ปรับ "โบกี้รถไฟ" เป็น "ศูนย์พักคอย"

27 ก.ค. 2564 พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  พร้อมด้วยท นายนิรุตต์ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  สำนักการแพทย์ สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่โรงซ่อมตู้รถไฟ ย่านสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเตรียมปรับเป็นศูนย์พักคอย รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียว  ระหว่างรอเตียงเข้ารักษาในโรงพยาบาลต่อไป

 

 

 

 

โดยจะปรับโบกี้รถไฟ จำนวน 15 โบกี้ รองรับได้จำนวน 240 คน  โดยจะใช้พื้นที่เฉพาะที่นั่งด้านล่าง เป็นที่นอน  หลังจากนี้จะเร่งติดตั้งมุ้งลวด เพิ่มระบบน้ำ ไฟ ทำห้องน้ำเพิ่ม คาดว่า จะเปิดบริการได้เร็วที่สุดภายในวันศุกร์ ที่ 30 ก.ค.นี้ เเละ จะสำรวจหาพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมทำเป็นที่พักคอยให้เพียงพอกับจำนวนผู้ที่เชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น 17 % 

 

 

 

 

 

พล.ต.อ.อัศวิน ยังกล่าวถึงกรณี ภาพรวมการฉีดวัคซีนเข็มแรก ในพื้นที่กรุงเทพฯ วัคซีนเเล้ว 60 % คาดว่าสิ้นเดือนนี้จะเร่งฉีดให้ครบ 70 % สำหรับประชากรในกรุงเทพมหานคร และประชากรแฝง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่  หากประชาชนสมัครใจ ก็จะดำเนินการฉีดให้ครบ 100 % จากจำนวนประชากร 9 ล้านคน รวมทั้งประชากรเเฝง 2 ล้านคน ที่ผ่านมาทยอยเดินทางกลับบ้านช่วงล็อคดาวน์  สำหรับกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เหลือเพียง กว่า 1 เเสนคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 

 

 

ส่วนกระแสข่าวเรื่องการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ นั้น พล.ต.อ. อัศวิน  ยืนยันว่า จะไม่มีการยุบ เพราะที่สถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ยืนยันให้ฉีดต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งตนมองว่าหากยุบจุดฉีดวัคซีน ที่สถานีกลางบางซื่อ ให้ประชาชนกระจายไปฉีดตามจุดฉีดวัคซีนของ กทม. ทั้ง 25 จุด จะทำให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะ ศูนย์ฉีดวัคซีนของกทม. ขณะนี้ฉีดวัคซีนได้วันละกว่า 3 หมื่นคน ส่วนใหญ่ผู้ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ  80% เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด