คอลัมนิสต์

มองข้าม สิระ 'ทวงคืนแผ่นดิน'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรื่อง สิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.ถูกวิจารณ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่แสดงกับตำรวจ ไม่สำคัญเท่ากับโครงการคอนโดหรูสร้างบนที่ดินที่ได้รับเอกสารสิทธิ์โดยชอบหรือไม่

      โอภาส บุญล้อม 

       นายสิระ เจนจาคะ  ส.ส.กทม พรรคพลังประชารัฐ  ถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่แสดงกับพ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ระหว่างลงพื้นที่ที่ อ.กะรน จ.ภูเก็ต เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ชาวบ้านที่ร้องว่ามีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมบนพื้นที่ที่ได้รับเอกสารสิทธิไม่ชอบ

      และในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มี ส.ส.เสนอให้ตั้ง กก.สอบจริยธรรมนายสิระ 

      ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่น ป.ป.ช. ให้สอบพฤติกรรมนายสิระ ว่าขัด รธน.-ฝ่าฝืนจริยธรรม หรือไม่ ซึ่งโทษแรงถึงขั้นขาดจาก ส.ส.

     แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่าพฤติกรรมของนายสิระ ก็คือ สิ่งที่นายสิระ อ้างว่า กำลังปฏิบัติการทวงคืนแผ่นดิน 

          มองข้าม สิระ 'ทวงคืนแผ่นดิน'      

      ข้อเท็จจริงกรณีนี้คือ มีการก่อสร้างโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ คอนโดหรูตั้งอยู่บริเวณพื้นที่กะตะน้อย หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 16มกราคม 2561 โดยบริษัท กะตะ บีช จำกัด โดยได้ยื่นคำขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยจำนวนหลายอาคารต่อเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต บนที่ดินน.ส.3 ก.เลขที่1863 มีเนื้อที่ 17ไร่ 1 งาน 4 ตารางวา ที่ดินแปลงนี้ บริษัทกะตะ บีชฯ ได้ซื้อมาจากผู้ขายซึ่งเป็นนักธุรกิจและอดีตนายตำรวจระดับสูง 

      ต่อมาศาลปกครองนครศรีธรรมราช ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนหนังสือรับรองประโยชน์ หรือ น.ส.3ก. เลขที่1863 ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ดินเเปลงดังกล่าวว่าออกโดยมิชอบ  แต่มีการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ปัจจุบันคดียังอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ของศาลปกครองสูงสุด

     ขณะที่ทางกรมป่าไม้  ได้สั่งการให้สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จ.กระบี่ ประสานกับตำรวจและหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ

      เบื้องต้นทราบว่าที่ดินดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นพื้นที่เป้าหมาย ที่กรมป่าไม้ไปตรวจสอบหลายแปลง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ เขตป่าสงวนหรือแม้แต่พื้นที่สปก.

      โดยพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต กรมป่าไม้ถือเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะมีศักยภาพในเรื่องของที่ดินที่มีราคาแพง เหมาะสมกับการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาจึงมีบางกลุ่มไปแสวงหาผลประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องการยึดถือครอบครองโดยไม่ชอบ

       ประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงมีหลายประเด็นด้วยกัน

      1.เกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน การออก นส. 3ก. ในพื้นที่ที่มีลักษณะ เป็นที่เขา ภูเขา โดยเจ้าหน้าที่รัฐ

      2.เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในที่ดินดังกล่าว

      3.ฝ่ายผู้ก่อสร้าง ได้ใช้ความระมัดระวังในการก่อสร้าง คำนึงถึงผลกระทบจากการดำเนินการก่อสร้าง รอบด้านในพื้นที่ข้างเคียงซึ่งเป็นแนวป่าเขาและทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้รอบข้าง ไม่ว่าจะเกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้อาศัยถิ่นแถวนั้นหรือไม่

     มองข้าม สิระ 'ทวงคืนแผ่นดิน'

      4.ภาครัฐที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด และช้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เกิดเหตุได้ตรวจตราตามภาวะหน้าที่หรืออำนาจหน้าที่ของตนในพื้นที่ที่รับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนแล้วหรือไม่

     5.การก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งจะชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม  แต่หากดำเนินการก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเดือดร้อนรำคาญ เกิดมลพิษ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้อาศัยในถิ่นแถวนั้น  ต้องพิจารณาต่อไปว่า ภาครัฐท้องถิ่นได้ปล่อยปละละเลยการทำหน้าที่หรือไม่

       และหลังจากกระแสเรื่องนี้มาแรง นายมนัสนันท์ นรารัตน์วันชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กะตะ บีช จำกัด ผู้บริหารโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ ได้ออกมาเปิดตัว บอกว่า ต้องการสื่อสารให้สังคมได้รับทราบและเข้าใจว่าทางบริษัทฯ ได้ซื้อที่ดินมาและพัฒนาโครงการฯ ขึ้นตามกระบวนการของกฎหมายทุกประการ และที่มีการกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเอื้อนายทุนนั้นไม่มีจริง เพราะเมื่อบริษัทฯ ไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามขั้นตอนของกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการ

      เช่นเดียวกับคณะกรรมการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือข้าราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีผู้ใดมีส่วนได้ส่วนเสียกับทางโครงการฯ โดยทุกฝ่ายปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย

           มองข้าม สิระ 'ทวงคืนแผ่นดิน'

 

      ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าของโครงการคอนโดฯเป็นของอดีตนายตำรวจระดับสูงนั้น นายมนัสนันท์ ยืนยันว่า  อดีตนายตำรวจไม่ใช่เจ้าของโครงการ โดยที่ดินแปลงนี้ บริษัทกะตะบีชฯ ได้ซื้อมาจากผู้ขายซึ่งเป็นนักธุรกิจและอดีตนายตำรวจระดับสูงคนดังกล่าว แต่ทั้งสองคนไม่ใช่เจ้าของโครงการฯและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เป็นเพียงผู้ขายที่ดินให้กับบริษัทเท่านั้น

     บทสรุปของทางบริษัทฯ  ตามคำประกาศของนายมนัสนันท์   คือ ยอมถอยชะลอการก่อสร้างซึ่งมีทั้งหมด 18 อาคารออกไปก่อน เพื่อรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

      แต่ก่อนหน้านี้เทศบาลตำบลกะรน โดยนายทวี ทองแจ่ม นายกฯ ก็ได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไว้ก่อนอยู่แล้ว

     ขณะที่ นายสิระ​ เจนจาคะ   ก็ยังจะเดินหน้าต่อ แม้ว่าโครงการดังกล่าวระงับการก่อสร้างไปแล้ว โดยวันพรุ่งนี้( 22 ส.ค. ) จะเดินทางไปยื่นหนังสือขอให้ DSI รับทำเป็น“คดีพิเศษ” ซึ่งก็คงจะเป็นการมุ่งไปในทางคดีอาญาเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

       เรื่องนี้สุดท้ายจะจบที่ศาล ที่จะเป็นผู้ชี้ว่า โครงการคอนโดฯหรู สร้างโดยชอบบนที่ดินและดำเนินการต่อได้หรือไม่ 

    

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ