เพจดัง "Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ" เปิดวงถก 3 เจ้าของธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ดังที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง"ล็อกดาวน์ห้าง" ไม่สามารถขายอาหารเดลิเวอรี่ได้ต้องปรับตัวอย่างไร พร้อมวอนภาครัฐฟังเสียงผู้ประกอบการบ้าง
จากการประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. เป็นต้นไป โดยมีผลบังคับใช้กับ 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย กรุงเทพฯ , นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ,สมุทรสาคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี , พระนครศรีอยุธยา ,สงขลา,ปัตตานี,ยะลา และ นราธิวาส
และ 1 ในการยกระดับมาตรการ "ล็อกดาวน์ห้าง" ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดได้ถึง 20.00 น. และให้เปิดได้เฉพาะแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งนั่นหมายความว่า ร้านอาหารที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ต้องปิดทั้งหมด ไม่สามารถทำได้แม้แต่เปิดขายแบบเดลิเวอรี่ ส่งผลเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่มีสาขาเปิดอยู่ภายในห้างต่างต้องทางให้ธุรกิจของตนเองสามารถดำเนินต่อไปได้
และแนวทางหนึ่งที่เริ่มเห็นมีความเคลื่อนไหวกันแล้ว นั่นคือการมองหาพื้นที่ว่างในการเช่าเพื่อเปิดครัวนอกสถานที่ขายอาหาร หรือเปิดร้านอาหารในลักษณะของการทำ ฟู้ดทรัค (Food Truck) โดยการใช้รถดัดแปลงเป็นร้านอาหารเคลื่อนที่ ไปตามจุดชุมชนต่าง ๆ เช่น เพจเฟซบุ๊ก "Potato Corner Thailand" ประกาศ ต้องการหาพื้นที่เช่า
We Chef ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและพื้นที่จอดรถขายอาหาร ชักชวนให้ร้านอาหารปรับรูปแบบมาเป็นฟู้ทรัค
ด้าน "ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี" เจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด - 19 ด้วยเช่นกัน และ กิตติเดช วิมลรัตน์ เจ้าของเพจ iTAN แทนไร้เทียมทาน ที่หลายคนรู้จักเขาในฐานะนักชิม ร่วมวงสนทนา ในช่วงคู่หูสู่โควิด ได้ชักชวนให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง มาเปิดวงสนทนาผ่านการไลฟ์ ทางเพจ "Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ" โดย 3 เจ้าของธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง "ล็อกดาวน์ห้าง" ในครั้งนี้ ประกอบด้วย "อัจรา บุรารักษ์" ผู้บริหารร้านอาหารในเครือ Iberry Group ซึ่งธุรกิจร้านอาหาร จาก 60 สาขา สามารถเปิดได้ เพียง 5 สาขา , สุรเวช เตลาน เจ้าของธุรกิจ ชาบู Mo-Mo-Paradise 20 กว่า สาขา และ ร้านอาหารเกาหลี ต้องปิดร้านอาหารทุกสาขา และ ปอ กุลวัชร ภูริชยวโรดม เจ้าของร้านอาหาร ญี่ปุ่น โชวนัน ถูกปิดร้านอาหารทุกสาขาเช่นเดียวกัน
โดยเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ต่างงัดกลยุทธ์มาปรับเพื่อให้สามารถทำอาหารออกมาขายเดลิเวอรี่ได้นั้น ต้องการรัฐบาลได้ฟังเสียงของผู้ประกอบการบ้างเพื่อประกอบการพิจารณาในการออกมาตรการใด ๆ โดยเสนอข้อพิจารณาดังนี้
- ร้านอาหาร ที่อยู่ใน คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ไม่ได้มีการแอร์ ร่วมกับส่วนกลาง หรือ เป็นร้านอาหารทประเภทที่เป็นลักษณะนอกอาคาร รวมถึงร้านอาหารที่แยกเป็นสัดส่วน ที่สามารถเข้าถึงการรับอาหารได้ง่าย ขอให้อนุญาตเปิดใช้ครัวประกอบอหารเพื่อขายแบบเดลิเวอรี่ได้
- ขอให้เจ้าของอาคารสถานที่ให้เช่า พิจารณาคิดค่าเช่าร้านอาหารตามขนาดพื้นที่ครัวเท่านั้น ในช่วงที่ไม่สามารถเปิดให้ลูกค้านั่งในร้านได้
- ขอให้จัดลำดับการฉีดวัคซีนโควิด -19 ให้กับกลุ่มเสี่ยงให้ครบก่อน โดยจัดลำดับดังนี้ กลุ่มคนขับและคนให้บริการรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด , กลุ่มคนส่งสินค้า ส่งอาหาร และพนักงานที่ให้บริการรับหรือส่งสินค้าทั้งหมด , กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร พนักงาน รวมถึงกิจการที่เกี่ยวข้องกับการขายอาหารและวัตถุดิบทั้งหมด , และ กลุ่มผู้ประกอบการและพนักงานร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท , ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งหมด รวมถึงอาชีพต่างๆ ที่ตัองมีการพบปะผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาชีพที่จำเป็นต้องติดต่อเพื่อการดำรงชีวิต ทั้งหมด
ขอบคุณเพจ "Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง