"ราชทัณฑ์" นำร่อง ฉีดวัคซีนผู้ต้องขัง"เรือนจำพิเศษมีนบุรี" ตั้งเป้าเข็มแรกครบภายในสัปดาห์นี้

22 พ.ค.2564  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ศาสตราจารย์ พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ พลเอก ประจักษ์ บุญจิตต์พิมล นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายปฏิบัติการ และนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจในโครงการฉีดวัคนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ให้แก่ผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งเป็นการนำร่องเรือนจำแห่งแรกของกรมราชทัณฑ์ โดยมีพันเอกปริวรรตน์ วิมลปรีชาพงศ์  ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี ให้การต้อนรับและนำตรวจการฉีตวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้แก่ผู้ต้องขัง

โครงการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ต้องขังครั้งนี้ เป็นการป้องกันเชิงรุกไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ภายในเรือนจำ โดยเรือนจำพิเศษมีนบุรีถือเป็นเรือนจำภายในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ต้องขัง จึงฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ต้องขังทั้งหมด 3,831 คน (ยอด ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2564) ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องให้ครบทุกคนภายในสัปดาห์นี้

โดยได้รับการสนับสนุนวัคชีนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ด้วยวัคซีน 2 ชนิด ได้แก่ ชิโนแวค ให้กับผู้ต้องขังกลุ่มอายุต่ำกว่า 60 ปี และแอสตร้าเชนเนก้า ให้กับผู้ต้องขังกลุ่มอายุสูงกว่า 60 ปี และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง  ในการนี้ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และโรงพยาบาลราชทัณฑ์สนับสนุนบุคลากรการแพทย์ ร่วมให้บริการฉีดวัคซีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า "ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ขอรับการสนับสนุนวัคนให้กับผู้ต้องขังทุกคน ทุกเรือนจำ ซึ่งมีอยู่ 143 แห่งทั่วประเทศ เช่นเดียวกับที่มีนโยบายให้ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างสังกัดกระทรวงยุติธรรมต้องได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด จึงจะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้อย่างทั่วถึง"