คอลัมนิสต์

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า "เอ็กซ์"แต่ "แม่" คุกตลอดชีวิต : รายงาน  โดย...  เกศิณี แตงเขียว


          ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 เกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อ “เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักยิงปืนทีมชาติไทย และดาราหนุ่ม ถูกยิงจนเสียชีวิต แต่เรื่องราวยิ่งสะเทือนใจเมื่อตำรวจสืบทราบว่าคดีนี้เป็นคดีความรุนแรงในครอบครัว และตั้งข้อสงสัยว่าผู้ก่อเหตุจ้างวานคือ “หมอนิ่ม” พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของ “เจ้าเอ็กซ์” นั่นเอง 

          มีการระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาครอบครัว เรื่องยิ่งซับซ้อนและน่าสลดเข้าไปอีกเมื่อผู้ที่เข้ามาพัวพันกับคดีนี้คือ “น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา”  มารดาของ “หมอนิ่ม” นั่นเอง

          คดีนี้มีผู้ฟ้องคดีคือ พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นโจทก์ และนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดาของ “เอ็กซ์" เป็นโจทก์ร่วม และมีจำเลย 5 คนคือ นายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นมือปืน, น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 75 ปี มารดาของหมอนิ่ม, พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 41 ปี อดีตภรรยาของเอ็กซ์, นายสันติ หรืออี๊ด ทองเสม อายุ 31 ปี อาชีพทนายความ และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริมให้ฆ่า, มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ

 

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก

 

          โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 “ให้ประหารชีวิตสถานเดียว“ กับ ”หมอนิ่ม” จำเลยที่ 3 และนายสันติ หรือ ทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 ซึ่งระหว่างอุทธรณ์คดีทั้งสอง ได้ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท

          ส่วนมือปืน จำเลยที่ 1 และคนขี่จักรยานยนต์ จำเลยที่ 5 ให้จำคุกตลอดชีวิต โดยทั้งสองถูกคุมขังนับตั้งแต่ฟ้องคดีจนถึงระหว่างอุทธรณ์คดี ส่วน น.ส.สุรางค์ นั้นให้ยกฟ้อง

          ต่อมาอัยการโจทก์ และนายมานพ บิดาของผู้ตายที่เป็นโจทก์ร่วม และจำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ยื่นอุทธรณ์ และมีการพิจารณาเรื่อยมา รวมถึงมีการขอเลื่อนฟังคำพิพากษามาหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งที่เป็นคำขอที่แสนสะเทือนใจ เมื่อ “หมอนิ่ม” ยื่นต่อศาลว่า ในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งศาลจะนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ติดภารกิจร่วมกิจกรรมประชุมครู-ผู้ปกครองที่โรงเรียนของบุตรชายคนเล็ก จึง “ขอโอกาสทำหน้าที่แม่อีกสักวัน”
          อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็มาถึง โดย “หมอนิ่ม” และ “น.ส.สุรางค์”  เดินทางมาพร้อมฟังคำพิพากษา กับนายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความและทีมทนาย ส่วนทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 ไม่มาศาล ซึ่งนัดฟังคำพิพากษารอบที่ 2 เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ศาลได้ออกหมายจับให้ตามตัวมาฟังคำตัดสินและริบเงินสดประกันตัว 1 ล้านบาทไว้แล้ว

 

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก

 

          ขณะที่วันนี้ นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาของผู้ตาย ในฐานะผู้ร้องขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ก็เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย

          ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ที่มีความยาวกว่า 60 หน้า กว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 12.30 น. 

          โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว พยานหลักฐานที่นำสืบมาประกอบคำให้การรับสารภาพของ “น.ส.สุรางค์” ที่ได้กระทำโดยเปิดเผยในสถานที่ราชการต่อหน้าพนักงานสอบสวน และประธานสภาทนายความประจำจังหวัดมีนบุรี ที่ตำรวจประสานให้ร่วมฟังการสอบสวน รวมทั้งมีสื่อมวลชนและนางปวีณา หงสกุล อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จำเลยที่ 2-3 ให้ความเคารพไว้วางใจตั้งแต่เหตุการณ์ที่ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาครอบครัว จึงเชื่อได้ว่า น.ส.สุรางค์ ไม่ได้ถูกชักจูงใจแต่อย่างใด

          โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า “น.ส.สุรางค์” เป็นผู้จ้างวานให้คนกลางซึ่งตำรวจและอัยการกันไว้เป็นพยาน ติดต่อกับทนายอี๊ด สันติ ทองเสม จำเลยที่ 4 โดยได้รับมอบเงิน 2 ครั้ง ครั้งแรก 6 แสนบาท และมีการร้องขอเพิ่มอีก 6 แสนบาท ซึ่งก็ได้ตกลงให้ แล้ว “ทนายอี๊ด” จึงได้จ้างจำเลยที่ 1 ที่เป็นมือปืน และจำเลยที่ 5 ที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ นำปืนที่ตนเองเตรียมไว้ไปฆ่าผู้ตายวันเกิดเหตุ 19 ตุลาคม 2556

 

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก  

 

          โดยจำเลยที่ 1 และ 5 ระบุว่า ได้เงินค่าจ้างคนละ 2 แสนบาท เนื่องจาก “น.ส.สุรางค์” ยังโกรธแค้นที่ผู้ตายทำร้ายร่างกายหมอนิ่ม ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน และเชื่อว่า ผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้ “น.ส.สุรางค์” จึงมีความผิดฐานใช้จ้างวานให้ฆ่า “เอ็กซ์"  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)

          ส่วนที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นควรพิพากษากลับเป็นให้ประหารชีวิต 

          อย่างไรก็ตาม คำให้การของ น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต

          ส่วน “หมอนิ่ม” จำเลยที่ 3 ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามทางนำสืบและคำเบิกความพยานต่างๆ ในศาลชั้นต้น รับฟังได้ว่า “จำเลยที่ 3 ยังมีความรักใคร่กับผู้ตายอยู่ โดยก่อนเกิดเหตุคดีนี้เดือนสิงหาคม 2556 จำเลยที่ 3 ยังเคยพาบุตรสาวไปเยี่ยมผู้ตายที่เรือนจำทหารระหว่างถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกายจำเลย และไม่คัดค้านการประกันตัวผู้ตายของศาลทหารด้วย รวมทั้งยังเคยนั่งรถไปกับผู้ตายช่วงก่อนเกิดเหตุ อีกทั้งช่วงหลังที่ผู้ตายออกมาก็ไม่มีเหตุทำร้ายจำเลยจึงไม่มีเหตุจูงใจ เชื่อว่าจำเลยยังมีความรักกับผู้ตายอยู่ พยานหลักฐานแวดล้อมยังฟังไม่ได้ว่าเป็นคนจ้างวาน”

 

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก

 

          ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาในส่วนของหมอนิ่ม จำเลยที่ 3 นั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย โดยพยานหลักฐานมีข้อสงสัยตามสมควรว่าร่วมจ้างหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 พิพากษาให้ยกฟ้อง โดยศาลไม่สั่งขังจำเลยระหว่างฎีกาด้วยแต่อย่างใด

          ส่วนมือปืน และคนขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนไปยิง ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิต

          สำหรับ “ทนายอี๊ด” ศาลยืนลงโทษประหารชีวิตสถานเดียวตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

          โดยจำเลยที่ 1, 4 และ 5 ที่ศาลพิพากษายืนลงโทษเนื่องจากเชื่อว่าร่วมทำผิดในการติดต่อจ้างวาน โดยจำเลยที่ 1, 5 เป็นคนร้ายร่วมก่อเหตุนั้น แม้ไม่มีประจักษ์เห็นการจ้างวาน แต่มีข้อมูลบันทึกการใช้โทรศัพท์ติดต่อเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งช่วงก่อน-หลังเกิดเหตุ รวมทั้งข้อมูลการเคลื่อนที่สัญญาณโทรศัพท์ตามเส้นทางเกิดเหตุที่มีการเฝ้าติดตามผู้ตาย อีกทั้งวงจรปิดตามสถานที่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยจำเลยที่ 1, 5 ก็รับว่าบุคคลในภาพเป็นตน ซึ่งการแถลงข่าวหลังสอบสวนจำเลยทั้งสองไม่มีท่าทีว่าถูกบังคับ ดังนั้นที่ภายหลังอ้างว่าจำเลยที่ 1, 4, 5 โอนเงินให้กันเพราะติดหนี้ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ เท่านั้น

 

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก

 

          นอกจากนี้ ยังให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 ร่วมกันชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาท ให้แก่บิดามารดาของผู้ตายด้วย

          ส่วน “ทนายอี๊ด” นั้นไม่มาฟังคำพิพากษาและก็ไม่มีทนายมาศาลแจ้งเหตุขัดข้อง เชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนีคดี โดยวันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยที่ 4 แล้ว และเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนลงโทษจำเลย ศาลมีนบุรีจึงให้ออกหมายจับทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 เพื่อติดตามตัวมารับโทษต่อไป ซึ่งมีอายุความในการติดตามตัวภายใน 20 ปี

          ระหว่างฟังคำพิพากษา หมอนิ่มมีอาการเสียใจ และเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้มือปาดน้ำตาและใช้กระดาษทิชชู่คอยซับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตลอดเวลา

          ขณะที่ “น.ส.สุรางค์” มารดาของ “หมอนิ่ม”  ปัจจุบันอายุ 75 ปี ก็ยืนฟังคำพิพากษากว่า 2 ชั่วโมงด้วยสีหน้าเรียบเฉยข้างๆ บุตรสาวและญาติคนใกล้ชิด

 

"หมอนิ่ม"ทั้งดีใจและเสียใจพลิกรอดคดีฆ่า"เอ็กซ์"แต่"แม่"คุก

 

          อย่างไรก็ดี ทนายความได้นำหลักทรัพย์เป็นเงินสดและหลักทรัพย์อื่น รวมประมาณ 1 ล้านบาท ยื่นขอประกันตัว น.ส.สุรางค์ เพื่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกา ที่สุด ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว “น.ส.สุรางค์” โดยศาลตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

          “ชำนาญ ชาดิษฐ์” ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องหมอนิ่ม โดยสรุปได้ใจความว่าจะกลับมาคืนดีกัน ไม่ได้ถึงขนาดที่ต้องเลิกกันและยังมีความสงสัยในบางเรื่องบางประเด็นอยู่เกี่ยวกับความรักความผูกพัน และมองว่าถ้าจ้างวานไม่น่าต้องเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องนั่งรถด้วยกัน 

          “วันนี้หมอนิ่มก็มีทั้งดีใจที่ศาลยกฟ้องและก็ยังเสียใจที่มีคำพิพากษาลงโทษแม่” ทนายชำนาญระบุ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ