คอลัมนิสต์

ลดขยะพลาสติก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

          ‘อ๊อด เทอร์โบ’ ขอเป็นสื่อกลางนำเสนอจดหมายจากคุณ ‘วีระ อัครพุทธิพร’ จากสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย ที่ขอให้กระทรวงสาธารณสุขแก้กฎหมายให้ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล

          ขอสนับสนุนให้นำมาพิจารณาโดยเร็ว เพื่อลดขยะพลาสติกและรักษาสภาพแวดล้อม

 

 

          เวลานี้มีการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติก เราต้องช่วยกันโดยไม่ต้องบังคับแต่มีจิตสำนึก-ความรับผิดชอบ

รีไซเคิลขยะพลาสติก


 เร่ง สธ.แก้กฎหมายให้ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล
 เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ

          ตอนนี้ไทยเป็นประเทศที่สร้างขยะพลาสติกติดอันดับ Top5 ของโลก ถ้าลดการสร้างขยะได้และสามารถเอาขยะกลับมารีไซเคิลได้ทั้งหมด ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการที่ผู้คนใช้พลาสติกจะลดลงได้เรื่อยๆ

          จริงๆ แล้วแม้ตอนนี้ไทยเองจะมีการนำขยะพลาสติกจำพวกขวดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มาเข้ากระบวนการรีไซเคิล แต่พลาสติกที่ได้จากการรีไซเคิลก็นำไปผลิตเป็นสินค้าอื่นๆ ไม่สามารถนำมาผลิตเป็นขวดเครื่องดื่มได้อีก ทั้งที่ถ้ามีการอนุญาตให้การผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มสามารถใช้เม็ดพลาสติกที่ได้จากการรีไซเคิลขยะขวดพลาสติก ก็จะทำให้เกิดการใช้พลาสติกหมุนเวียนไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องใช้เม็ดพลาสติกใหม่มาเพิ่ม

          แต่ตอนนี้ที่ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ทั้งที่ภาคธุรกิจผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มีความพร้อมแล้ว ก็เพราะติดล็อกกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข ที่ตราไว้ตั้งแต่ปี 2548 ไม่ให้ใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลมาผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มนั่นเอง ผมเข้าใจว่าตอนที่ออกประกาศกฎกระทรวงเมื่อ 13 ปีก่อน เพราะสาธารณสุขกังวลเรื่องความปลอดภัยในการใช้พลาสติกรีไซเคิลเมื่อมาสัมผัสอาหาร และนวัตกรรมการผลิตพลาสติกรีไซเคิลยุคก่อนอาจยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้ สธ.ได้ แต่ยุคนี้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีก้าวไกลไปมากเหลือเกินแล้ว มาตรฐาน FDA ของสหรัฐฯ และของกลุ่มอียู ต่างก็มีข้อกำหนดมาตรฐานตรวจเช็คความปลอดภัยเมื่อใช้พลาสติกรีไซเคิลมาผลิตเป็นขวดเครื่องดื่ม


          ประเทศไทยเองก็น่าจะถึงเวลาลงมือเปลี่ยนแปลงกันบ้างแล้วครับ เราคงไม่อยากอยู่อันดับหนึ่งของประเทศที่สร้างขยะพลาสติกมากที่สุดในโลกหรอกนะ ผมจึงอยากฝากให้ สธ.ได้พิจารณาหรือศึกษา

          แนวทางการกำหนดมาตรฐานการใช้พลาสติกรีไซเคิล สำหรับภาคธุรกิจและแก้ไขกฎหมายให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก

          ขอบคุณ คุณอ๊อด เทอร์โบ ไว้ล่วงหน้า หากจะได้ช่วยกันกระทุ้งให้ภาครัฐขยับตัวเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะงานนี้บอกตรงๆ ว่าภาคธุรกิจไม่มีส่วนได้กำไร แต่เป็นการลงทุนเพิ่มเติมด้วยซ้ำ เพราะการใช้พลาสติกรีไซเคิล มีต้นทุนที่สูงกว่าการใช้พลาสติกใหม่ แต่พวกเรามีเจตจำนงร่วมกันในการทำธุรกิจและรักษาสภาพแวดล้อม
วีระ อัครพุทธิพร (สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย)



 ข้าราชการบำนาญเดือดร้อน
 เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ (ผ่านไปยังรัฐบาล)

          ตามที่รัฐบาลได้มีมติอนุมัติช่วยเหลือข้าราชการบำนาญชั้นผู้น้อยและชั้นผู้ใหญ่ โดยนำเงินบำเหน็จตกทอดมาจ่ายเป็นบำเหน็จดำรงชีพคนละ 15 เท่าของเงินบำนาญเป็นของขวัญปีใหม่ 2562 นั้น พวกผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

          จากการอธิบายของเจ้าหน้าที่การเงิน-การคลังของเจ้าสังกัด พอสรุปได้ว่า รัฐบาลจะพิจารณาจ่ายเงินดังกล่าวให้เฉพาะข้าราชการบำนาญที่มีเงินบำเหน็จตกทอดอยู่ค่อนข้างสูงเท่านั้น ส่วนข้าราชการบำนาญที่มีเงินบำนาญต่ำซึ่งจะมีเงินบำเหน็จตกทอดเหลืออยู่จำนวนน้อยจะไม่จ่ายให้แต่อย่างใด ไม่ทราบว่ารัฐบาลมีเหตุผลกลใดที่กลับกลายเป็นว่าจะช่วยเหลือผู้ที่มีเงินบำนาญสูงหรือข้าราชการบำนาญชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น

          พวกผมซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญผู้น้อยซึ่งได้รับความเดือดร้อนในเรื่องรายได้ไม่พอกับรายจ่ายอยู่ ต้องผิดหวังอย่างมาก

          รัฐบาลคงจะเกรงว่าหากจะจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่ข้าราชการบำนาญผู้น้อยจะทำให้บำเหน็จตกทอดที่เหลืออยู่ค่อนข้างน้อยอาจไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายเป็นค่าปลงศพของข้าราชการบำนาญที่เสียชีวิต ซึ่งจะทำให้ทายาทได้รับความเดือดร้อน

          แต่ผมเห็นว่าเหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เช่น ข้าราชการบำนาญผู้น้อยจะมีเงินประมาณเดือนละ 14,000-15,000 บาทเศษ ซึ่งคงมีเงินบำเหน็จตกทอดอยู่อีกไม่ต่ำกว่า 150,000-200,000 บาท เมื่อข้าราชการบำนาญนั้นเสียชีวิต ทายาทก็จะนำเงินบำเหน็จตกทอดมาใช้เป็นค่าปลงศพ น่าจะเพียงพอไม่ทำให้เดือดร้อนแต่อย่างใด

          รัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะช่วยเหลือเฉพาะข้าราชการบำนาญผู้ใหญ่ ซึ่งมีเงินบำนาญค่อนข้างสูง ปกติก็ไม่เดือดร้อนในการดำรงชีพแต่อย่างใดอยู่แล้ว เช่นนี้ก็จะทำให้เกิดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยมากขึ้น
เกียรติชัย (จันทบุรี)


logoline

ข่าวที่น่าสนใจ