คอลัมนิสต์

เด็กกับน้ำ..แค่ละสายตาก็อันตรายถึงชีวิต!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  สายตรวจระวังภัย   โดย...  ทีมข่าวอาชญากรรม


 


          ทุกปีมักจะเกิดเหตุเศร้าสลดเกิดขึ้นกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กวัยแรกเกิดจนถึง 2 ขวบ ที่ต้องเสียชีวิตจากการจมน้ำ ส่วนใหญ่เกิดจากการพลั้งเผลอของพ่อแม่ผู้ปกครองที่คาดไม่ถึงว่าการสูญเสียจะมากระแทกจิตใจไวกว่ากำหนด แน่นอนว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ และไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เราสามารถป้องกันได้จากอุทาหรณ์หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา 

 

 

          ล่าสุดความสูญเสียน่าสลดเกี่ยวกับเด็กเกิดขึ้นที่ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เมื่อตำรวจ สภ.นครไทย ได้รับแจ้งเหตุว่า ด.ช.ภัคพงศ์ หงษ์ศรี หนูน้อยในวัยยังไม่เต็มขวบ จมน้ำเสียชีวิต เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบ น.ส.วิไล อ่างหิน ผู้เป็นแม่อุ้มร่างไร้วิญญาณร้องไห้ปิ่มขาดใจ และข้างๆ มีถังสีขนาด 20 ลิตร โดยมีน้ำอยู่ในถังประมาณครึ่งถังวางอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ก่อนเล่าทั้งน้ำตาว่าตัวเองออกไปทำงานโดยฝากลูกให้ นายน้อม และ นางสำราญ อ่างหิน ผู้เป็นทวดช่วยเลี้ยงดูลูก แต่เผลอหลับจนเกิดเหตุสูญเสียอย่างน่าเศร้า
 

 

 

เด็กกับน้ำ..แค่ละสายตาก็อันตรายถึงชีวิต!

 

 

          จากเหตุสลดที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียในลักษณะนี้อีกแบบซ้ำๆ ทุกปี กรมควบคุมโรค จึงออกมาเตือนผู้ปกครองต้องดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กคลาดสายตาหรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำเสี่ยง โดยแนะควรจัดทำพื้นที่เล่นที่ปลอดภัย หรือหาที่กั้นคอกสำหรับเด็ก หรือหาที่กั้นคอกสำหรับเด็ก เนื่องจากข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าเด็กเล็กจมน้ำเสียชีวิตเกือบ 2,000 ราย


 

 

 

เด็กกับน้ำ..แค่ละสายตาก็อันตรายถึงชีวิต!

 


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบายว่า จากข้อมูลมรณบัตรของกองนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา (ปี 2552-2561) พบเด็กเล็กอายุแรกเกิด-2 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต 1,890 ราย เฉลี่ยปีละ 189 ราย หรือในทุกเดือนจะพบว่ามีเด็กเล็กอายุแรกเกิด-2 ขวบ จมน้ำถึง 16 ราย โดยมักจะพบการจมน้ำเสียชีวิตภายในบ้าน หรือรอบๆ บ้านที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งแหล่งน้ำที่พบเด็กเล็กกลุ่มนี้จมน้ำมากที่สุดคือในภาชนะกักเก็บน้ำภายในบ้าน เช่น ถัง กะละมัง กระติกน้ำ ตุ่ม โอ่ง 

 

 

 

เด็กกับน้ำ..แค่ละสายตาก็อันตรายถึงชีวิต!

 


          สาเหตุของการจมน้ำในเด็กกลุ่มนี้มักเกิดจาก อันดับแรก ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเด็กปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังในช่วงเวลาที่ทำกิจกรรมบางอย่างเพียงระยะเวลาสั้นๆ เช่น เข้าห้องน้ำ คุยโทรศัพท์ หรือทำกับข้าว ลำดับถัดมา คือไม่มีการจัดการแหล่งน้ำเสี่ยงที่อยู่ภายในบ้าน หรือไม่คิดว่าน้ำที่อยู่ในถัง กะละมัง ที่มีระดับน้ำสูงเพียง 1-2 นิ้ว จะสามารถทำให้เด็กจมน้ำได้ เนื่องจากเด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 9 เดือนขึ้นไปเริ่มคืบคลานได้เร็ว จึงมีความเสี่ยงต่อการจมน้ำจากแหล่งน้ำภายในบ้านหรือรอบๆบ้าน และเด็กอายุ 1 ขวบจะเริ่มเดินได้ แต่การทรงตัวยังไม่ดีจึงทำให้ล้มได้ง่าย ในท่าที่ศีรษะทิ่มลงและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

 

 

 

เด็กกับน้ำ..แค่ละสายตาก็อันตรายถึงชีวิต!

 


          “ด้วยเหตุนี้กรมควบคุมโรคจึงมีนโยบายให้ทุกครัวเรือนที่มีเด็กเล็กอายุแรกเกิด-2 ขวบ มีพื้นที่เล่นที่ปลอดภัย หรือคอกกั้นสำหรับเด็กตามที่องค์การอนามัยโลกให้ข้อเสนอแนะว่า เป็นมาตรการป้องกันการจมน้ำที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำจากวัสดุที่หาได้ง่ายๆ ในท้องถิ่น ไม่ควรใหญ่เทอะทะหรือมีน้ำหนักมาก เพราะจะเคลื่อนย้ายลำบาก และไม่ควรมีน้ำหนักเบาจนเกินไป เพราะอาจโคลงเคลงหรือทนรับน้ำหนักของเด็กไม่ได้ โดยให้มีความสูงอย่างน้อย 51 เซนติเมตรขึ้นไป คอกกั้นแบบมีซี่ราวต้องมีช่องห่างไม่เกิน 6 เซนติเมตร และควรเป็นแนวตั้ง อย่างไรก็ตามผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังในบริเวณนี้ตลอดเวลา อาจจะปล่อยไว้เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ที่ทำกับข้าวหรือเข้าห้องน้ำ และพื้นที่ดังกล่าวไม่ควรมีภาชนะกักเก็บน้ำ หรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำเสี่ยง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กได้” นพ.สุวรรณชัย ระบุ


          ข้อแนะนำในการป้องกันเด็กจมน้ำสำหรับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็ก คือ 1.เทน้ำออกจากภาชนะทุกครั้งหลังใช้งาน 2.กั้นคอก จัดหาพื้นที่เล่นที่ปลอดภัยให้แก่เด็ก มีรั้วล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และอยู่ห่างแหล่งน้ำเสี่ยง 3.ปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำทุกครั้งหลังใช้งาน และ 4.เฝ้าดูเด็กตลอดเวลาอย่างใกล้ชิด (ในระยะที่มือเอื้อมถึง) และไม่ควรปล่อยให้เด็กคลาดสายตา ทั้งนี้หากปล่อยให้เด็กจมน้ำนาน 6-10 นาที จะโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 56
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ