คอลัมนิสต์

จับจังหวะเพื่อไทย-อนาคตใหม่พันธมิตรและคู่ปรับในคราวเดียว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

 

          หนึ่งในคนเดือนตุลาที่เคยทำงานการเมืองหลายตำแหน่งในบางรัฐบาลแต่ยามนี้ผันตัวมาสังเกตการณ์ข้างสนาม มองจังหวะก้าวของเพื่อไทยกับอนาคตใหม่ในช่วงไม่นานมานี้ไว้น่าฟัง

 

 

          “เพื่อไทยวันนี้เสมือนพรรคของคนต่างจังหวัดที่ยังชอบทักษิณ ชินวัตร ยุคไทยรักไทยฟีเวอร์มาจากความนิยมในตัวทักษิณที่กระจายไปทั่วประเทศ แม้ยามนี้จะไม่มีทักษิณ แต่ต้องรักษาเพื่อไทยไว้เพราะยากที่พรรคอื่นเจาะได้ เว้นแต่มีบางอย่างมาช่วย


          ด้านอนาคตใหม่เหมือนพลังธรรมยุคแรกๆ ที่ชนชั้นกลางและคนรุ่นใหม่นิยม


          วันนี้และวันหน้าเพื่อไทยยังครองพื้นที่ได้ในเหนือ, อีสาน, กลาง และเมื่อไม่มีไทยรักษาชาติ คะแนนที่ร่วงไปยังอนาคตใหม่บางส่วนจะกลับมาที่เพื่อไทย แต่หลายส่วนไปอยู่กับอนาคตใหม่แล้ว


          ตอนนี้เพื่อไทยใช้คนรุ่นเก่ามากไป และไม่ปั้นคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ตรงนี้เสียเปรียบอนาคตใหม่ หากไม่เร่งปั้นคนรุ่นใหม่มามีบทบาท ระยะยาวเพื่อไทยจะเสียเปรียบอนาคตใหม่”


          เท่ากับว่าเพื่อไทยและอนาคตใหม่ในวันนี้จะเป็นพันธมิตรทางการเมือง แต่วันข้างหน้าหากว่าพรรคสีส้มยังมีชื่อในสารบบการเมือง “อนาคตใหม่” น่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับ ”เพื่อไทย”


          เพราะสื่อหลากสำนักมองจังหวะของหลายพรรคบนเวทีการเมืองไทยแล้วในการตั้ง ครม.ชุดล่าสุด หากว่ารัฐบาลปริ่มน้ำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คัมแบ็กทำเนียบรัฐบาลรอบที่สอง “อยู่ไม่ครบวาระ” นั้น พรรคพลังประชารัฐน่าจะยุบตัว เพราะหลากมุ้งในพรรคฟาดฟันกันหนักในช่วงต่อรองเก้าอี้ ครม. แต่หาก ”พปชร.” เดินต่อไปได้ในการหย่อนบัตรครั้งหน้า ก็ใช่ว่าคะแนนนิยมจะมั่นคงเหมือนวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา




          “ประชาธิปัตย์” ก็ต้องยกเครื่องใหม่เพราะรอยแยกลึกในพรรคมีเพียบ และต้องใช้เวลาอีกระยะในการฟื้นตัวเพื่อกลับมาเบียด...


          “ภูมิใจไทย” ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าการร่วมรัฐบาลครั้งที่สองหลังตั้งพรรคมาแล้วกว่าสิบปีนั้น ผลงานจะซื้อใจสังคมได้หรือไม่...


          แต่พรรคสีฟ้าและพรรคสีน้ำเงินต้องตอบคำถามชาวบ้านให้ได้ว่า ช่วงหาเสียงที่เคยบอกว่าไม่หนุนการสืบทอดอำนาจ แต่เหตุใดวันนี้จึงยกมือหนุนลุงตู่...


          ส่วน “ชาติพัฒนา, ชาติไทยพัฒนา, รวมพลังประชาชาติไทย” นั้น หากยังไม่สร้างผลงานในการร่วมรัฐบาลควบคู่กับการเร่งปรับระบบพรรคเพื่อสร้างฐานคะแนนใหม่ คำว่า ”ตำนานพรรค และ การสูญพันธุ์” อาจมาเยือนไวกว่าที่คาด


          ด้าน “พรรคเล็กและพรรคจิ๋ว” ที่แจ้งเกิดนับสิบพรรคและร่วมขบวนหนุนลุงตู่ในคราวนี้ ประเมินแนวโน้มแล้วการคัมแบ็กในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ”น้อยยิ่งกว่าน้อย”


          ดังนั้นเพลานี้ “กระแสสีส้ม” คล้ายกับยุค ”ทรท.ฟีเวอร์” ที่เป็นดั่งสึนามิการเมือง กวาดต้อนหลายสิ่งบนกระดานการเมืองร่วงหาย


          สังคมจึงรับรู้กันเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า เพื่อไทยเตรียมปรับภาพลักษณ์พรรค โดยจะชูคนรุ่นใหม่มาเดินเครื่องแทนผู้บริหารชุดเดิม เพราะขั้วที่หนุนให้ยกเครื่องเพื่อไทยนั้นอ้าง "นายใหญ่” ว่าสถานการณ์ตอนนี้คนรุ่นใหม่สนใจการเมืองมาก แต้มเหล่านี้จะช่วยให้เพื่อไทยกลับมาเติบโตได้โดยผสานนโยบายใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์สังคม แล้วใช้เลือดใหม่นำทีม


          ตัวอย่างที่สัมผัสได้ง่ายๆ คือกระแส “ธนาธรฟีเวอร์” บนหน้าข่าวการเมืองในปัจจุบัน โดยอ้างกันว่านายใหญ่ ”ยินดี” ที่เพื่อไทยจะปรับตามแนวทางนี้ ไม่เช่นนั้นจะพ่ายต่อพันธมิตรการเมือง ซึ่งที่ตั้งของสำนักงานใหญ่พรรคอยู่ห่างกันไม่กี่เมตร


          แม้แกนนำพรรคสีส้มจะมีเส้นทางการเมืองแบบไต่เส้นลวด แต่ยามนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ในภาวะ "หมูไม่กลัวน้ำรัอน” ยังลุยงานการเมืองแบบไม่สนใจวิบากกรรมในวันข้างหน้า


          “เสี่ยเอก” แห่งพรรคสีส้มจึงลุยไฟและวาดหวังว่าอนาคตใหม่จะกุมสภาพการเมืองตั้งแต่สนามท้องถิ่น คือ อบต., อบจ., เทศบาลทั้งสามระดับ(ตำบล, เมือง, นคร) เมืองพัทยา และสนามเมืองกรุง เพราะมั่นใจแล้วว่า พรรคสีส้มจะปักธงได้ชัวร์ ! เพื่อให้การเมืองท้องถิ่นเป็นพลังให้สนาม ส.ส.ของอนาคตใหม่ในวันข้างหน้า


          ช่วงตั้งไข่นั้นจะพบว่า "อนาคตใหม่” รุกคืบเจาะแต้มนักเรียน, นักศึกษา, คนรุ่นใหม่, คนหน่ายการเมือง รวมทั้งท้องถิ่นแบบหนักหน่วง โดยรุกผ่านโซเชียลมีเดียและสัญจรไปจัดกิจกรรมและสัมมนาตามต่างจังหวัดทั่วไทย และวันนี้ก็ยังย้ำหัวหมุดอย่างต่อเนื่อง


          วันนี้ อนาคตใหม่ ที่มี 80 ส.ส.ในมือ แม้จะเคยมีกระแส "งูเห่าสีส้ม” ทว่า ธนาธรสามารถสยบข่าวลือไว้ได้ แม้เส้นทางในวันข้างหน้ายังน่ากังวล เพราะความเสี่ยงในการไต่เส้นลวดของคีย์แมนพรรคหลากเรื่อง หลายวาระโดยเฉพาะ "การยุบพรรค” ตามที่หลายคนมองว่า “ความเป็นไปได้มีสูง” แต่มีการยืนยันจากคลังสมองสีส้มว่า "พรรคสำรอง” ที่จะย้ายคนเสื้อสีส้มไปสังกัดนั้นเตรียมไว้แล้วหากเกิดเหตุขึ้น ดังนั้นคนเสื้อสีส้มคงไม่ไปอาศัย "ชายคาพรรคอื่นๆ” ทำงานการเมืองในระยะยาว


          ดังนั้น จังหวะของเพื่อไทยในการยกเครื่องครั้งนี้ ทราบว่าอาคาร OAI Tower มีแรงสะเทือนมาระยะหนึ่งหลังศึกชิงเก้าอี้ สร.1 จบลง สังคมรู้ว่าเพื่อไทยพ่ายพลังประชารัฐและเสียสมดุลให้อนาคตใหม่


          การชิงจังหวะนำในพรรคจึงบังเกิดจากขั้วทีมเมืองหลวงเพื่อขับเคลื่อนพรรคแทนขั้วตึกชิน


          เพราะคนการเมืองรู้ดีว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ซดเกาเหลากันมาพักหนึ่ง โดยมีชนวนมาตั้งแต่การเปลี่ยนโครงสร้างพรรค ซึ่งคุณหญิงหน่อยรับบทประธานยุทธศาสตร์พรรค รวมทั้งการแยกเซลล์ย่อยไปตั้งพรรคไทยรักษาชาติเพื่อปันแต้มปาร์ตี้ลิสต์ โดยปีก ทษช.นั้นหน้าตาของแกนนำพรรคหลายคนก็เป็นคนไม่กินเส้นกับคุณหญิงหน่อย


          หลังยุบพรรคสาขาเพื่อแม้วที่ชื่อ ทษช. พบว่าบิ๊กเนมทษช.หลายคนไม่คัมแบ็กถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และกำลังเลือกว่าจะเดินบนถนนการเมืองอย่างไร เพราะหากคุณหญิงหน่อยยังมีบทบาทในเพื่อไทยก็ยากที่จะเห็นเงาของคนเหล่านั้น...


          ดังนั้นในยามนี้ขั้วเมืองหลวงหวังจะชิงการนำพรรคแบบเบ็ดเสร็จโดยคุณหญิงหน่อยจะบัญชาการหลังม่าน ส่วนหัวหน้าพรรคนั้นสายตรงของคุณหญิงหน่อยคือ “น.ท.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” บุตรชาย น.ต.ฐิติ นาครทรรพ อดีตพ่อบ้านพรรคสามัคคีธรรมจะรับไม้ไป ส่วนเลขาธิการพรรคนั้นหลายคนในขั้วเมืองหลวงหวังว่าจะได้สิทธิดังกล่าว และใครบางคนในขั้วเมืองหลวงสับแหลกทีมบริหารพรรคปัจจุบันว่าล้มเหลวและดื้อ


          แต่พ่อบ้านพรรคอย่างภูมิธรรมใช่ว่าไม่รู้เกม และในฐานะหนึ่งในทีมมันสมองของนายใหญ่หลายสิบปี ย่อมอ่านจังหวะออกและจับมือกับขั้วเจ๊แดง ดัน "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ขึ้นแท่น เพราะดีกรีของสมพงษ์ใช่ย่อยในสนามการเมือง แถมยังมีเครดิตอดีตแกนนำกลุ่ม 16 ที่ติดตัวและเพื่อนพ้องน้องพี่ในหลากพรรค


          แม้ตอนนี้ภูมิธรรมจะให้ข่าวทำนองว่าพรรคจะเริ่มมีการผสมผสานคนหน้าเก่าทางการเมืองกับคนรุ่นใหม่เพื่อบาลานซ์น้ำหนัก และทำงานร่วมกันได้


          แต่เก้าอี้หลักคือ "หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค” นั้น ยากที่จะให้สองขั้วมารวมกัน เพราะสุดท้ายแล้วต้องมีขั้วหนึ่งแห้วรับประทาน เว้นเพียงคำสั่งจากแดนไกลมีบัญชาลงมา...


          การชิงเหลี่ยมงวดนี้เสมือนศึกศักดิ์ศรี หากดูเชิงมวยแล้ว "มวยสดบดมวยเก๋า สิงห์หนุ่มยากที่จะโค่นเสือเฒ่า” และกองเชียร์ข้างเวทีให้เรตราคาว่าสมพงษ์ยังมีแต้มต่อผู้พันป๊อปหลายช่วง


          หากเกมออกมาแบบนี้รอดูว่าทีมเมืองหลวงจะวางบทตัวเองในพรรคไว้อย่างไร เพราะเปิดศึกรอบทิศและจับตาว่าจะแยกไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่...แต่คงเป็นไปได้ยาก


          และมีบางมุมที่น่าคิดคือ ไม่ว่าขั้วใดขึ้นมา “ภูมิธรรม” อาจโดนขยับออกจากเก้าอี้พ่อบ้านพรรค เพราะขั้วเมืองหลวงคล้ายไม่เอาด้วยกับชื่อนี้แน่นอน ส่วนขั้วเจ๊แดงที่ดันสมพงษ์ขึ้นแท่นนั้น หากสมหวังแล้ว...แว่วว่าสมพงษ์จะเลือกคนคู่ใจจากเมืองขอนแก่นซึ่งเคยร่วมงานตั้งแต่ชาติพัฒนามาทำหน้าที่นี้ แม้จะมีเสียงคัานหนักว่าภูมิธรรมเหมาะสมสุดก็ตาม


          ศึกใน/ศึกนอกของพท.นั้นเหมือนไม่มีอะไร...แต่ความจริงมันบ่งชี้บางอย่างในอนาคตของเส้นทางการเมืองสำหรับพรรคที่มีส.ส.มากสุดของเมืองไทยยามนี้ได้เป็นอย่างดี

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ