คอลัมนิสต์

เมื่อรัฐรับบทคุมสารเคมี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2562

 

 


          นับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดให้เกษตรทั่วประเทศ ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมการใช้สารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเสต และคลอร์ไพริฟอส ผ่านออนไลน์ “ระบบจำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิด” หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง ทั้งนี้เป็นผลจากมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่อนุมัติให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด นอกจา่กนี้กระทรวงเกษตรฯ ยังออกมาตรการบังคับใช้กับผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย ผู้ใช้ และผู้รับจ้าง เข้ารับการอบรมจาก 4 หน่วยงาน คือ กรมส่งเสริมการเกษตรจะอบรมและทดสอบเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล พืชไร่ ไม้ดอก, การยางแห่งประเทศไทย จะอบรมและทดสอบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา, สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะอบรมและทดสอบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย โดยกรมวิชาการเกษตรจะอบรมเจ้าหน้าที่ของ 3 หน่วยงานเพื่อให้เป็นวิทยากรไปอบรมเกษตรกร ผู้รับจ้างพ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอบต.

 


          ตามมาตรการของกระทรวงเกษตรฯ กำหนดไว้ว่า เกษตรกรที่จะใช้สารเคมีสามารถเลือกช่องทางเรียนรู้ได้ 3 ทาง คือ ทางแรก เข้ารับการอบรมโดยวิทยากร ครู ข ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ทางเลือกที่ 2 เรียนรู้ผ่านระบบ E-learning จากเว็บไซต์ http://elearning.doae.go.th มีทั้งหมด 9 ตอน ใช้เวลาประมาณ 60 นาที หรือจะทดสอบเอง เพราะมีความรู้เพียงพอแล้ว ก็ให้เลือกช่องทางที่ 3 สมัครเข้ารับการทดสอบจากเว็บไซต์ดังกล่าว โดยต้องเลือกสถานที่สอบ วันที่และช่วงเวลาที่ต้องการสอบได้ตามความสมัครใจ ทั้งนี้สำหรับการทดสอบจะเริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป กรณีไม่ผ่านการทดสอบ สามารถเลือกสอบได้อีก 1 รอบ หากยังไม่ผ่าน เกษตรกรจะต้องสมัครเข้าไปเลือกการทดสอบอีกครั้งในระบบออนไลน์ ทั้งนี้มาตรการจำกัดการใช้สารเคมีจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคม 2562


          ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นที่จับตามองของหลายฝ่าย ทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ โดยเฉพาะที่เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้สารอันตรายในแปลงเกษตรมาเป็นเวลานาน แต่ในที่สุด คณะกรรมการวัตถุอันตรายก็มีมติเพียงแค่ให้กำจัดการใช้ โดยเข้มงวดกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4 กลุ่ม มาตรการที่ออกมานี้ ฝ่ายคัดค้านเห็นว่า นอกจากจะไม่ยกเลิกการใช้แล้ว กลับเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้สารเคมีกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นด้วย ทั้งๆ ที่การอบรมนั้นก็เท่ากับเป็นการยอมรับอยู่ในตัวแล้วว่าสารเคมีเป็นอันตรายมาก จึงเสนอว่าควรจะยกเลิกการใช้สารไปเลย แต่ฝ่ายที่สนับสนุนการใช้สารเคมีกลับเห็นว่าพืชบางชนิดยังจำเป็นต้องใช้สารอยู่ต่อไป และการอบรมก็จะทำให้ปลอดภัยทั้งกับผู้ใช้ ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อม 


          อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติ และกระทรวงเกษตรฯ ออกมาตรการมาแล้ว นับจากนี้จึงเป็นเรืื่องของการติดตามตรวจสอบทั้งการจัดอบรมอย่างทั่วถึง ความเข้มข้นในมาตรการ และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม เป็นต้นไป ซึ่งยังถือเป็นเรื่องน่าห่วงใยอย่างยิ่่ง เพราะจำนวนเจ้าหน้าที่อย่างเช่น สารวัตรเกษตรก็มีจำกัด ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคือ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอบต.บางคนก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ซึ่งท้ายที่สุด อาจจะทำให้ดูแลไม่ทั่วถึงจนมาตรการทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ในอีกด้านหนึ่ง กระทรวงเกษตรฯ ควรสนับสนุนการกำจัดวัชพืชศัตรูพืชทางเลือกอื่นผ่านองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นไปพร้อมกันด้วย 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ