คอลัมนิสต์

โผทหารกระชับขยับ5เสือ ตร.ลุ้นบิ๊กแป๊ะส่งต่อ นรต.36

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...อัญชลี อริยกิจเจริญ /  กัมปนาท ละออง

 

 

          ช่วงนี้เป็นฤดูแต่งตั้งโยกย้ายเพราะใกล้จะถึงวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ข้าราชการอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ต้องเกษียณ บ้างก็กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน บ้างก็เตรียมรับภารกิจใหม่

 

 

          แม้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมายืนยันเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่ายังไม่มีการจัดทำโผทหารและยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ประจำปี 2562 ก็ตาม แต่โผทหารก็ปรากฏออกมาเป็นข่าวแล้ว โดยคาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในตำแหน่ง “5 เสือ ทบ.” เพื่อวางตัวผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ และจัดแถว “5 ฉลาม” ของกองทัพเรือ กับ “5 เสือ” ในส่วนของกองทัพไทย

 

 

โผทหารกระชับขยับ5เสือ ตร.ลุ้นบิ๊กแป๊ะส่งต่อ นรต.36

 


          มีรายงานว่าปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ ได้นำบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหารประจำปี 2562 ส่งถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว เพื่อรอประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ซึ่งข่าวตอนนี้มี 2 กระแส บ้างก็ว่าประชุมไปแล้ว แต่ยังมีบางตำแหน่งต้องแก้ไขจึงตีกลับไปที่เหล่าทัพ ขณะที่บางกระแสก็ว่ายังไม่มีการประชุม


          คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลมีองค์ประกอบตามพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 มาตรา 25 ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน / และมีกรรมการ คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม / ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ ปลัดกระทรวงกลาโหม และเจ้ากรมเสมียนตรา

 

 

 


          ในยุค คสช.ตลอด 5 ปี วาระการประชุมคณะกรรมการชุดนี้ต้องบอกว่าเงียบสนิทมาก อาจเป็นเพราะเป็นรัฐบาลทหารที่ดูแลทหารด้วยกันเองทำให้ปัญหามีไม่เยอะ และไม่จำเป็นต้องประชุมเพื่อถกแถลงอะไรกันมากมาย


          เมื่อเจาะไปดูบัญชีการปรับย้ายนายทหารประจำปีนี้ ตำแหน่งหลักอย่างผู้บัญชาการเหล่าทัพที่จะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายน มีเพียงเหล่าทัพเดียว คือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ คาดว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เสนาธิการทหารอากาศ ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.แทน


          ส่วนเหล่าทัพอื่นๆ จะไม่มีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่จะปรับ “5 เสือ” ของแต่ละเหล่าทัพบางตำแหน่ง เช่น กองทัพบก ผบ.ทบ.ยังเป็นคนเดิม คือ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ส่วน “5 เสือทบ.” มีข่าวว่าจะดัน พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. เพื่อรอเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์


          ผ่าลึกลงไปถึงระนาบ “5 เสือทบ.” เป็นที่ชัดเจนว่าปีนี้ผู้ช่วย ผบ.ทบ.จะว่าง 2 ตำแหน่ง จากการเกษียณอายุราชการของ พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ขณะที่ พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เพื่อนร่วมรุ่นของผบ.ทบ. คาดว่าจะข้ามไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอกพิเศษ) ซึ่งนายทหารที่จะมานั่งแทนนอกจาก พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ที่มาแบบ “นอนมา” แล้ว ยังมี พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งมีบทบาทสูงในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ด้วย

 

 

โผทหารกระชับขยับ5เสือ ตร.ลุ้นบิ๊กแป๊ะส่งต่อ นรต.36

พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้

 


          ในระดับกองทัพภาค พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 คาดว่าจะผงาดขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แทน พล.ท.ณรงค์พันธ์ ในส่วนของแม่ทัพภาคที่ 3 ยังต้องชิงดำกันระหวาง พล.ต.จิรเดช กมลเพชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 กับ พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 และภาคที่ 4 ยังคงเป็นคนเดิม คือ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร และพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ หรือ “บิ๊กเดฟ” เพื่อนร่วมรุ่นอีกคนของ ผบ.ทบ.


          หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) คาดว่า พล.ท.สุนัย ประภูชะเนย์ ผบ.นสศ. จะข้ามฝั่งไปเป็นรองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (อัตราพลเอก) โดยมี พล.ต.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง รองผบ.นสศ. ขึ้นมากุมบังเหียนแทน


          ขณะที่ในกองทัพไทยมีตำแหน่งน่าจับตา คือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลคสช. จะกลับกองทัพเป็นเจ้ากรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยซึ่งถือว่าเป็นเก้าอี้ตัวใหญ่ ปูนบำเหน็จหลังปฏิบัติหน้าที่กระบอกเสียงของรัฐบาลคสช.อย่างเข้มแข็ง โดย พล.ท.วีรชน มีความสามารถโดดเด่นด้านภาษาต่างประเทศด้วย


          สำหรับ 5 เสือกองทัพไทยมีการวางตัวกันใหม่ พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ข้ามมาเป็นเสนาธิการทหาร รอขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนต่อไปในปีหน้า


          กองทัพเรือ เรียกว่า “5 ฉลาม” มีหลายคนที่จะเกษียณอายุราชการ โดยคาดว่า พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน เสนาธิการทหารเรือ จะขยับขึ้นมาเป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ และพล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นเสนาธิการทหารเรือ


          จากทหารข้ามไปตำรวจกันบ้าง ปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีตำรวจเกษียณอายุราชกาารรวมทั้งสิ้น 6,293 นาย ซึ่งจะมีการแต่งตั้งนายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทน


          จำนวนข้าราชการตำรวจเกษียณอายุ 6,293 นายนี้ คือทุกระดับ ทุกชั้นยศหากแยกเป็นเฉพาะตำแหน่งระดับสูงคือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือรองผบ.ตร. ปีนี้เกษียณ 3 นาย คือ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ทำให้มีตำแหน่งรองผบ.ตร.ซึ่งเป็นตำแหน่งหลักว่าง 3 ตำแหน่ง


          นอกจากนั้นยังมีตำแหน่ง “ที่ปรึกษา สบ 10” เกษียณอีก 4 นาย แต่เป็นตำแหน่งเฉพาะตัวจึงต้องรอลุ้นว่าจะมีการตั้งทดแทนหรือไม่


          ส่วนระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณ 1 นาย คือ พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ

 

 

 

โผทหารกระชับขยับ5เสือ ตร.ลุ้นบิ๊กแป๊ะส่งต่อ นรต.36

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค

 


          ระดับผู้บัญชาการปีนี้เกษียณ 13 นาย ชื่อที่น่าสนใจก็เช่น พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ตำแหน่งสำคัญๆ รับผิดชอบงานตำรวจระดับภาคเหล่านี้จะมีนายตำรวจคนใหม่เข้าไปดำรงตำแหน่งแน่นอน


          นอกจากนี้ยังมีระดับรองผู้บัญชาการเกษียณ 34 นาย และผู้บังคับการเกษียณอีก 47 นาย ทั้งหมดเป็นนายตำรวจระดับนายพล


          สำหรับผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ ผบ.ตร.นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือ “บิ๊กแป๊ะ” ยังไม่เกษียณ และน่าจะได้ตีตั๋วต่ออีก 1 ปี โดยมีนายตำรวจในระนาบ รองผบ.ตร.ที่มีลุ้นขึ้นเป็นผบ.ตร.แทนในปีหน้า 2 นาย ประกอบด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หรือ “บิ๊กใหม่” จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา “มือปราบเมจิกสกิน” โดยทั้งคู่จะเกษียณปี 65 และมีโอกาสผงาดเป็น ผบ.ตร. ตามคุณสมบัติเรื่องลำดับอาวุโส


          ส่วนในระนาบผู้ช่วยผบ.ตร.ที่มีโอกาสขยับขึ้นเป็นรองผบ.ตร. เพื่อจ่อเป็นผบ.คนต่อไป วงการสีกากีจับตาไปที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข หรือ “บิ๊กปั๊ด” เพื่อนร่วมรุ่นอีกคนของผบ.ตร. ซึ่งเพิ่งโชว์ผลงานจับกุมผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดป่วนกรุง แต่ลำดับอาวุโสของ “บิ๊กปั๊ด” ไม่ได้อยู่ลำดับต้นๆ จึงต้องรอลุ้น นอกจากนั้นยังมีชื่อของพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่ตอนนี้มารับงานหลายอย่างแทน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อีกคนคือ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ที่กลับมาเข้าไลน์ จะเกษียณในปี 67 ด้วย


          ประเด็นที่จะมองข้ามไม่ได้เลยก็คือ “ลำดับอาวุโส” เพราะหลังนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. นัดแรก เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ปรากฏว่าหลังจากนั้น 4 วันก็มีการประกาศกฎ ก.ตร.ฉบับใหม่ ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2562 เนื้อหาชัดเจนให้การแต่งตั้งเน้น “ลำดับอาวุโส”


          ฉะนั้นในระนาบผู้ช่วยผบ.ตร. ขึ้นเป็นรองผบ.ตร. หากพิจารณาลำดับอาวุโสจะเรียงลำดับ 10 นาย ดังนี้
          อาวุโสอันดับ 1 พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ประจำ (สัญญาบัตร 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกษียณอายุราชการปี 63
          อาวุโสอันดับ 2 พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วยผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 64
          อาวุโสอันดับ 3 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 64
          อาวุโสอันดับ 4 พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 66
          อาวุโสอันดับ 5 พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 64
          อาวุโสอันดับ 6 พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 64
          อาวุโสอันดับ 7 พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 66
          อาวุโสอันดับ 8 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 65
          อาวุโสอันดับ 9 พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 67
          อาวุโสอันดับ 10 พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 65

          ต้องรอดูว่าเมื่อโผตำรวจออกมาจริงๆ วงการสีกากีจะยึดลำดับอาวุโสได้จริงตามที่มีกฎเหล็กหรือไม่เพราะทุกยุคทุกสมัย...ไม่เคยทำได้จริงๆ เลย!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ