"บิ๊กป้อม" ขันน็อต ก.ดิจิทัลฯ เร่งจัดการ Fake News-เว็บไซต์ผิดกฎหมาย พร้อมขับเคลื่อนกลไกความมั่นคงไซเบอร์ เร่งใช้ 5G บริการประชาชน
29 ต.ค.63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงาน ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ณ ห้องประชุม MDES1 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่กรุงเทพฯ โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ (ดีอีเอส) ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานซึ่งมีความก้าวหน้าในภาพรวม อย่างน่าพอใจ จาก ปลัดกระทรวงฯ อาทิ การดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย,การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์,การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในด้านเทคโนโลยี 5G,การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ,การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล,การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ(Smart City),การพัฒนาคลาวดูกลางภาครัฐ,การส่งเสริมต่อยอดการใช้ประโยชน์โครงการ"เน็ตประชารัฐ", โครงการ ASEAN Digital Hub ,การดำเนินงาน ช่วงสถานการณ์ covid รวมทั้ง การผลักดันกิจการอวกาศของประเทศ
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญให้แก่ กระทรวงดิจิทัลฯ สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์ได้มีบทบาท ต่อการสร้างความขัดแย้งในสังคม,การปลุกปั่นและการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม ของประชาชน นักศึกษา และเยาวชน พล.อ.ประวิตร จึงมีความห่วงใย และได้ขอให้ กระทรวงดิจิทัลฯ จะต้องมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยขอให้เพิ่มประสิทธิภาพการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ผิดกม.และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อย่างจริงจัง ไม่เลือกปฏิบัติ และเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบด้วย
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้กระทรวงดิจิทัลฯ ประสานความร่วมมือ กับ ปอท. ,สตช. ,กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิด ในการดำเนินคดีตามกม. อย่างจริงจัง รวมทั้งพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือให้ทันกับเทคโนโลยีเพื่อการสืบค้นพิสูจน์หลักฐานและหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ การรู้เท่าทันจากภัยออนไลน์ ให้กับประชาชน อย่างทั่วถึง
พล.อ.ประวิตร ยังได้เน้นย้ำให้ ดศ. เร่งขับเคลื่อนกลไกการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มมากขึ้น และเร่งรัดการใช้เทคโนโลยี 5Gให้เกิดประโยชน์ต่อการให้บริการประชาชน ทางด้านสาธารณสุข การศึกษาทางไกล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในอนาคต ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง