เปิดอาการก่อนเสียชีวิต 19 ผู้ติดเชื้อโควิด-19 วัณโรค ปอดอักเสบ เสี่ยงสุด

สำหรับผู้ป่วยยืนยันทั้ง 1,978 คน แยกเป็น คนต่างชาติ 294 คน และคนไทย 1,684 คน ซึ่งในจำนวนนี้ อยู่ในกรุงเทพฯ-นนทบุรี 1,049 คน รองลงมา อยู่ในภาคกลาง 291 คน ภาคใต้ 277 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 94 คน และภาคเหนือ 74 คน จำนวนอายุเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 39 ปี โดยผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุดอยู่ที่ 6 เดือน และอายุสูงสุด 86 ปี

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันทั้ง 1,978 คน มาจาก 62 จังหวัดทั่วประเทศ โดยยังเหลืออีก 15 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พระนครศรีอยุธยา, พังงา, พิจิตร, ระนอง, ลำปาง, สกลนคร, สตูล, สิงห์บุรี, สมุทรสงคราม และอ่างทอง

ขณะที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ระบุว่า ไทยเตรียมพร้อมเนื่องจากจะมีคนไทยจาก 3 กลุ่มใหญ่ที่เตรียมจะเดินทางกลับเข้าประเทศภายในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งเป็นกรณีที่ได้มีการขออนุญาตไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงทำให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้แม้นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้คนไทย-ต่างชาติ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศในช่วง 2-15 เม.ย.63 ซึ่งประกอบด้วย คนไทยที่จะเดินทางกลับจากอินโดนีเซีย 100 คน ในวันที่ 6 เม.ย., คนไทยที่จะเดินทางกลับจากมาเลเซีย 83 คน, และอีกส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนทุน AFS

ส่วนข้อมูลของผู้เสียชีวิตทั้ง 19 รายนั้น จะมีอาการอย่างไรบ้างนั้น ทีมข่าวคมชัดลึก ออนไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลของผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  โดยมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้วจำนวน 19 ราย  เป็นชาย 17 ราย หญิง 2 ราย  โดยมีข้อมูลของผู้เสียชีวิตดังนี้

รายแรก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563  เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ต่อมามีการติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย ถูกส่งมาจาก โรงพยาบาลเอกชน มารักษาต่อที่ สถาบันบำราศนราดูร  ทีมแพทย์รักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ดีที่สุด ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.63 

หลังจากรักษาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน สภาพปอดที่เสื่อมแต่เดิม หัวใจและอวัยวะภายในทำงานหนัก ทำให้อวัยวะภายในหลายระบบล้มเหลว (Multiorgan failure) จึงเสียชีวิตในที่สุดทั้งนี้ เนื่องจากตรวจไม่พบเชื้อแล้ว

รายที่ 2  กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 24 มี.ค.2563 เสียชีวิตวันที่ 23 มีนาคม 2563 ชายไทย อายุ 70 ปี  อาชีพ คนขับรถทัวร์จีน เป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเป็น วัณโรคร่วม โดยแจ้งครอบครัวว่ามีอาการอ่อนแรง แขนขาไม่มีแรง หายใจผิดปกติ ไม่รู้สึกตัว เข้ารักษาตัวรพ.เอกชน จ.สมุทรปราการ แพทย์ระบุป่วยโรคปอดอักเสบ  ต่อมารพ.เอกชนส่งตัวรักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูร จนกระทั่งอาการทรุดหนัก ภาวะหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตในวันที่ 23 มี.ค.

เสียชีวิตที่ สถาบันบำราศนราดูร

 

 

รายที่ 3 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 24 มี.ค.2563 ชายไทย อายุ 79 ปี  เป็นเซียนมวย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม เข้ารักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร มีอาการหนัก เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายโรค

รายที่4 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 24 มี.ค.2563 ชายไทย อายุ 45 ปี รับรักษาตัวจากโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ มีโรคประจำตัว เบาหวาน ภาวะอ้วน

รายที่ 5 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 27 มี.ค.2563 เสียชีวิตวันที่ 27 มีนาคม 2563 ชายไทย อายุ 50 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย จากการร่วมงานบรรยายธรรมที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-2 มี.ค.63 มีอาการป่วยไข้ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลา 03.15 น.

 

รายที่ 6 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 28 มี.ค.2563  ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุ 55 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร มีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวาน ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี และไขมันในเลือดสูง เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลวันที่ 23 มี.ค.2563 ด้วยอาการหอยเหนื่อย ตรวจพบปอดอักเสบรุนแรง ต่อมาใช้เครื่องช่วยหายใจ จนกระทั่งเสียชีวิตในช่วงบ่ายวันที่ 27 มี.ค.2563

รายที่ 7 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 29 มี.ค.2563   ผู้เสียชีวิตอายุ 68 ปี  ชาวตำบลไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี พบประวัติ เดินทางไปสนามมวยวันที่ 6 มี.ค.2563 กลับบ้านไม่มีอาการผิดปกติ พักอยู่บ้านตลอด วันที่ 12-14 ผู้ป่วยเดินทางไปร่วมงานศพที่ต.ไทรม้า วันที่ 15 มี.ค. ผู้ป่วยมีอาการเวียนศรีษะ ลูกชายจึงนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ตรวจไม่พบอาการจึงให้กลับบ้าน กระทั่งวันที่ 27 มี.ค. ช่วงดึกผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก ลูกชายจึงส่งรักษาที่ รพ.นนทเวช แพทย์รับแอดมิด และผู้ป่วยเสียชีวิตเวลา 23.00 น.

รายที่ 8 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 30 มี.ค.2563   เป็นชายไทย อายุ 54 ปี ชาวจ.ยะลา  พบประวัติเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย วันที่ 12 มี.ค. ต่อมาวันที่ 13 มี.ค.เริ่มมีอาการป่วยไข้ วันที่ 15 มี.ค. เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลา แพทย์ยืนยันป่วยโควิด-19   และเสียชีวิตวันที่ 29 มี.ค.2563 ด้วยอาการปอดอักเสบ เนื้อปอดถูกทำลาย จึงเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

รายที่ 9 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 30 มี.ค.2563   เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ประวัติพบว่าเริ่มป่วยวันที่ 18 มี.ค. และวันที่ 20 มี.ค. เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชน แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการปอดอักเสบ จึงได้ทำการรักษาและเสียชีวิตโดยมีภาวะปอดอักเสบ ในวันที่ 29 มี.ค.2563

รายที่ 10 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 31 มี.ค.2563   เป็นชายไทย อายุ 48 ปี พื้นเพเป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบอาชีพนักดนตรีที่กรุงเทพฯ แล้วได้เดินทางกลับบ้านที่จ.มหาสารคาม ได้มาพักที่บ้านพี่สาว ในพื้นที่อ.พยัคฆภูมิพิสัย ป่วยติดเชื้อโควิด19 มีโรคประจำตัว อาทิเบาหวาน มะเร็งลำไส้ ไวรัสตับอักเสบ ได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.มหาสารคาม และเสียชีวิต

รายที่ 11 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 1 เม.ย.2563  เป็นชายไทย อายุ 79 ปี อาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ไตวายเรื้อรัง มีประวัติเดินทางไปงานแต่งงานที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 29 มี.ค. เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ และมีอาการปอดอักเสบ จนเสียชีวิตในวันที่ 31 มี.ค.

รายที่ 12 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 1 เม.ย.2563 คือนายภาคภูมิ วัลลิสุต ประธานกรรมการ บริษัท ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด เป็นที่ปรึกษาเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่เดินทางไปร่วมเจรจาซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทยและมาเลเซีย ที่ประเทศอังกฤษ กลับมามีอาการป่วย ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกระทั่งเสียชีวิต

 

 

รายที่ 13 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 2 เม.ย.2563  เป็นชายไทย อายุ 57 ปี มีประวัติเดินทางจากอ.สุไหงโกลก ไป ปากีสถาน เดินทางกลับมาไทยลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่จะเดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบางซื่อ เพื่อเดินทางกลับ อ.สุไหงโกลก ก่อนที่จะเสียชีวิตบนขบวนรถไฟ พื้นที่อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตวันที่ 31 มี.ค.2563

รายที่ 14 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 2 เม.ย.2563 เป็นชายไทยอายุ 77 ปี เป็นชาวอ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นผู้ที่ได้สัมผัสตัวลูกชาย ที่เดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย  และผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือ เบาหวานขั้นรุนแรง ถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบเรื้อรังมานาน และปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจมาตั้งแต่แรก ช่วงมีอาการได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลยะรัง ก่อนที่จะส่งตัวมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

รายที่ 15 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 2 เม.ย.2563 เป็นชายไทย อายุ 55 ปี อาชีพขับรถยนต์สาธารณะ อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ มีอาการป่วย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี และเสียชีวิตวันที่ 1 เม.ย.2563

 

รายที่ 16 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 3 เม.ย.2563 เป็นชายไทยวัย 59 ปี อาชีพพนักงานรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่มีโรคประจำตัว เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.2563 จากอาการไข้ จากนั้นในวันที่ 21 มี.ค.ไปพบแพทย์ที่รพ.บางปะกอก ก่อนจะกลับไปทำงานปกติเพราะมีอาการน้อยมาก แต่ปรากฏว่าอีกระยะหนึ่งมีอาการหนักในวันที่ 31 มี.ค.ด้วยอาการเหนื่อยหอบ และเข้ารักษาใน รพ.โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเสียชีวิตในวันที่ 2 เม.ย.

รายที่ 17 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 3 เม.ย.2563  รายที่ 2 เป็นชายวัย 72 ปี ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายเดิมที่เป็นลูกซึ่งไปชมการชกมวยมา โดยป่วยและเข้ารักษาใน รพ.กทม.มีโรคประจำตัวเป็นโรคไต เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.และเสียชีวิตในวันที่ 1 เม.ย.

รายที่ 18 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 3 เม.ย.2563 เป็นชายวัย 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคไต ความดัน และเก๊าท์ โดยเข้า รพ.ในกทม.ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.และเสียชีวิต 2 เม.ย.

 

รายที่ 19 กระทรวงสาธารณสุขแถลงวันที่ 3 เม.ย.2563 เป็นชายวัย 84 ปี มีประวัติไปสนามมวยราชดำเนิน เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.และเข้ารักษาใน รพ.ในวันที่ 21 มี.ค.ด้วยอาการไข้ 39.3 องศาฯ มีน้ำมูล และไอ จากนั้นย้ายไป รพ.ของรัฐบาลใน กทม.จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 2 เม.ย.

 

ซึ่งนี่ก็เป็นข้อมูลที่ทางคมชัดลึก ออนไลน์ รวบรวม อาการเสียชีวิตเบื้องต้น ที่ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยผ่านสื่อมวลชนเป็นประจำทุกวัน