"ธรรมาภิบาล"ร้องผู้ตรวจเงินแผ่นดิน สอบ โครงการติดตั้ง CCTV

วันนี้(4 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ได้เดินทางไปยื่นเรื่องกับผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน  เพื่อให้ตรวจสอบงานจัดหาและติดตั้งระบบกล้อง CCTV ว่าเป็นไปตามแบบแผนปฏิบัติตามสัญญาหรือไม่

โดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธาน กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายผู้ประกอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวีว่า มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานประธานกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ทั่วประเทศ ไปหาประโยชน์โดยการวิ่งเต้นโดยการวิ่งเต้นล็อคสเปกงานติดตั้งกล้อง CCTV ภายใต้นโยบาย Smart City ของรัฐบาล

โดยมีเสี่ย ก. ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจัดหาและติดตั้งกล้อง CCTV  อ้างว่าตนเป็นผู้ประสานงานของผู้ใหญ่ในรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการโครงการ Smart City ต่อหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีแผนและงบประมาณที่จะติดตั้งกล้อง CCTV โดยได้เข้าไปวางสเปคล่วงหน้าให้กับหน่วยงานที่จะจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้รับสเปค CCTV ของกลุ่มตนเอง และทำให้บริษัทของตนเองได้งานหลายโครงการแล้ว

จึงขอให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ตรวจสอบโครงการทั้งหมดว่าได้ดำเนินการไปตามแบบแผนปฏิบัติตามสัญญาคุ้มค่าเงินแผ่นดินหรือไม่  และให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการทั้งหมดว่าเข้าข่ายความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ค.2542หรือไม่

ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง กลุ่มธรรมาภิบาลฯ เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผ่านสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องเรียนเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมแนบเอกสารประกอบเป็น คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ซึ่งลงนามโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ถูก ‘คนบางกลุ่ม’ นำไปใช้กล่าวอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคณะกรรมการฯชุดนี้

แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเป็นการวิ่งเต้นกันไปเอง ยืนยันทำตามขั้นตอนและกฎหมายทั้งหมด พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว