หนีกักตัวโดนโทษหนัก สั่งขัง 15 วัน ลำปางโดนรายแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้(3 เม.ย.)ศาลแขวงลำปางได้มีคำพิพากษา กรณีพบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเข้าข่ายเฝ้าระวังความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่ อ.เถิน จ.ลำปาง เป็น ชาย 1 ราย ซึ่งมีการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเนื่องจากไม่แยกกักขังตนเอง 14 วัน โดยศาลเห็นสมควรว่ามีความผิดฐานพระราชบัญญัติโรคติดต่อตามกฏหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 มาตรา 34,51 ประมาลกฏหมายอาญา 29,30 ให้กักขัง 15 วัน แทนค่าปรับ 7,500 บาทที่สถานกักขังศาลจังหวัดลำปางตั้งแต่วันที่3 เม.ย.2563 เป็นต้นไป

ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้(3เม.ย.)เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลงาว ได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำภายในหมู่บ้านดง หมู่ที่ 7 ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เพื่อนำบุคคลที่อยู่ในบ้าน อีก 5 คน ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุ 8-9 ปี จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 คน รวมอยู่ด้วย เพื่อนำไปกักตัวเผ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลงาว หลังก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา นางนทา เรืองวิวรรณ  อายุ 59 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และเป็นเจ้าของร้านขายของชำได้มีอาการป่วยมีไข้และเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลงาว

ทั้งนี้ ก่อนหลังการตรวจอาการ ทางทีมแพทย์ได้ทำการกักตัวไว้เนื่องจากสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการเข้าข่าย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลการตรวจจากห้องแลป พบว่านางนทา มีผลเป็นบวก ซึ่งรอการแถลงจากผู้ว่าราชการจังหวัดบ่ายวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลงาว จึงติดตามมานำบุคคลภายในบ้านไปกักตัว 14 วันเพื่อตรวจอาการ และสอบสวนโรคโดยในเบื้องต้นพบข้อมูลว่าลูกสาวของ นางนทา เดินทางกลับมาจาก กทม. แต่ก่อนหน้านี้ก็กักตัวแล้ว เป็นเวลา 14 วัน และไม่มีการแสดงอาการใดๆ