ข่าว

ตกขบวนฉีด "ไฟเซอร์" "บุคลากรด่านหน้า" พ้อร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ถามจุกอก "ทำไมทอดทิ้งเรา"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บุคลากรด่านหน้า" สุดอัดอั้นโพสต์ระบาย ตกขบวนฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" พ้อร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ทิ้งคำพูดจุกอก "เราทำอะไรผิด ทำไมถึงทอดทิ้งเรา"

โลกโซเชียลวันนี้(31 ก.ค. 2564) มีการแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กของบุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่ง ที่เจ้าตัวได้ระบายถึงการจัดสรรวัคซีน "ไฟเซอร์" (Pfizer) ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีการกำหนดเกณฑ์ในการฉีดไว้หลายข้อ ซึ่งเธอนั้นไม่เข้าเกณฑ์จึงทำให้ไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 

 

 

โดยบุคลากรทางการแพทย์ได้ระบุข้อความว่า ตัวเราเองคือหนึ่งคนที่ถูกตัดสิทธิรับ "ไฟเซอร์" (Pfizer) ในครั้งนี้ ถ้าทุกคนจำกันได้ เราแอทมิทหลังฉีด Sinovac dose แรก ตอนนั้นเราไม่อยากพูดอะไรเยอะ ไม่อยากทำให้ทุกคนกลัวการฉีดวัคซีน แต่วันนี้เราคิดว่าเราจำเป็นต้องพูดจริง ๆ 

 

ตอนนั้นเราแอทมิทด้วยอาการ TIA (สมองขาดเลือดชั่วคราว) อาการตอนนั้นคือชาครึ่งซีก เป็นประสบการณ์ที่ไม่สนุกเลยสักนิด เพราะไม่มีใครรู้เลยว่า TIA จะกลายเป็น Stroke หรือเปล่า (Stroke คือสมองขาดเลือด หรือที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตครึ่งซีกนั่นแหละ) เพราะโดยส่วนมาก Stroke จะมีโอกาสเกิดได้มากภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิด TIA เราจึงจำเป็นต้องแอทมิทดูอาการ 

 

คิดดูว่าคนอายุน้อย ไม่มีโรคประจำตัว ต้องมาเจอผลข้างเคียงขนาดนี้ ตอนที่แอทมิทเครียดแบบไม่นอนเลย เช็คตัวเองตลอดว่าชามั้ย อ่อนแรงมั้ย เรายอมรับเลยว่าเรากลัวมาก และแน่นอน เราปฏิเสธรับวัคซีน Sinovac เข็มที่ 2 

 

ทำไมไม่ฉีด แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เพราะผู้หญิงอายุน้อย มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ ซึ่งลิ่มเลือดมันก็อุดได้ทุกที่ตั้งแต่สมอง ปอด ซึ่งถ้าเกิดขึ้นมาไม่ตายก็พิการ เราเลยขอผ่านแอสตร้าเซนเนก้าไป ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราเลือกเอง เรารับความเสี่ยงจากการตัดสินใจนี้เอง 

 

แต่เราก็ไม่ได้งอมืองอเท้ารอวัคซีน ถ้าถามว่าเราทำอะไรบ้าง เราทำไปเยอะ เสียน้ำตาไปก็เยอะ พอได้ยินว่าเทศบาลเมืองจังหวัดที่เราอยู่จะเอา ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) เข้ามาฉีดให้คนในพื้นที่เราก็ติดต่อไป สิ่งที่เราได้คำตอบกลับมาคือ "ทะเบียนบ้านอยู่ที่ไหน" "ไม่มีภูมิลำเนาที่นี่จะขอฉีดไม่ได้นะ" ใช่เรามันเป็นแค่คนกรุงเทพที่ระเห็ดระเหออกมาทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนดูแลคนไข้ที่นี่มาปีกว่า คงไม่มีค่ามากพอจะให้เค้าต้องมาใส่ใจ 

 

เอกชนเปิดจอง โมเดอร์นา (Moderna) เราก็ไปจอง จองทุกที่ที่จองได้ จ่ายเงินมัดจำทุกที่ไปแล้วด้วยความยินดี แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว่าจะได้วัคซีนไหมและจะได้เมื่อไหร่ 

 

สถานการณ์ในจังหวัดระหว่างนั้นก็แย่ลงทุกวัน รพช. เราเริ่มต้องรับผู้ป่วยเคสเหลืองที่กลับมาจาก กทม. หวังจะกลับมาพึ่งบ้านเกิดตัวเองในการรักษา มีการตั้ง รพ.สนาม ตั้งหอผู้ป่วยโควิด ซึ่งทั้ง รพ.สนามและหอผู้ป่วยก็เต็มในเวลาไม่กี่สัปดาห์ รวมทั้งยังมีคนไข้มากมายรอเตียงอยู่ข้างนอก และแน่นอนว่าเราก็คือแพทย์คนนึงที่ต้องดู แลคนไข้เหล่านี้ 

 

 

พอได้ยินข่าวว่าจะมี ไฟเซอร์ (Pfizer) เข้ามาในช่วงเวลาที่ทุกอย่างกำลังย่ำแย่ สำหรับเราเราดีใจมาก เราตั้งตารอ เราหวังว่านี่จะเป็นวัคซีนที่ช่วยปกป้องเราให้ทำงานต่อไปได้อย่างปลอดภัย แต่สิ่งที่เราได้รับคือการตัดชื่อเราออกด้วยเหตุผลว่าเราฉีดซิโนแวค (Sinovac) ไปแค่เข็มเดียว 

 

เราผิดหวังมาก ถึงหลายคนจะคิดว่าเราดูโอเค เราต่อสู้ไปทวงวัคซีนให้ตัวเอง แต่ต้องยอมรับเลยว่าเราร้องไห้แทบทุกวัน ร้องจนไม่มีน้ำตาไห้ร้องแล้ว ร้องไปก็ยังต้องตรวจคนไข้โควิด เรามีแต่คำถามที่ไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรผิด ทำไมถึงทอดทิ้งเราแบบนี้ ทำไมเราถึงไม่สมควรได้วัคซีนรอบนี้ 

 

นี่คือแค่ 1 เสียงที่อยากจะบอกเล่า แต่ยังมีบุคลากรอีกหลายคนที่ถูกตัดสิทธิในลักษณะคล้ายกับเรา เราเชื่อว่าสิทธิในการเลือกรับวัคซีนเป็นสิทธิของทุกคน ไม่ใช่แค่บุคลากรทางการแพทย์แต่คือประชาชนทุกคนด้วย หน้าที่ของรัฐคือการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ และเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาให้กับประชาชน 

 

เราอยากจะบอกว่า ไฟเซอร์ (Pfizer) รอบนี้มันไม่ใช่แค่วัคซีนที่ดี แต่มันคือขวัญกำลังใจ คือความปลอดภัยต่อชีวิตของบุคลากร และเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบุคลากรด่านหน้าทุกคนในการเลือกรับวัคซีนในครั้งนี้ 

 

คนไข้โควิดเพิ่มขึ้นทุกวัน โรคมันไม่ได้รอเรา เราเองก็ไม่เคยรอที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลคนไข้ แต่ทำไมกับวัคซีนเพื่อความปลอดภัยของบุคลากร เราถึงต้องรอ? 

 

ตกขบวนฉีด "ไฟเซอร์" "บุคลากรด่านหน้า" พ้อร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ถามจุกอก "ทำไมทอดทิ้งเรา"

 

ตกขบวนฉีด "ไฟเซอร์" "บุคลากรด่านหน้า" พ้อร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ถามจุกอก "ทำไมทอดทิ้งเรา"

 

ตกขบวนฉีด "ไฟเซอร์" "บุคลากรด่านหน้า" พ้อร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ถามจุกอก "ทำไมทอดทิ้งเรา"

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ