ขั้นตอนเปิดน่านฟ้า หลัง ทบ.ถูกทัวร์ลงปล่อยทหารอียิปต์เข้าประเทศ

เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.2563) #กองทัพอากาศอย่าเนียน พุ่งขึ้นมาอยู่บนเทรนด์ทวิตเตอร์ จากกรณีที่ทหารอียิปต์บินเข้ามาในประเทศเมื่อค่ำวันที่ 8 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา โดยเครื่องได้ลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภา และภายหลังจะมาทราบว่า ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ชาวเน็ตติดแฮชแท็ก ดังกล่าว เพื่อทวงถามความรับผิดชอบ และเรียกร้องให้ทาง ทบ. ออกมาพูดอะไรบ้าง

 

อ่านข่าว-เปิด 3 จุดอ่อน บทเรียนประเทศไทยจากทหารอียิปต์ 

ขณะเดียวกัน ทาง กองทัพอากาศ หรือ ทบ. โดย พลอากาศโท พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ มีการชี้เเจงกรณีกองทัพอากาศเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินทหารอียิปต์เข้าประเทศไทย ตามขั้นตอนคือ สถานทูตของประเทศนั้นๆ จะติดต่อไปยังกระทรวงต่างประเทศ และเมื่อกระทรวงต่างประเทศเห็นว่า เป็นเครื่องบินทหาร ก็จะประสานมายังกองทัพอากาศ พิจารณาว่า มีความขัดแย้งเรื่องความมั่นคงหรือไม่

 

ทั้งนี้ สำหรับการพิจารณา กฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติทางทหารสอดรับกับอํานาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยมีหัวข้อ ดังต่อไปนี้ 

 

- การบินผ่าน และขึ้นลงในประเทศไทยอยู่ในความดูแลของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย และ ศูนย์ยุทธการทางอากาศ กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นไปตามกฎการบินสากล และไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

 

- คําสั่ง คค.ที่ 90/2553  ลง 24 มีนาคม 2553 เรื่องมอบอํานาจตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ในการลงนามแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 

 

- อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 พระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 

 

การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะเป็น อากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด หรือในการใช้เส้นทางคมนาคม ไม่ว่าทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางบก ยกเว้นเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ที่ประจํายานพาหนะ ซึ่งจําเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ และมีกําหนดเดินทางออกชัดเจน

 

เมื่อกองทัพอากาศพิจารณาและลงนามอนุมัติเรียบร้อยแล้ว จะส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศ ดําเนินการต่อไป จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องให้สถานทูตของประเทศต่างๆ และสถานทูตจะประสานสนามบินปลายทาง