คอลัมนิสต์

อย่า!กลัว'ฟ้ารักพ่อ'แค่เด็กดื้อปฏิบัติการเด็ด"ธนาธร-ปิยบุตร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  ถอดระหัสลานพราง   โดย...  พลซุ่มยิง

 

 

          วง คสช.วิเคราะห์กันแล้วว่า ประเทศไทยจะกู่ไม่กลับหากปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเดินไปสู่ความวุ่นวาย ซึ่งครั้งนี้จะหนักและรุนแรงกว่า เพราะนอกจากกลุ่มเห็นต่างหน้าเดิมๆ แล้ว

 

 

          เป้าหมายคือปลุก New Generation หรือคนรุ่นใหม่ ให้ออกมาบนถนนเฉกเช่นในอดีต จึงนำไปสู่ประโยคที่ว่า “ผมจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น” ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการ คสช.


          ปฏิบัติการคว่ำการเลือกตั้ง ไม่ยอมรับกติกาของฝ่ายการเมือง โดยอ้างความไม่เป็นธรรมของรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หวังให้จัดการเลือกตั้งใหม่


          ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายที่ได้ประเมินเอาไว้ตั้งแต่ต้น แต่เหตุการณ์ที่ทำรัฐบาล คสช.ตั้งรับแทบไม่ทันคือ การปลุกปั่นในโซเชียลมีเดียที่ระบาดเหมือนเชื้อไวรัส จนนำไปสู่การล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ในรั้วมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ระดมนิสิต นักศึกษา ทั้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ม.เกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น ม.สงขลานครินทร์ ม.เชียงใหม่ ม.นเรศวร ม.บูรพา มรภ.ราชนครินทร์


          เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ คสช.กังวลต่อกระแสความไม่เชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของ กกต. ที่ไม่สามารถสื่อสารและอธิบายข้อกังขาให้สังคมเข้าใจ ทั้งการประกาศและรับรองผลซึ่งทำให้เกิดข้อพิรุธตั้งแต่แรกเริ่ม จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ไม่ตรงกับบัตรเลือกตั้ง ตลอดจนถึงจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งกำลังถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นการคำนวณที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่




          คนรุ่นใหม่นี้ ยังเป็นฐานเสียงสำคัญและทำให้เกิดกระแส ‘ฟ้ารักพ่อ’ ซึ่งเชื่อว่าจากนี้ไปโซเชียลมีเดียจะกลับมาระอุอีกครั้ง เพราะยังมีหลายคดี ที่ คสช.แจ้งความเอาผิด  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทั้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากกรณีปิดล้อม สน.ปทุมวัน เพื่อกดดันตำรวจยกเลิกหมายจับนายรังสิมันต์ โรม ที่โดนคดีชุมนุมที่หน้าหอศิลป์ เมื่อปี 2558


          และในวันที่ 26 เมษายนนี้ พนักงานอัยการได้นัดหมายนายธนาธร พร้อมพวก มาฟังการสั่งคดีจัดรายการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเพจอนาคตใหม่ วิจารณ์ คสช. ในข้อหาผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รวมถึงคดีที่มีผู้ฟ้องร้องกรณีใส่เนื้อหาประวัติ ‘ธนาธร’ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง อาจจะนำไปสู่การแจกใบเหลือง ใบส้ม จาก กกต.ในอนาคต


          ที่สำคัญ คสช.กำลังรวบรวมพยานหลักฐานย้อนหลัง โดยนำหนังสือ “ราชมัลลงทัณฑ์ บัลลังก์ปฏิรูป” ที่มีชื่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้เขียน มาต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นความสัมพันธ์กับคณะนิติราษฎร์, เนื้อหาบรรยายในห้องเรียนของมหาวิทยาลัย, การออกรายการทีวี, เวทีเสวนาวิชาการเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เรียกว่าไม่ให้ดิ้นหลุด เพื่อเอาผิดในมาตรา 116 และกำลังพิจารณานำไปสู่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่

 

 

          โดยหนังสือ “ราชมัลลงทัณฑ์ บัลลังก์ปฏิรูป” มีเนื้อหาเกี่ยวกับ บทอภิปรายว่าด้วยรัฐธรรมนูญ สถาบันกษัตริย์ ตุลาการ และกองทัพ เมื่อเปิดเข้าไปในหน้าสารบัญ มีหัวข้อ ศาลรัฐธรรมนูญล้ำแดนอำนาจฯ, เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ”, ความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ขัดกับเสรีภาพฯ, การรักษาสถาบันกษัตริย์ด้วยการสละราชบัลลังก์ของกษัตริย์สีหนุ, กองทัพในระบอบประชาธิปไตย, 4 ปีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549, มาตรา 112, ข้อเสนอคณะนิติราษฎร์ เรื่องการยุบศาลรัฐธรรมนูญฯ, สุพจน์ ด่านตระกูล กับ “ประวัติรัฐธรรมนูญ”, การทำให้รัฐปลอดศาสนาในฝรั่งเศส และหัวข้ออื่นๆ


          แม้ คสช.จะรู้อยู่เต็มอก การแจ้งความดำเนินคดีกับสองแกนนำพรรคอนาคตใหม่ จะเข้าทางคนบางกลุ่มที่พยายามปลุกระดมนิสิต นักศึกษา ออกมาเดินขบวนบนถนนหวังให้เกิดความรุนแรงเหมือนพฤษภาทมิฬ 35 หรือ 16 ตุลา 19 เพื่อนำไปสู่การเข้ามาขององค์กรระหว่างประเทศ ฉีกรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้วร่างขึ้นใหม่ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้


          แต่ คสช.ยังมองในแง่ดีว่า นิสิต นักศึกษา เป็นแค่เพียงเด็กดื้อ ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง หากรัฐบาลและกองทัพปรับรูปแบบการพูดคุย ใช้ภาษาเดียวกัน หรือภาษาวัยรุ่น น่าจะเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และบุคคลเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญนำพาประเทศไปทางที่ถูกที่ควร

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ