คอลัมนิสต์

เปิดวิสัยทัศน์ 4 พรรคใหญ่ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงาน...

 

 

          4 พรรคการเมือง ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง” ในงานบางกอกโพสต์ฟอรั่มเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยมี 4 ตัวแทนจากพรรคการเมืองที่มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ คือ ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โดยแต่ละพรรคการเมืองก็ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละนโยบายของพรรคการเมืองที่ต่างกันอันมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

 

 

          ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เชื่อว่าในอนาคตคนไทยอยากเห็นประเทศมีความสงบสุข ประชาชนมีความสุข สังคมเป็นสังคมที่เกื้อกูลคุณภาพชีวิตที่ดี การเติบโตของประเทศได้รับการขับเคลื่อนโดยเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงก้าวล้ำไปสู่เวทีโลก สามารถเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมานานของประเทศได้ รวมทั้งสามารถสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึง และเมื่อเป็นเช่นนี้พรรคพลังประชารัฐจึงมีการนำเสนอถึง 3 พันธกิจในการช่วยแก้ปัญหาของประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ทำได้จริงและไม่ขายฝัน เพราะเป็นนโยบายและเรื่องที่มาจากการรับฟังเสียงของประชาชน นำมาประกอบกับข้อมูลที่ทางพรรคได้วิเคราะห์รวบรวมมาแล้วจึงมั่นใจว่าทำได้จริง

 

          โดยได้ลงรายละเอียดถึง 3 พันกิจไว้ คือ 1.สวัสดิการประชารัฐ เพื่อขจัดปัญหาสั่งสมที่สำคัญที่สุดอย่างความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน 2.สังคมประชารัฐ ที่ต้องการให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เป็นสังคมที่เข้มแข็ง และรู้จักแบ่งปัน 3.เศรษฐกิจประชารัฐ ที่จะต้องเป็นเศรษฐกิจที่มีความสามารถในการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันได้ให้แก่คนไทย ซึ่ง 3 พันธกิจนี้ยึดโยงกัน ไม่มีพันธกิจใดสำคัญกว่าอีกพันธกิจ เพราะหากจะให้ตอบโจทย์อนาคตที่คนไทยอยากเห็น นโยบายที่จะประสบผลสัมฤทธิ์แล้วนำมาซึ่งสิ่งเหล่านั้น จะต้องเป็นนโยบายที่ยึดโยงกัน

 


          ด้าน  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้นำเสนอ 6 ยุทธศาสตร์ ในการแก้ปัญหาประเทศ เนื่องมาจากปัจจุบันภาพรวมทางเศรษฐกิจไม่ได้เลวร้าย แต่เงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า คนจนมีสภาพไม่ดี เอสเอ็มอีโตแต่ธุรกิจใหญ่ๆ หนี ภาษีเกษตรกรเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้องเข้าใจโจทย์ก่อนที่จะคุยกันว่าอนาคตไทยหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ซึ่งในอนาคตเราจะต้องดูว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตได้อย่างไร ให้กินดี อยู่ดีอย่างเท่าเทียมกันได้


          โดยได้ลงรายละเอียดถึง 6 ยุทธศาสตร์ ไว้ดังนี้ 1.ไทยทำ คือรับจ้างผลิตด้วยแรงงานราคาถูก ต้องให้ความสำคัญกับการเมดอินไทยแลนด์ สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ไทย 2.ไทยทันสมัย คือ เอาเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกับไทยทำ หรือภาคเกษตรกร ที่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง 3.ไทยเท่าเทียม คือ การกระจายอำนาจ ทั้งระบบการศึกษา สาธารณสุข เข้าถึงแหล่งการแก้ไขปัญหาหนี้สิน 4.ไทยเชื่อมไทย คือ ระบบคมนาคม ชลประทาน อินเทอร์เน็ต ที่ต้องเอามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ไทยให้ได้ โดยใช้เทคนิคเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานและให้อุปกรณ์แก่ประชาชนในการจัดทำ 5.ไทยเชื่อมโลก คือ การนำเอาสินค้าของไทยออกไปสู่ระดับโลก หาตลาดพันธมิตรทำการค้าเชื่อมโลกให้เข้มแข็ง พร้อมดึงคนเก่งและต่างชาติเข้ามาร่วมงาน และ 6.ไทยยั่งยืน คือ ต้องขจัดการคอร์รัปชั่น พร้อมกำหนดความยั่งยืนในเรื่องต่างๆ ซึ่งทั้งหมดจะถูกร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกัน พรรคเพื่อไทยจะทำนโยบายที่เป็นกลุ่มไม่แยกกันและปะติดปะต่อเสริมกันในทุกด้าน


          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ระบุถึงโจทย์สำคัญของประเทศที่ประชาชนหวังอยากให้แก้ไขว่า คือ การหลุดพ้นจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ประชาชนต้องการเห็นประเทศเดินหน้าเพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ ในอนาคต พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทั้งต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถกินบุญเก่าจากทรัพยากรของประเทศที่มีได้อีกต่อไป ต้องหาทางใช้ทุนอย่างอื่นที่ไม่ใช่เงินเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ ด้วยขณะนี้ประเทศอยู่ในสังคมสูงวัย เราจึงขาดแคลนแรงงาน มีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ ความแตกต่างระหว่างภูมิภาค รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน และแก้ปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อเรื้อรังมานานกว่า 10 ปี


          เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อตอบโจทย์ของประเทศ คือ 1.โครงสร้างทางกฎหมายต้องเปลี่ยน ไม่ติดอยู่กับปัญหาที่ล้าสมัย ซึ่งพรรคจะสะสางปัญหาส่วนนี้ให้มีความชัดเจน จะเปลี่ยนกฎหมายเก่าเพื่อทำแนวคิดกฎหมายใหม่ๆ 2.การกระจายอำนาจที่พรรคได้มองไปถึงแนวคิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งจัดการให้มีเมืองพิเศษเป็นเมืองมหานคร เพื่อกระจายศูนย์กลางของความเจริญ และเราจะต้องมีการเมืองที่ดีและสะอาดเพื่อกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย นำพาประเทศตอบโจทย์ทั้งระยะสั้นระยะยาว และพาประเทศไทยกลับสู่เวทีสากลด้วยความภาคภูมิใจ ประเทศนี้จะเดินหน้าโดยประชาชนเป็นใหญ่ จะพาประเทศไปสู่การแก้จน สร้างคน สร้างชาติ


          นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้เสนอถึงเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่คนในชาติ เช่น การจัดการคลังสินค้า แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นโดยการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่ตรวจสอบได้ง่ายกว่าการใช้กระดาษและรวดเร็วกว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องของความเหลื่อมล้ำในสังคมที่มีอยู่ การสร้างระบบคมนาคม ระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพให้แก่สังคมไทย รวมถึงระบบการศึกษาที่ดี โดยเราสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องของเศรษฐกิจที่จะเจอได้ พร้อมทั้งสร้างสังคมให้น่าอยู่ โดยมองกลับไปดูว่าอะไรคือปัญหาที่ทำให้ไม่เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา


          ซึ่งนายธนาธร ระบุว่า สาเหตุมาจากการที่เรายังไม่สามารถที่จะมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยมีการรัฐประหารเกิดขึ้นอยู่เสมอ และนี่คือโจทย์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 ที่ควรได้รับการแก้ไข

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ