จะช่วยปรับเปลี่ยนรูปโฉมการเดินทางสัญจรของประเทศโดยสิ้นเชิง และเติมช่องว่างระหว่างการเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงกับเครื่องบินโดยสาร

          ยกตัวอย่างการเดินทางระหว่าง 2 เมืองขนาดใหญ่สุดของจีนคือ กรุงปักกิ่งกับนครเซี่ยงไฮ้ หากรวมเวลาการเตรียมตัวหรือรอ ก่อนออกเดินทาง ต้องใช้เวลารวม 4 ชั่วโมงครึ่งสำหรับเครื่องบิน และประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งสำหรับรถไฟความเร็วสูง ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่แม็กเลฟจะใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เครื่องบินโดยสารใช้ความเร็วประมาณ 800–900 กม./ชม. ส่วนรถไฟความเร็วสูงในปัจจุบันวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม. แม็กเลฟของจีนไม่ใช่รถไฟแบบแรกที่วิ่งด้วยความเร็วถึง 600 กม./ชม. เมื่อออกวิ่งทดสอบ เนื่องจากรถไฟแม็กเลฟของญี่ปุ่นเคยทำสถิติไว้ที่ 603 กม./ชม. ระหว่างการทดสอบวิ่งที่เมืองยามานาชิ เมื่อปี 2558 ทำสถิติโลกใหม่ ญี่ปุ่นกำลังพัฒนารถไฟแม็กเลฟรุ่นใหม่ “ชูโอะ ชินคันเซ็น” ที่คาดว่าจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 500 กม./ชม. และตามแผนจะนำออกวิ่งบนเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างกรุงโตเกียว–นาโงย่า ปี 2570 คาดว่าจะลดเวลาการเดินทางโดยรถไฟ ระหว่าง 2 เมืองลงครึ่งหนึ่ง

          ท่านตัดสินใจว่าจะเดินทางโดยเครื่องบินหรือรถไฟดีครับ
มานะพล (นครปฐม)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ