ข่าว

องคมนตรี ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

องคมนตรี พร้อมด้วยเลขาธิการ กปร. รองเลขาธิการ กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี พบมีความคืบหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการดำเนินโครงการฯ คาดแล้วเสร็จปลายปี 2563

องคมนตรีพร้อมด้วยเลขาธิการ กปร.  รองเลขาธิการ กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี พบมีความคืบหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการดำเนินโครงการฯ คาดแล้วเสร็จปลายปี 2563 สามารถระบายน้ำหลากแก้น้ำท่วมปล่อยลงสู่ทะเลอ่าวไทยได้อย่างรวดเร็ว ลดปัญหาน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีได้ตามพระราชประสงค์
 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลางและพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อมด้วยนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร. ) นายลลิต ถนอมสิงห์ รองเลขาธิการ กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามผลการดำเนินงานโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี
 

                     องคมนตรี ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี   

โอกาสนี้พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าวว่า จังหวัดเพชรบุรีมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมแล้วกว่า 103 แห่ง เกือบจะมากที่สุดในประเทศไทย พระองค์พระราชทานแนวคิดในการแก้ไขปัญหาทั้งระบบให้กับจังหวัดนี้ ตั้งแต่น้ำแล้งและน้ำท่วม ตั้งแต่ปี 2533 จนกระทั่งปี 2554 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างได้น้อมนำพระราชดำริมาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชบายในการดำเนินการตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ด้วยการสืบสาน รักษาและต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  
“ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนในโครงการพระราชดำริ และพลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง องคมนตรี ได้ร่วมลงพื้นที่ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี พบว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยดี คาดหวังว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในกรกฎาคม 2563 นี้  ซึ่งจะเป็นช่วงที่มักจะเกิดพายุในทุก ๆ ปี  ก็นับเป็นอีกหนึ่งโครงการฯ ที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ที่พระองค์พระราชทานไว้ “พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าว

ทางด้านนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. เผยว่าที่ผ่านมาช่วงฝนตกในพื้นที่จะมีปริมาณน้ำมาก แม้ทางด้านตะวันตกของจังหวัดเพชรบุรีจะมีเขื่อนใหญ่ ๆ อยู่ 2 เขื่อนเพื่อรองรับน้ำอยู่แล้วก็ตาม แต่ไม่เพียงพอในการรองรับปริมาณน้ำจำนวนมากได้ น้ำยังไหลลงมาเพื่อออกทะเลอ่าวไทย พื้นที่บริเวณเส้นทางการไหลของน้ำจึงเกิดน้ำหลากน้ำท่วม เช่น ที่ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี  มักจะได้รับภัยจากปริมาณน้ำจำนวนมากเหล่านี้ในทุกปี  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำริมาตั้งแต่ปี 2542 ถึงปี 2547 จำนวน 5 ครั้ง สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมสนองพระราชดำริ เมื่อปี 2548 - 2551 โดยให้การสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 52 ล้านบาท และการประสานงานการดำเนินงาน ในการขุดลอกคลอง D1 D9 และ D18 เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเพรชบุรีได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินงานในขณะนี้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการมีความคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 90  

                     องคมนตรี ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี

                                                นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร.

 “วันนี้ที่ท่านองคมนตรีตรีทั้งสองท่านได้กรุณามาเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าของโครงการฯ คิดว่าภายในปีงบประมาณ 2563 ถึง 2564  โครงการหลัก ๆ ก็น่าจะสำเร็จลุล่วงและสามารถป้องกันอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ตามพระราชประสงค์เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ต่อไปได้” นายดนุชา สินธวานนท์ กล่าว
การนี้องคมนตรี และคณะได้รับฟังการบรรยายสรุปการติดตาม และขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลางจากผู้แทนสำนักงาน กปร. ซึ่งมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในเขตพื้นที่ภาคกลาง จำนวนทั้งสิ้น 14 โครงการ และจากการติดตามของคณะอนุกรรมการฯ ที่ผ่านมา สามารถขับเคลื่อนโครงการโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณแล้ว จำนวน 9 โครงการ ส่วนอีก 5 โครงการ ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบและกฎหมายให้มีความถูกต้องชัดเจน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุด ต่อประชาชนและประเทศชาติ

                      องคมนตรี ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี

และช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะได้ลงพื้นที่ชมความก้าวหน้าในการดำเนินงานบริเวณคลอง D9 จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณประตูระบายน้ำปลายคลอง D9 บริเวณ ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดระบายน้ำลงสู่ทะเล จุดที่ 2 บริเวณ จุดตัดคลอง D9 กับทางรถไฟ ตำบลหนองจอก โดยความร่วมมือระหว่างกรมชลประทานและการรถไฟแห่งประเทศไทย และจุดที่ 3 บริเวณแนวการคลอง D9 ในที่ชุมชนบ้านกระจิว ตำบลท่ายาง ซึ่งเป็นพื้นที่ประชาชน และชุมชนมีความเข้มแข็งให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการฯ เป็นอย่างดี
 สำหรับความก้าวหน้าในโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง จังหวัดเพชรบุรี นั้นปัจจุบันกรมชลประทานได้พิจารณาแผนป้องกันอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง ประกอบด้วย 2 แนวทางหลัก ได้แก่ แนวทางที่ 1 เพิ่มศักยภาพคลองระบายน้ำ D9 โดยปรับปรุงขยายคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา 3 และ อาคารประกอบในคลองต่าง ๆ ระยะทาง 8 กิโลเมตร และขุดขยายคลอง D9 ระยะทาง 21 กิโลเมตรเพื่อเพิ่มอัตราการระบายจากเดิม 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแนวทางที่ 2 เพิ่มศักยภาพคลองระบายน้ำ D1 โดยปรับปรุงคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา 1

 และขุดคลองระบายน้ำเชื่อมระหว่างคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา ไปคลองระบายน้ำ D1 เพื่อเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรี ตรงบริเวณเหนือเขื่อนเพชร ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร พร้อมปรับปรุงอาคารประกอบในคลองต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเดิม 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และขุดคลองระบายน้ำ D1 ความยาว 3.40 กิโลเมตร ออกสู่ทะเลอ่าวไทย อัตราการระบายน้ำ 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้งขุดคลองเชื่อมต่อคลองโรงปูน เพื่อผันน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยที่บริเวณตำบลชะอำ อำเภอชะอำ โดยมีอัตราการระบายน้ำ 430 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งขณะนี้การก่อสร้างคลองระบายน้ำ D1 อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งดำเนินการจัดหาที่ดิน และเตรียมความพร้อมเพื่อการก่อสร้างต่อไป
 ทั้งนี้กรมชลประทานได้ดำเนินการจัดทำแผนงานเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 และคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบให้สามารถดำเนินการเตรียมความพร้อมดำเนินโครงการได้ ซึ่งกรมชลประทานจะเริ่มดำเนินการออกแบบรายละเอียดและขออนุมัติเปิดโครงการ คาดว่าจะเสนอต่อคณะกรรมการ ฯ เพื่อขออนุมัติเปิดโครงการ ในช่วงปลายปี 2563 นี้ ซึ่งหากโครงการฯ ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งโครงการจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ให้แก่ราษฎรจังหวัดเพรชบุรีและใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ