ข่าว

เช็กเลย จังหวัดไหนบ้าง "ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง" หลังโควิด-19 ระบาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เช็กเลย จังหวัดไหนบ้าง "ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง" หลังโควิด-19 ระบาด

จังหวัดสมุทรสาคร ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 - 3 มกราคม 2564

โดยกำหนดพื้นที่ควบคุมโรคดังนี้

1. ห้ามเข้าออกพื้นที่โดยเด็ดขาด (ตลาดกลางกุ้ง - หอพักศรีเมือง)

2. ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ถึง 3 มกราคม 2564) สนามกีฬา สนามมวย สถานศึกษาทุกประเภท สถาบันกวดวิชา โรงเรียนสอนกีฬา สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

3.ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม เปิดบริการได้เฉพาะซื้อกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น ยกเว้น โรงพยาบาล และ โรงแรม

4. ร้านสะดวกซื้อ ห้ามแออัด กำหนดเวลาปิด 22.00 - 05.00 น.

5. ตลาดนัด ตลาดสด ขายได้วันละ 6 ชั่วโมง

6. งดออกจากบ้าน ตั้งแต่เวลา 22.00 - 05.00 น.- ห้ามคนต่างด้าวเข้าหรือมาในเขตจังหวัดโดยสิ้นเชิง

7. คนไทยสามารถออกไปพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องการได้ แต่ให้แจ้ง จนท. ที่เกี่ยวข้อง แจ้งรายชื่อและจุดหมายปลายทาง

8. ตั้งด่านโดยรอบจังหวัด ตรวจบุคคลที่จะเข้าออกสมุทรสาคร

9. เลือกตั้ง อบจ. ในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) ไปใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ 08.00 - 17.00 น. จังหวัดมีความพร้อมด้านมาตรการสาธารณสุข พร้อมสวมหน้ากากอนามัยทุกคน
 

 

จังหวัดสมุทรสงคราม สั่งปิดสถานที่เสี่ยงบางพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 - 4 มกราคม 2564 

โดยกำหนดพื้นที่ควบคุมโรคดังนี้

1. ปิดสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน และสถาบันกวดวิชา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนผู้สูงอายุ ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ และอำเภอพระประแดงของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2564 และให้สถานศึกษาที่มีความเสี่ยง พิจารณาปิดโรงเรียนตามความเหมาะสมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

2. สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะให้นั่งรับประทานอาหารอย่างเดียว งดเต้น และให้ถือปฏิบัติตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กำหนด

3. ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชน หากประสงค์จัดงานต้องเสนอแผนควบคุมโรคต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรปราการ ตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(โควิด-19) กำหนด

4. จัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองโรค เพื่อสกัดกั้นการเดินทางเข้าออกและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และควบคุมคนไทยที่เดินทางเข้า-ออกจากจังหวัดสมุทรสาคร ตามความจำเป็น

5. ให้ใช้สวนสาธารณะเพื่อการออกกำลังกาย และให้ผู้รับผิดชอบสวนสาธารณะควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้กิจกรรมมิให้เกิดการรวมตัวแออัด

จังหวัดสมุทรปราการ ประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 4 มกราคม 2564 เช่น ปิดสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน และสถาบันกวดวิชา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนผู้สูงอายุ ใน อ.พระสมุทรเจดีย์ และ อ.พระประแดง เป็นการชั่วคราว, สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้นั่งรับประทานอาหารอย่างเดียว งดเต้น และให้ถือปฏิบัติตามมาตรการ ศบค. กำหนด, งดการจัดกิจกรรมปีใหม่ และการสวดมนต์ข้ามปี
 

6. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เชิงรุกในแรงงานต่างด้าว จำนวน 1,500 คน รวมถึงประชาชนที่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรสาคร

7. ขอความร่วมมือศาสนสถานทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ งดให้แรงงานต่างด้าว เข้ามาทำกิจกรรมภายในพื้นที่

8. ข้าราชการและบุคลากรของจังหวัดสมุทรปราการที่เดินทางไป-กลับจังหวัดสมุทรสาคร หรือมีที่พักอาศัยอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ทำงานที่บ้าน (work from home) ตั้งแต่วันที่22 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2564

9. สถานที่ราชการทุกหน่วยงาน ให้เจ้าหน้าที่ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกคน

10. ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด และร้านอาหาร ให้มีการคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย ลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ จัดให้มีจุดล้างมือหรือแอลกอฮอล์เจลและใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

11. การขนส่งสาธารณะให้ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ และผู้ประกอบการต้องจัดการทำความสะอาดยานพาหนะทุกวัน

12. ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการค้นหาและเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวในพื้นที่

13. จัดตั้งศูนย์ Call Center โรงพยาบาลสมุทรปราการ หมายเลข 02 701 8132 39 (๒๔ ชั่วโมง)

14. ห้ามการนำเสนอข่าวหรือทำการเผยแพร่ต่างๆ ซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อันเป็นเท็จหรืออาจจะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าว อันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในกรณีเช่นนี้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตักเตือน ให้ระงับหรือสั่งให้ดำเนินการแก้ข่าว หรือหากเป็นกรณีที่มีผลกระทบรุนแรงให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

15. ปิดสนามชนไก่ สนามคัดเลือกไก่ สนามกัดปลา เวทีมวย สนามซ้อมมวย ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ตและสนุกเกอร์

16. งดการจัดกิจกรรมปีใหม่ และการสวดมนต์ข้ามปี
17. ควรงด หรือชะลอการจัดกิจกรรม และพิธีการทางสังคม เช่น พิธีมงคลสมรส พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษยกเว้นพิธีศพ กิจกรรมหรืองานพิธีที่ทางราชการจัดขึ้น หรือเป็นไปตาม
หมายกำหนดการของทางราชการ ยังคงจัดได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ข้อ 18 ของประกาศฉบับนี้

18. กำหนดมาตรการป้องกันโรค ให้มีมาตรการป้องกันโรค ดังนี้

(1) ให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการจัดกิจกรรม และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน

(2) ให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง ผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า

(3) ให้บุคคลตาม (2) ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

(4) ให้บุคคลตาม (2) เว้นระยะนั่ง หรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย

(5) ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ มีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่
เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศมาตรการในการควบคุมป้องกันโควิด-19 โดยจำกัดการเดินทางของประชาชนใน 3 ตำบล (ต.ท่าตอน ต.มะลิกา และ ต.แม่อาย)

โดยกำหนดพื้นที่ควบคุมโรคดังนี้

1. จำกัดการเดินทางของประชาชนใน 3 ตำบล ของอำเภอแม่อาย ประกอบด้วย ตำบลแม่อาย ตำบลมะลิกา และตำบลท่าตอน โดยขอความร่วมมือประชาชนพักอยู่ในที่พักของตนเอง และสังเกตอาการตนเอง หากมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ให้แจ้งความจำเป็นต่อทีมโควิดหมู่บ้าน เพื่อแจ้งให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ออกใบรับรองสำหรับเดินทางออกนอกพื้นที่ไว้เป็นหลักฐาน

2. ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากทางเลือก การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล1-2 เมตร และหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่รวมคนจำนวนมาก

3. ให้สถานที่ทุกแห่งยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าใช้บริการอย่างจริงจัง ตามมาตรฐานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

4. ให้อำเภอแม่อายจัดตั้งจุดตรวจบริเวณเขตติดต่อระหว่างตำบลในพื้นที่ของ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่อาย ตำบลมะลิกา และตำบลท่าตอน

5. บูรณาการตรวจคัดกรองจากจังหวัด และอำเภอข้างเคียง เพื่อดำเนินการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงให้เสร็จภายใน 3 วัน

6. ปิดโรงเรียนในพื้นที่ 3 ตำบล เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-23 ธันวาคุม 2563 สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่มีภูมิลำเนาใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่อาย ตำบลมะลิกา ตำบลท่าตอน ที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนต่างพื้นที่ ให้หยุดเรียนโดยให้สถานศึกษาไม่นับเป็นวันลา สำหรับการปิดสถานศึกษาอื่น ๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่อาย เมื่อดำเนินการแล้วให้รายงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดเชียงใหม่ทราบทุกครั้ง

7. ห้ามเคลื่อนย้ายแรงานต่างด้าวเข้าและออกในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่อาย ตำบลมะลิกา และตำบลท่าตอน หากมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ให้แจ้งความจำเป็นต่อทีมโควิดหมู่บ้าน เพื่อแจ้งให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ออกใบรับรองสำหรับเดินทางออกนอกพื้นที่ไว้เป็นหลักฐาน


จังหวัดสุพรรณบุรี ออกประกาศมาตรการในการควบคุมป้องกันโควิด-19 ล็อกดาวน์ อ.สองพี่น้อง ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม - 3 ม.ค.2564 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ