คอลัมนิสต์

"เศรษฐพงศ์" โฆษกภูมิใจไทยตัดสินใจอาทิตย์เดียว-มุ่งดัน"ดิจิทั

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เศรษฐพงศ์" โฆษกภูมิใจไทยตัดสินใจอาทิตย์เดียว-มุ่งดัน"ดิจิทัล เวิลด์" :  คอลัมน์... คมชัดลึก...ตะลุยเลือกตั้ง 

 

 

          “พ.อ.รศ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ” หนึ่งในบุคคลด้านไอทีและดิจิทัลชั้นยอดของเมืองไทยที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง วันนี้สลัดเครื่องแบบแล้วมาลงสนามการเมืองกับพรรคสีน้ำเงิน

 

          พ.อ.รศ.ดร.เศรษฐพงค์ อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มารับหน้าที่โฆษกพรรคภูมิใจไทย


          อดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 26 นักเรียนนายร้อย จปร. รุ่น 37 ที่คว้าปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารโทรคมนาคม เกียรตินิยมเหรียญทอง จากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จากนั้น ปริญญาโทด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ปริญญาโทด้านวิศวกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม ระบบสื่อสารเคลื่อนที่และเซลลูลาร์ ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม จากสหรัฐ อยู่ในดีกรีที่ "ดร.มาร์ช” คนนี้คว้ามา

 

 

"เศรษฐพงศ์" โฆษกภูมิใจไทยตัดสินใจอาทิตย์เดียว-มุ่งดัน"ดิจิทั


          อดีตรองประธาน กสทช. ที่มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและนานาชาติด้านไอทีและดิจิทัล มารับผิดชอบภารกิจสร้าง "ดิจิทัล เวิลด์” ของพรรคสีน้ำเงิน


          “สึนามิดิจิทัลกำลังมา เราต้องเตรียมความพร้อมให้คนไทยเอาชีวิตรอดในการเปลี่ยน แปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น" คือคำพูดช่วงหนึ่งของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในการเปิดตัวทีมงานและนโยบายพรรคเมื่อไม่นานมานี้ 


          วันนี้ ดร.มาร์ช ขยายความในการตอบรับคำชวนของพี่หนูลงเวทีการเมืองไทยกับภารกิจที่รับมา...

 


          0 ทำไมมาลงสนามการเมืองกับพรรคนี้ ทั้งที่ไปอยู่กับพรรคใดก็ได้
          “ผมรู้จักหัวหน้าพรรคมานับสิบปีแล้ว กินข้าวคุยกันเสมอในเรื่องทั่วไป แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนก็คุยกันเรื่องบ้านเมืองบ้าง แต่ที่หนักๆ ก็สองเดือนก่อน “พี่หนู” ถามผมว่า หากยุติงานที่ กสทช.แล้วจะทำอะไร ตอนนั้นผมบอกไปว่า อาจไปสอนหนังสือ พี่หนูก็ถามต่อว่า งานที่เคยทำไว้ ทำได้สำเร็จสุดๆ หรือยัง หากยังก็ขอให้มาช่วยทำให้มันสุดๆ เลย มาช่วยกันทำให้มันเป็นจริงที่พรรคนี้ จะได้จดจำในสิ่งที่เราอยากทำแล้ววันนี้เราทำได้จริง ต้องเป็นรูปธรรม ประชาชนจับต้องได้

 

 

"เศรษฐพงศ์" โฆษกภูมิใจไทยตัดสินใจอาทิตย์เดียว-มุ่งดัน"ดิจิทั



          ผมไปคิดมาอาทิตย์เดียว แล้วก็ตอบพี่หนูว่า “ตกลง” ผมก็อยากเห็นผล วันนี้ถึงเวลาที่เมืองไทยต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมโยงการทำงานของรัฐ ทุกแพลตฟอร์มให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อการให้บริการประชาชนรวดเร็ว เปิดโอกาสการทำธุรกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิทัล ให้เป็นธุรกิจ เป็นการประกอบอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายให้มากที่สุด เช่น โฮมสเตย์ วันนี้ชาวต่างชาติอยากไปสัมผัสชนบทนะ หากชาวบ้านในต่างจังหวัดเปิดบ้านของตัวเองให้ต่างชาติมาพัก มาเที่ยว มากิน โดยลงทะเบียนจองทางสมาร์ทโฟน และเผยแพร่ธุรกิจนี้ไปในสังคมออนไลน์ มันสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน หากแก้ไขกฎหมายหรือระเบียบทางราชการที่เป็นปัญหาออกไป”


          0 จะทำอะไรกับนโยบาย "ดิจิทัลเวิลด์”
          “เมืองไทยนั้นมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ร้อยละ 98 คนไทย 70 ล้านคน มีมือถือ 130 ล้านเลขหมาย หากสร้างรายได้และอาชีพด้วยมือถือ มันเติบโตแบบก้าวกระโดดได้เลยนะ หากนโยบายรัฐส่งเสริม หากมันทำได้จริง ประชาชนจะมีอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้ และอาชีพเดิมที่มั่นคงขึ้น มันลงทุนน้อยมาก มีผลตอบแทน และครบระบบ โดยการปลดล็อกตรงนี้"


          “ใน 5-10 ปีข้างหน้า หลายอาชีพจะหายไป ไม่ใช่แค่ในเมืองไทยแต่ทั่วโลก ตรงนี้เราพร้อมสร้างคนและสังคมรองรับมันหรือยัง มันมาไวมากจากเทคโนโลยียุคนี้ หากเรามีครีเอเตอร์ดีๆ ก็จะสร้างมันได้ แต่วันนี้ภาครัฐยังมองไม่เห็นมุมนี้ หากมีโอกาสผมก็อยากผลักดันมันให้เกิดขึ้น"


          0 ขอให้นิยามนโยบายนี้ให้ชัดและเป็นรูปธรรม
          “วันนี้ทั่วโลกใช้ระบบออนไลน์กันมากมายในหลากวงการแล้ว แนวคิดและนโยบายพรรคที่ผมเห็นด้วยและหนุนคือการสร้างสถาบันการศึกษาออนไลน์ “ไทยแลนด์ แชริ่ง ยูนิเวอร์ซิตี้” โดยสถาบันการศึกษาเดิมยังอยู่นะ แต่ไทยแลนด์ แชริ่ง ยูนิเวอร์ซิตี้ นั้นมันเหมือนสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกที่ใช้แบบนี้ คือฮาร์วาร์ด เราเรียนที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเข้าไปในมหาวิทยาลัย เราหาความรู้จากไหนก็ได้ทั่วมุมโลก แบบนี้มันสร้างความรู้ใหม่ เยาวชนในต่างจังหวัดก็ไม่ต้องเข้าเมืองหลวงหรือตัวจังหวัดใหญ่ เพราะเรียนในระบบออนไลน์จากพื้นที่ตัวเองก็ประหยัดและได้ความรู้เช่นกัน ตรงนี้ท้าทายผมและอยากให้มันเกิดขึ้นจริง แต่คนที่ทำเรื่องนี้ต้องทำจริงและทำเป็น”


          “ภารกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ ด้วยระบบ "แชริ่ง อีโคโนมี” ที่จะสร้างรายได้จากคนในพื้นที่ เช่น แกร็บ แท็กซี่ รู้หรือไม่ วันหนึ่งๆ เราใช้รถกันวันละสี่ชั่วโมง เวลาที่เหลือจอด แต่มีค่าใช้จ่าย หากในต่างจังหวัดมีการอนุญาตให้คนในพื้นที่ลงทะเบียนเป็นแกร็บแท็กซี่ได้ รายได้ของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นไหม


          รวมทั้งการท่องเที่ยวด้วย จังหวัดเมืองรอง หากโรงแรมไม่พอ จะทำอย่างไร ทั้งๆ ที่รัฐมีนโยบายส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง มันต้องสร้างโรงแรมเท่านั้นหรือที่ถูกกฎหมาย ที่พักของชาวบ้าน หากขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นที่พักของนักท่องเที่ยวได้ และตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเทรนด์นี้มากเพราะเข้าถึงวิถีชีวิตของสังคมในชาตินั้นๆจริงๆ”


          “หากมันทำได้โดยปลดล็อกกฎหมายเหล่านี้ จะสร้างงานในพื้นที่ เยาวชนที่กำลังโตและผู้สูงวัยที่กำลังเพิ่มขึ้นในสิบปีข้างหน้า(สังคมสูงวัย)ก็จะอยู่ด้วยกัน ปัญหาสังคมจะลดลงด้วย คนรุ่นใหม่ไม่ต้องมาเรียนในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ ความรู้อยู่ในพื้นที่ของพวกเขา เมื่อเรียนจบ อาชีพในท้องถิ่นก็มีรองรับ รายได้ก็เข้ามาในพื้นที่ และพวกเขายังดูแลพ่อแม่ที่เข้าสู่สังคมสูงวัยด้วย"


          ลองติดตามว่าความฝันของ ดร.มาร์ช และพรรคสีน้ำเงินนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่...

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ