ข่าว

นายกฯนำครม.พร้อมภริยาถวายพระพรวันฉัตรมงคล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 5 พ.ค.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ทูตานุทูต ข้าราชการ เข้าร่วมงานสโมสรสันนิบาตเนื่องในวันฉัตรมงคลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่

 นายกรัฐมนตรีได้เดินขึ้นบนเวทีถวายคำนับพระบรมสาทิสลักษณ์ฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้แล้วจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและถวายคำนับอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินลงจากเวทีกลับไปยังแท่นเพื่อกล่าวถวายราชสดุดีและถวายพระพรชัยมงคลว่า

 ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

 ข้าพระพุทธเจ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คู่สมรส คณะทูตานุทูต ข้าราชการ และพสกนิกร ชาวไทยทุกหมู่เหล่า ล้วนมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกัน แสดงความจงรักภักดี ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสอันเป็นอภิลักขิตมหามงคลวันฉัตร มงคล ที่เวียนมาบรรจบ ครบรอบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 พฤษภาคม ศกนี้

 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 อันเป็นวันที่ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงรับพระบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์ที่ 9 แห่งพระราชวงศ์จักรี ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้พระราชทาน พระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุข แห่งมหาชนชาวสยาม ” ซึ่งตลอดระยะเวลาอันยาวนาน นับแต่บัดนั้นจนถึง ปัจจุบัน ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาทได้ทรงแสดงให้เป็นที่ประจักษ์แจ้ง แก่มวลพสกนิกรว่า ได้ทรงยึดมั่นในพระราชปณิธานดังกล่าวอย่าง มั่นคงแน่วแน่

 ใต้ฝ่าละออง ธุลีพระบาทได้ทรงครอง แผ่นดินโดยยึดหลักทศพิธราชธรรม ทรงพระกรุณาพระราชทานความรัก ความห่วงใย และความเอื้ออาทรแก่พสกนิกรทุกหย่อมหญ้า ทรงแสดงให้เห็นว่าความผาสุกของราษฎรคือความสุขของพระองค์ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรง พระวิริยอุตสาหะปฏิบัติ บำเพ็ญพระราชกรณีย กิจน้อยใหญ่นานัปการ ด้วยพระราชปณิธานที่จะพัฒนาประเทศ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ดีขึ้น ทรงแก้ไขปัญหาทุกด้านของอาณาประชาราษฎร์ ด้วยน้ำพระ ราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาและพระกรุณา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงทรงเป็นประดุจดวงประทีปส่องทางสว่างแก่ชีวิตของพสกนิกรทั้งปวง ทรงจรรโลงชีวิตราษฎรให้มีความผาสุก และเป็นพลังในการพัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองตลอดมา

 ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้พระราชทานพระบรมราโชวาทให้คนไทย “รู้รักสามัคคี” ยึดถือวิถีชีวิตพอเพียง มีความเพียรและความเสียสละ บำเพ็ญประโยชน์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นการปิดทองหลังพระได้อย่างมีความสุขใจ พระราชกรณียกิจน้อย ใหญ่ นานัปการ ล้วนก่อให้เกิดหิตานุหิตประโยชน์ เอื้ออำนวยคุณูปการ แก่ราษฎร และบ้านเมือง พระเกียรติคุณจึงปรากฏเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญ ทั้งใน ประเทศและในนานาประเทศทั่วโลก

 ปวง ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพสกนิกรล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ และประจักษ์แจ้งใน พระเมตตาคุณ เทิดทูนใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมตลอดมา ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอตั้งสัตย์ปฏิญาณว่า จะยึดมั่นในแนวทางแห่งความสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความเสียสละ ความเพียร และความพอเพียง เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบสุข และ จะยึดมั่นประพฤติปฏิบัติตนสร้างสรรค์ความดีงาม นำความก้าวหน้ารุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติ เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาททุกวิถีทางตลอดไป

 ณ ศุภวารดิถีอันเป็นมิ่งมงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอตั้งจิตพร้อมน้อม อธิษฐาน ขออานุภาพ แห่งคุณพระ ศรีรัตนตรัย และอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระสุขภาพพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์ สถิตเสถียร สถาพรจำรูญในไอศวรรย์สิริราชสมบัติ เป็นฉัตรแก้วคุ้มเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้าตราบกาลนิรันดร์

 ในโอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำผู้มีเกียรติที่มาร่วมในงานสโมสรสันนิบาตนี้ ดื่มถวายพระพรชัยมงคล เพื่อความสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณว่า

 ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

 เนื่องในศุภมงคลสมัยแห่งการบรมราชาภิเษกของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทย่างเข้าสู่ปีที่ 60 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2552 ข้าพระพุทธเจ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในนามพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ล้วนมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่าง ๆ นานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์มาโดยต่อเนื่องกว่า 6 ทศวรรษจวบจนถึงปัจจุบัน

 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในท้องถิ่นห่างไกลและทุรกันดาร ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงตรากตรำพระวรกายมาโดยตลอดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยให้ดีขึ้นและเป็นไปอย่างยั่งยืนภายใต้ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขอาณาประชาราษฎร์ด้วยพระปรีชาสามารถและพระราชจริยวัตรที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตากรุณาสุดที่จะพรรณนา นับเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งและแซ่ซ้องสรรเสริญในหมู่ชาวไทยและนานาประเทศอย่างกว้างขวาง

 ณ ศุภวาระอันเป็นมหามิ่งมงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมพสกนิกรชาวไทยทั่วผืนแผ่นดินไทย ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน้อมเกล้าฯ กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณดังนี้

 ข้าพระพุทธเจ้าจักปฏิบัติภารกิจโดยยึดมั่นในความกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อชาติ ซึ่งหมายถึงแผ่นดินไทยอันเป็นถิ่นกำเนิดที่อาศัยอันผาสุกร่มเย็น ซึ่งบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ตลอดจนบรรดาบรรพบุรุษของชนเผ่าไทยได้เสียสละเลือดเนื้อพลีชีพเพื่อพิทักษ์ผืนแผ่นดินไทยนี้ให้พวกเราชาวไทยทุกคนได้ดำรงชีพสืบทอดกันมาร่วมหนึ่งพันปีแล้ว

 ข้าพระพุทธเจ้า จัดปฏิบัติภารกิจโดยยึดมั่นและปฏิบัติตนตามหลักคำสอนของศาสนา ประกอบกิจและยึดมั่นอยู่ในความดีทั้งกาย วาจาและใจ

 ข้าพระพุทธเจ้า จักปฏิบัติภารกิจโดยยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน และความสงบร่มเย็นของชาวไทยเป็นสิ่งสำคัญด้วยความเข้มแข็ง อดทน และเสียสละ เพื่อยังประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์อย่างเต็มความสามารถ ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิบไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น พระประมุข ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจร่มโพธิ์ทอง ร่มโพธิ์แก้ว เพื่อปกเกล้าฯ ปวงประชาตราบนานเท่านาน

 เนื่องในวโรกาสวันมหามงคลแห่งบรมราชาภิเษกเข้าสู่ปีที่ 60 ในวันที่ 5 พฤษภาคม ศกหน้าปี พ.ศ. 2533 นั้น ข้าพระพุทธเจ้าในนามพสกนิกรชาวไทยทุกคน ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลตลอดจนพระบารมีแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลรักษาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงพระเจริญพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงพระชนมพรรษา ยิ่งยืนนาน พระบารมี แผ่ไพศาลทั่วทิศานุทิศ สถิตเป็นฉัตรแก้วร่มเกล้าเหล่าปวงข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทยทุกคนตลอดกาลนาน

 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา 2 จบและเพลงสรรเสริญพระบารมี 1 จบเป็นอันเสร็จพิธี

ปชช.ใส่เสื้อหลากสีร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ

บรรยากาศพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่รัฐบาลและหน่วยงานรัฐร่วมกันจัดขึ้น โดยมีการจัดเวทีการแสดงทั้งสิ้น 9 เวที ตลอดถนนราชดำเนิน ตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้าถึงท้องสนามหลวง ได้มีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของเวทีใหญ่ ปรากฏว่ามีประชาชนเต็มพื้นที่

 เมื่อเวลา 17.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองนายกฯ นายชวรัตน์ ชาญ
วีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายบุญจง วงษ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย พล.อ.ประยุทธ จันโอชา
เสนาธิการทหารบก เดินทางมาถึงที่บริเวณเวทีใหญ่เพื่อาตรวจความพร้อม ก่อนพิธีจะเริ่มขึ้น โดยนายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า
พอใจกับภาพรวมในการจัดงานครั้งนี้ ที่ประชาชนให้ความร่วมมือมาแสดงความจงรักภักดีใส่เสื้อหลากสีมาร่วมงาน เพราะถือเป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าประชาชนจะมาร่วมพิธีจำนวนหลายแสนคน

 ต่อมาเวลา 18.15 น. นายชวรัตน์ ประธานอำนวยการจัดงานได้ขึ้นทำพิธีเปิดงานที่เวทีใหญ่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อประเทศมีปัญหา เผชิญวิกฤตพระมหากษัตริย์จะเป็นที่พึ่งและเป็นศูนย์รวมของคนไทย ทำให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้และครั้งนี้หวังว่าประเทศไทยจะกลับคืนสู่ความสงบสมานฉันท์เหมือนในอดีตอีกครั้ง โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวม

 จากนั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศได้ขึ้นถวายพานพุ่มสักการะ ขณะที่เวทีตามจุดต่างๆ ได้มีการแสดงให้ความบันเทิงกับประชาชนที่มาร่วมงาน และในเวลา 19.30 น.ได้จุดเทียนชัยถวายพระพรร่วมกัน

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ