ข่าว

เปิดข้อมูล 7 หน่วยงานเกษตร มีสิทธิ์ได้"เงินเยียวยาเกษตกร" 5,000 บาท ลอตแรก 15 พ.ค.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ส่งฐานข้อมูล 7 หน่วยงาน เข้าคลังลอตแรก 8.3 ล้านราย ตรวจสอบความซ้ำซ้อน เตรียมเริ่มแจก "เงินเยียวยา" เกษตรกรงวดแรก 15 พ.ค.2563 นี้ "เกษตรกร" อีก 2 กลุ่ม ต้องรีบขึ้นทะเบียนและปรับปรุงบัญชีเกษตรกร ภายใน 15 พ.ค.นี้

 

          นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกร ในรายการ Live แถลงศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามคณะกลั่นกรองเรื่องการใช้จ่ายเงินกู้ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 กระทรวงเกษตรฯ ได้รวบรวมการขึ้นทะเบียนของเกษตรกร จากหน่วยงานต่างๆ 7 หน่วยงาน ครอบคลุม 3 กระทรวง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง ได้แก่

 

อ่านข่าว-"เยียวยาเกษตรกร.com" ลงทะเบียนวันที่ 2 สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีบัญชี ธกส.

         กรมส่งเสริมการเกษตร : ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชกรมประมง : ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเลี้ยงสัตว์น้ำ
         กรมปศุสัตว์ : ขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์
         กรมหม่อนไหม : ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงหม่อนไหมฯ
         การยางแห่งประเทศไทย : ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราฯ
         สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย : ขึ้นทะเบียนเกษตกรผู้ปลูกอ้อยฯ
         การยาสูบแห่งประเทศไทย : ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบฯ


          โดยขณะนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือว่าเป็นนายทะเบียนด้านเกษตร ได้นำฐานข้อมูลจากทั้ง 7 แหล่ง มาตรวจสอบความซ้ำซ้อนของความเป็นเกษตรกร ซึ่งมีเกษตรกรทั้งหมดประมาณ 8.3 ล้านราย และได้ส่งให้กระทรวงการคลังตรวจสอบความซ้ำซ้อนในมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการเราไม่ทิ้งกัน มาตรการระบบประกันสังคม เป็นต้น อีกครั้งหนึ่ง


          โดยในชุดแรกที่ส่งไปและตรวจสอบแล้ว จะเริ่มจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 ได้งวดแรกในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 โดยจะเป็นการทยอยจ่าย

 

           นอกจากนี้ในรายชื่อเกษตรกรล็อตแรก 8.3 ล้านรายนี้ ก็มีเกษตกรบางส่วนไม่ได้มีบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสกหรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งล่าสุดทาง ธ.ก.ส.ได้แจ้งว่า เกษตรกรสามารถแจ้งบัญชีของธนาคารใดก็ได้ (ทั้งนี้ ธ.ก.ส.เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งบัญชีธนาคารอื่น เริ่มวันนี้ 7 พฤษภาคม 2563 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ที่เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com) 

 

            ทั้งนี้เน้นย้ำว่า กลุ่มเกษตรกร 2 กลุ่ม ได้แก่


1.เกษตรกรที่ยังไม่ได้ปรับปรุงบัญชีเกษตรกร ให้เป็นปี 2562/2563 

2.กลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นบัญชีเกษตรกร แต่มีอาชีพทำเกษตรกรรม 

 

         โดยทั้งเกษตรกรทั้ง 2 กลุ่มนี้ ขอให้ไปปรับปรุงบัญชีและขึ้นทะเบียนเกษตรกรใน 7 หน่วยงานข้างต้น ซึ่งกำหนดให้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ซึ่งในกลุ่มนี้มีจำนวน 1 ล้านกว่าคน

          ในการขึ้นทะเบียน กรมส่งเสริมการเกษตร ให้สามารถขึ้นทะเบียนกับผู้นำท้องถิ่น กับอาสาสมัครเกษตรในหมู่บ้าน สามารถไปยื่นแบบ ทบก.ได้ และทั้งสองส่วนนี้จะรวบรวมส่งให้ทางเกษตรอำเภอ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปถึงสำนักงานเกษตรอำเภอโดยตัวเองก็ได้

           อย่างไรก็ตาม สำหรับช่องทางในการติดต่อหน่วยงานทะเบียนเกษตรกรด้านต่างๆ มีดังนี้

กรมส่งเสริมการเกษตร ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : เบอร์ 02-579-3723
กรมปศุสัตว์ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : เบอร์ 02-653-4444 ต่อ 2321
กรมประมง ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : เบอร์ 02-940-6275
กรมหม่อนไหม สำนักงานบริหารกลาง : เบอร์ 02-558-7924
การบางแห่งประเทศไทย : เบอร์ 02-433-2222
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย : เบอร์ 02-202-3075
การยาสูบแห่งประเทศไทย : เบอร์ 02-229-1000


            นอกจากนี้ยังมีประเด็นคำถามถึง "เกษตรกรที่รับจ้าง เช่น รับจ้างกรีดยาง และขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยแล้ว กลุ่มนี้จะได้รับความช่วยเหลือด้วยหรือไม่?"

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า กลุ่มนี้จะได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากมาตรการนี้จะเป็นการนำฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจากทั้ง 7 หน่วยงานที่กล่าวมาข้างต้น มาใช้
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ