ข่าว

สุดประทับใจ "ดร.ปริญญา" เที่ยวเกาะไข่เจอกองขยะ หวั่นใจมีคนเก็บหรือไม่ สุดท้ายผิดคาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล" โพสต์สุดประทับใจ หลังท่องเที่ยวเกาะไข่ เจอกองขยะ หวั่นใจมีคนเก็บหรือไม่ สุดท้ายผิดคาด

วันที่ 5 ก.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ภาพ บรรยากาศสุดประทับใจ จากการไปเที่ยวเที่ยวชุมชน ดำน้ำ ที่ เกาะไข่ จ.ชุมพร  โดยมีข้อความว่า

#ท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่เกาะไข่ ชุมพร

เราจะทิ้งไว้เพียงรอยเท้าบนผืนทราย

 

“เดี๋ยวพวกเราช่วยกันเก็บกล่องข้าวและขยะขึ้นไปทิ้งบนฝั่งนะครับ” ผมบอกเพื่อนสมาชิกอีก 5 คนที่มาจาก 3 มหาวิทยาลัย คือธรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง และ มช. ที่มาดำน้ำดูปะการังแบบ snorkeling หรือดำน้ำแบบคว่ำหน้าบนผิวน้ำ ที่เกาะไข่ จังหวัดชุมพรด้วยกัน ทุกคนพยักหน้าทันที

 

เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดในประเทศไทย ผมและทีมงานมหาวิทยาลัยยั่งยืนของธรรมศาสตร์ คืออาจารย์ปิคและเอกดนัย ไปประชุมเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย ที่สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร โปรแกรมเช้านี้เป็นโปรแกรมดูงาน ผมและทีมธรรมศาสตร์เลือกไปดูงานท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่จัดการโดยชุมชน

เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดในประเทศไทย ผมและทีมงานมหาวิทยาลัยยั่งยืนของธรรมศาสตร์ คืออาจารย์ปิคและเอกดนัย ไปประชุมเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย ที่สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร โปรแกรมเช้านี้เป็นโปรแกรมดูงาน ผมและทีมธรรมศาสตร์เลือกไปดูงานท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่จัดการโดยชุมชน

 

เวลา 8 โมงเช้าหลังจากเราเปลี่ยนชุดพร้อมว่ายน้ำ เลือกเสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำ และท่อหายใจเรียบร้อย เรือประมงหางยาว 2 ลำก็พาเราออกจากฝั่งมาส่งที่เกาะไข่ซึ่งห่างจากชายฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตรกว่าๆ โดยมีทีมงานชุมชนที่เป็นเด็กหนุ่มๆ มากับเราด้วย 3 คน พอถึงที่หมายส่งเราขึ้นเกาะเรียบร้อย เรือประมงหางยาวทั้ง 2 ลำก็เลี้ยวกลับเข้าฝั่งโดยนัดหมายมารับเราเวลาบ่ายโมง

 

ผมตั้งใจว่าจะไม่สร้างขยะใดๆ ทิ้งไว้บนเกาะเลย หลังดำน้ำดูประปารังและกินอาหารกลางวันเสร็จ ผมจึงชักชวนชาวมหาวิทยาลัยที่มาด้วยกันให้ช่วยกันเก็บขยะกลับขึ้นไปทิ้งบนฝั่งให้หมด แต่ไม่รู้เลยว่าทีมงานของชุมชนทั้ง 3 คนที่นั่งห่างออกไปเขาจะทำแบบเดียวกับเราหรือเปล่า

 

ผมดูแล้วท่าทางคงต้องไปเก็บขยะให้พวกเขาแน่ เพราะเมื่อกี้ตอนเดินไปอีกด้านของเกาะผมเห็นขยะอยู่ริมฝั่งเป็นแนวยาว แม้ว่าส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากคลื่นซัดขึ้นมา แต่มีขยะจำนวนไม่น้อยอยู่สูงขึ้นมาบนฝั่ง ดูแล้วคงเกิดจากคนมาที่เกาะนี้แล้วมาทิ้งไว้ ก็น่าจะเป็นพวกเขานี่แหละครับ

 

“ไม่รู้ว่าพวกเค้าจะเก็บขยะขึ้นไปทิ้งบนฝั่งแบบพวกเราไหม ..” ผมเปรยกับเพื่อนร่วมทริป “.. แต่ไม่เป็นไร ถ้าเค้าไม่เก็บเดี๋ยวผมจะไปเก็บเอง” ผมพูดพลางนึกวิธีเหมาะๆ ที่จะไปเก็บขยะให้พวกเขาโดยไม่เป็นการเผชิญหน้า หรือทำให้เขารู้สึกว่าถูกต่อว่า

 

พอถึงเวลาบ่ายโมง เรือประมงหางยาวก็วิ่งจากฝั่งมารับพวกเราตามที่นัดหมาย “เรือมาแล้ว” ผมบอกเพื่อนร่วมทริป “เดินไปที่เรือก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมไปเก็บขยะของเค้าก่อน” แล้วผมก็เดินไปที่ทีมงานชุมชน ..

 

ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมต้องแปลกใจ ทีมงานชุมชนทั้ง 3 คนที่กำลังเดินจากบนเกาะลงไปที่เรือ มีคนหนึ่งถือถุงพลาสติกใสใบใหญ่ไว้ในมือข้างหนึ่ง เป็นถุงพลาสติกที่ใส่ขยะไว้ข้างในจนเต็ม!

สุดประทับใจ "ดร.ปริญญา" เที่ยวเกาะไข่เจอกองขยะ หวั่นใจมีคนเก็บหรือไม่ สุดท้ายผิดคาด

“สุดยอดเลยครับ” ผมยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับพูดอย่างดีใจ “กำลังลุ้นเลยว่าพวกพี่จะเอาขยะกลับขึ้นไปทิ้งบนฝั่งไหม” ผมใช้คำว่า ‘กำลังลุ้น’ ไม่ได้บอกว่าจริงๆ แล้วคิดว่าจะต้องไปเก็บขยะให้พวกเขาแน่

“ต้องเอาขึ้นไปทิ้งสิครับ” ชายหนุ่มที่ถือถุงขยะหัวเราะ “เราเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนะครับ เรือของพวกเราที่พานักท่องเที่ยวมาที่เกาะไข่ ต้องเก็บขยะกลับไปทิ้งบนฝั่งทุกลำครับ” คำตอบของเขาทำให้ผมดีใจขึ้นไปอีก ผมประเมินเขาผิดไปมาก พวกเขาเก็บขยะไปทิ้งที่ฝั่งอยู่แล้ว ถ้าพวกผมไม่เก็บขยะไป พวกเขานั่นแหละที่จะมาเก็บให้เรา

 

แต่ผมก็ยังมีความสงสัยเหลืออยู่บางอย่าง ถามให้สิ้นสงสัยไปเลยละกัน ..

 

“แต่ผมเห็นเกาะด้านโน้นมีขยะเยอะเลย” ผมพูดพลางชี้นิ้วไปอีกด้านของเกาะ “ดูแล้วน่าจะเกิดจากคนเอามาทิ้งนะครับ”

“คลื่นมันซัดขยะมาครับ” ชายหนุ่มอีกคนตอบ

“ครับ ผมเห็นแล้วว่าส่วนใหญ่มันมากับคลื่น ..” ผมพยักหน้า “แต่มันมีขยะเยอะเลยนะครับที่มันสูงจากหาดขึ้นมามาก ผมว่ามันน่าจะเกิดจากคนทิ้งนะครับ”

“ปาบึกครับพี่” ชายหนุ่มคนที่สามตอบ

“ปาบึก” ผมคุ้นๆ ชื่อ “พายุปาบึก?”

“ครับพี่” ชายหนุ่มคนเดิมพยักหน้า “พายุปาบึกตอนต้นปีที่แล้วมันพาขยะครับ”

 

คำตอบนั้นทำให้ผมสิ้นสงสัย และรู้สึกผิดที่ไปสงสัยชาวประมงว่าเป็นคนเอาขยะมาทิ้ง ชาวบ้านที่นี่เค้าตื่นตัวกันแล้ว ผมรู้สึกดีใจที่ได้มาเที่ยวที่นี่ แล้วก็นึกในใจว่าจะหาโอกาสมาใหม่ อยากจะชวนคนมาช่วยกันเก็บขยะที่ปาบึกพามาให้หมดไปจากเกาะไข่

 

สุดประทับใจ "ดร.ปริญญา" เที่ยวเกาะไข่เจอกองขยะ หวั่นใจมีคนเก็บหรือไม่ สุดท้ายผิดคาด

พอขึ้นไปบนเรือประมงหางยาว เห็นคนขับเรือยังง่วนอยู่ที่หัวเรือ ผมจึงเดินเข้าไปจับคันบังคับหางเสือ แอ็คทำท่าถ่ายรูปทำเป็นว่ากำลังขับเรือ

“พี่จะลองขับเรือดูไหม” คนขับเรือเห็นผมแอ็คท่าขับเรือจึงถามผม

“อยากลองครับ” ผมตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดเลย “พี่จะให้ผมลองจริงๆ เหรอ” ต่างคนต่างเรียกพี่ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่าใครแก่กว่า แต่จริงๆ เป็นการแสดงความนับถือกันครับ

“ให้ลองจริงสิ” พี่คนขับเรือหัวเราะ “แต่เดี๋ยวให้พ้นแนวชายฝั่งก่อนนะ แล้วพี่มาถือหางเสือเลย”

 

พี่ชาวประมงคนขับเรือสตาร์ทเครื่องด้วยการดึงเชือกที่เอาไปพันไว้กับมอเตอร์ เพียงครั้งเดียวเครื่องก็ติด จากนั้นก็เอาหางเสือจุ่มน้ำและพาเรือประมงหางยาวตีวงออกมาจากเกาะไข่ ชายหาดสีขาวและเกาะสีเขียวเข้มค่อยๆ ห่างออกไป พอน้ำทะเลกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม พี่คนขับก็เรึยกผมเข้าไปจับหางเสือ

 

“เอาเลยพี่” ว่าแล้วก็ลงมานั่งแทนผม “เลี้ยวซ้ายก็โยกหางไปทางขวา เลี้ยวขวาก็โยกหางไปทางซ้าย ไม่ยากหรอกพี่”

“เชือกนี่คือคันเร่งใช่ไหมพี่” ผมถามพลางเอานิ้วชี้เกี่ยวเข้าไปที่เชือกเล็กๆ เส้นนั้น

“ใช่ๆ” พี่คนขับตอบแล้วก็หยิบเอาใบจากมามวนยาสูบสบายใจเฉิบ

 

ผมเคยขับเรือแบบมีหางไม่ยาวมากมาแล้วหลายครั้งตอนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 แต่ตอนนั้นเรือเล็กกว่านี้มาก หางก็ไม่ยาวเท่านี้ แล้วตอนนั้นก็เป็นการขับเรือในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยขับไปตามถนนที่ถูกน้ำท่วมสูง 2 เมตร ผิวน้ำเรียบสนิท ไม่มีคลื่นลมแต่ประการใด ซึ่งแตกต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง

 

คลื่นแม้จะลูกไม่ใหญ่มาก แต่ผมดูแล้วสูงเกือบๆ เมตร แล้วก็มาไม่หยุดทั้งซ้ายขวา เรือโคลงเคลงไปมาทุกครั้งที่เจอคลื่น ทำให้ผมต้องเบาเครื่องทุกครั้งเม่ีอปะทะคลื่น จนเรืออีกลำที่คู่กันมาเริ่มทิ้งห่างออกไป ปิคกับเอกดนัยมองมาเป็นระยะ ด้วยสายตาเป็นห่วง แต่คงไม่ใช่ห่วงผมหรอก เป็นห่วงว่าผมจะพาไปไม่ถึงฝั่งมากกว่า

 

ผมรู้สึกว่าหางเรือมันหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำไมตอนเพี่ชาวประมงเขาขับถึงดูเบาๆ สบายๆ ไม่เห็นลำบากอย่างผมเลย

 

“พี่อย่าเกร็ง ถือหางเสือสบายๆ เรือมันจะบิดซ้ายขวาบ้างก็ไม่เป็นไร” พี่คนขับบอก ผมจึงรู้ตัวว่าผมเกร็งอยู่ พอได้ผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้ไขให้ ผมก็ผ่อนคลาย หางเสือจากหนักก็กลายเป็นเบา ไม่ช้าผมก็จับจังหวะหางเสือและคันเร่งกับคลื่นทะเลได้ ไม่ยากเท่าไหร่นี่นา

 

“เร่งได้อีกหน่อยพี่” พี่คนขับหัวเราะพร้อมกับยุ

“จะดีเหรอพี่” ผมหัวเราะพร้อมกับหันหัวเรือให้ตรงแนวกับลำหน้าเพื่อหนีคลื่นจากเรือลำหน้า แล้วก็เพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกนิด เรือประมงหางยาวอีกลำที่ทิ้งห่างไปค่อยๆ ใกล้เข้ามาอีกครั้ง

 

ผมนึกว่าเขาจะให้ขับแค่นิดๆ หน่อยๆ ตอนนี้ผมขับมากว่าหนึ่งกิโลเมตรแล้ว แต่คนขับดูดใบจาก และคุยกับเอกดนัยกับปิคอย่างสบายใจ เรียกว่าแทบจะไม่สนผมเลย ผมดูแล้วเขาคงเห็นว่าผมขับได้ ก็เลยปล่อยผมขับเรือให้เสียเลย สุดยอดจริงๆ

สุดประทับใจ "ดร.ปริญญา" เที่ยวเกาะไข่เจอกองขยะ หวั่นใจมีคนเก็บหรือไม่ สุดท้ายผิดคาด

แล้วผมก็ขับเรือหางยาวในทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิตมาจนถึงฝั่งชุมพร ผมเข้าใจแล้วว่าคำพูดของคนไทยแต่โบราณที่ว่า “ไปให้ตลอดรอดฝั่ง” หรือในทางกลับกัน “ไปไม่ตลอดรอดฝั่ง” แปลว่าอะไร ผมดีใจที่ผมเป็นแบบแรก

 

“คลื่นทะเลมันลูกใหญ่ขับยากนะครับ” ผมบอกพี่คนขับเรือที่เข้ามาถือหางเสือแทนผมตอนเรือเทียบเข้าฝั่ง

“พี่ต้องมาใหม่เดือนมกรา” พี่คนขับบอกผม

“อ๋อ เดือนมกราทะเลเรียบคลื่นลูกเล็กขับเรือง่ายกว่าใช่ไหมครับ”

“เปล่าๆ ตอนนี้คลื่นลูกไม่ใหญ่หรอก ต้องมกรานั่นแหละถึงคลื่นลูกใหญ่ของจริง” พี่คนขับหัวเราะ “แล้วเดือนมกราปีหน้ามาลองใหม่นะ”

“อ้าว พี่” ผมหัวเราะ “จะไหวเหรอ ขนาดตอนนี้คลื่นลูกไม่ใหญ่ผมยังแทบแย่เลย”

 

ทริปนี้ผมสนุกมาก และได้เรียนรู้อะไรมากมาย ใครสนใจอยากไปดำน้ำแบบสน็อร์คเกิลชมประการังที่เกาะไข่แบบผม ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่จัดการโดยชุมชนชาวประมง ขอเชิญไปหาข้อมูลที่เพจ ‘ชุมชนท่องเที่ยว เรือประมงเกาะไข่’ ได้เลยครับ

 

สำหรับผม ผมจะกลับไปที่เกาะไข่อีกครั้งอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ไปขับเรือในเดือนมกราคมที่คลื่นลูกใหญ่กว่าคราวนี้ แต่จะชักชวนผู้คนไปช่วยเก็บขยะที่เกาะไข่ครับ:)

ขอบคุณ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ