ข่าว

"บิ๊กตู่"งัดยาแรง"เคอร์ฟิว"สี่ทุ่มถึงตีสี่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สั่งชะลอต่างชาติ-คนไทยเข้าประเทศจนถึง 15 เม.ย. ใช้มาตรการเข้มสกัด "โควิด-19" ระบาดเพิ่ม จี้หนุนอุปกรณ์ทีมแพทย์ด่านหน้าหลังเห็นหมอใส่ชุดกันฝนรักษาคนไข้ว่อนโซเชียล ขณะที่ภท.ยื่นป.ป.ช.สอบนำเข้าชุดตรวจไม่ชอบมาพากล

 

หลังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พร้อมมาตรการต่างๆ แต่ผู้เสียชีวิตจาก โควิด-19 และติดเชื้อสะสมยังอยู่หลักร้อยรายวันทำให้นายกฯ ต้องใช้ “ยาแรง”

อ่านข่าว ผลตรวจคนสัมผัสใกล้ชิดลุงติดเชื้อโควิดดับบนรถไฟออกแล้ว

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ทำนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อสรุปสถานการณ์แพร่ระบาดในภาพรวมที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการทบทวนมาตรการต่างๆ ว่าเพียงพอต่อการควบคุมระบาดหรือไม่ ภายหลังการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ดังนั้นหากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้อาจทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทำให้นายกฯ ต้องตัดสินใจบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเต็มรูปแบบตามข้อเสนอจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) โดยประกาศเคอร์ฟิวหรือห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานทั่วประเทศช่วงเวลา 22.00-04.00 น. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เมษายน ยกเว้นรถขนส่งสินค้า เวชภัณฑ์ และการขนส่งเกี่ยวกับพลังงาน ส่วนสาเหตุที่จำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิว เนื่องจากพบว่ามีสถานบันเทิงบางแห่งยังแอบเปิดอยู่และมีประชาชนบางส่วนยังแอบเที่ยวหากดำเนินการตรงนี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดได้

ประกาศเคอร์ฟิวสี่ทุ่มถึงตีสี่

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ผ่านรายการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า ในฐานะนายกฯ และผอ.ศบค. รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ด้านการแพทย์ที่สำคัญที่สุดคือการเว้นระยะห่างทางสังคมและอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และสนับสนุนอุปกรณ์แพทย์อย่างเร่งด่วนให้ทันกาลทั่วถึง ซึ่งตนจะติดตามด้วยตนเองเพราะเป็นหน้าด่านต่อสู้ ยืนยันว่ามียาจำเป็นและจัดหาจากต่างประเทศหากมีการลุกลามในอนาคต และมีความพร้อมในเรื่องเตียงสำหรับผู้ป่วย โดยมีหอพัก โรงแรม เข้าร่วม จึงขอให้เชื่อมั่นจะมีเตียงและยารักษาตามมาตรฐานสากล 

ทั้งนี้เรามีเป้าหมายสำคัญในการจำกัดการเดินทางและการรวมตัวกัน ซึ่งปัจุบันบางจังหวัดยกระดับทางปกครองไปแล้ว ทั้งเวลาปิดเปิดร้านค้าและขอความร่วมมือห้ามออกจากบ้านเป็นเวลา ซึ่งเราทุกคนต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดฝ่าวิกฤติลดการระบาดและการสัญจร ดังนั้นจะประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสี่ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้นการขนส่งสินค้าจำเป็น ผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ โดยจะเริ่มในวันที่ 3 เมษายน ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกและกักตุนสินค้า

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในด้านการควบคุมสินค้าได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการหน้ากากให้กับประชาชน รวมทั้งสินค้าจำเป็น จะไม่ยอมให้ผู้ใดซ้ำเติมประชาชนในยามยากลำบากนี้ ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนหาต้นทางจับผู้กระทำผิดหลายรายซึ่งต้องรับโทษรุนแรง และรัฐบาลได้เยียวยาผลกระทบเศรษฐกิิจด้วยมาตรการต่อเนื่องสำหรบประชาชนทุกกลุ่มและผู้ประกอบการเพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าเราไม่ทิ้งกัน นอกจากนี้ยกระดับคัดกรองผู้ที่เข้าประเทศไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเข้ามาอีก และประสานคนไทยในต่างประเทศที่เราไม่ทิ้งกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้ชะลอจนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ ทั้งนี้ท่ามกลางวิกฤติขอให้ประชาชนเคร่งครัดในมาตรการต่างๆ ช่วยลดระดับการระบาดซึ่งเป็นเป้าหมายของเราให้เร็วที่สุด เราต้องช่วยกันและทุกคนมีส่วนช่วยให้ตัวเลขผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อลดลง ขอให้ประชาชนร่วมมือกันประเทศไทยจะชนะศึกครั้งนี้ได้แน่ ขอให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน ประเทศไทยต้องชนะ

ชะลอเข้าประเทศถึง15เม.ย.

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงว่า วันนี้ในกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 104 ราย พบว่ากลุ่มแรกมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วย 60 ราย กลุ่มสองจำนวน 36 ราย มีประวัติเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ สัมผัสผู้ป่วย อยู่ในพื้นที่แออัด และเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งในกลุ่มที่สองนี้นายกฯ ให้ความสำคัญมาก เพราะเชื่อมโยงกับการเดินทางมาจากต่างประเทศ ดังนั้นที่ประชุมศบค.จึงมีมติให้ชะลอการเดินทางของคนไทยและคนต่างชาติที่จะเข้าประเทศตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ ยกเว้นกลุ่มคนที่ขออนุญาตไว้ก่อนแล้ว เพราะเสี่ยงที่จะทำให้คนในชาติติดเชื้อจึงเป็นบทเรียนเอามาปรับใช้ โดยกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จะทำข้อมูลเพื่อไปแจ้งต่อประชาชน

ส่วนคนที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางกลับให้ติดต่อสถานทูตนั้นๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเข้มงวดที่สุด และในส่วนนักเรียนไทยในมูลนิธิการศึกษาและวัฒนธรรมสัมพันธ์ไทย-นานาชาติ (เอเอฟเอส) นายกฯ มีความห่วงใยคนไทยทุกคนในต่างประเทศ ซึ่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศยังสามารถติดตามได้ทุกคน หากมีอะไรให้ผู้ปกครองติดต่อ กต. หรือหากนักเรียนมีความสงสัยว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรให้ติดต่อสถานกงสุลในแต่ละเมือง เราขอให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นค่อยเดินทางมา ขอให้ทุกคนอยู่ในที่ตั้งอยู่กับที่ปลอดภัยที่สุด

สถิติการเดินทางจากต่างประเทศเข้าไทยมีการพบผู้ติดเชื้อ เช่น คนไทยไปประชุมที่อิตาลี จำนวน 6 คนติดเชื้อ 4 คน ต้องใช้กำลังคนในการเฝ้าดูแลติดตามในกลุ่มเสี่ยงและขบวนการต่างๆ 50 คน หรือพิธีศาสนกิจที่มาเลเซีย จำนวน 132 คน ติดเชื้อ 47 คน เสียชีวิต 4 ราย ใช้กำลังคนกว่า 1 พันคนจัดการดูแลต่างๆ และกรณีผู้เดินทางกลับจากอังกฤษ ติดเชื้อ 4 คน เสียชีวิต 1 รายเป็นนักธุรกิจ ทั้งนี้มีการปกปิดอาการ และกรณีผู้เดินทางจากกัมพูชาเชื่อมโยงด่านปอยเปต ติดเชื้อ 19 คน ซึ่งต้องใช้กำลังกว่า 300 คนในการจัดการ ตรงนี้เป็นภาระที่หนักมาก

สัญจรวันธรรมดาไม่น่าพอใจ

โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูล มาตรการ แก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ระบุว่า จากการสำรวจการเดินทางของประชาชนในวันธรรมดาลดลง 20-30% ซึ่งไม่น่าพอใจ จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ให้พิจารณาปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ลูกจ้างลดการเดินทาง หรือลดความแออัด เพิ่มระยะห่าง ถ้ายังเปิดโรงงานและสถานประกอบการอยู่แน่นอนว่าจะมีความเสี่ยงที่ท่านต้องจัดการ นอกจากนี้นายกฯ ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมมือกันดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งบางพื้นที่ยังมีการเล่นการพนัน จึงต้องจับให้ได้ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง คนทำไม่ดีต้องถูกลงโทษ และกรณี อสม.ไปขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามข้อบังคับอาจได้ความร่วมมือระดับหนึ่ง ถ้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ไปร่วมกับ อสม.ด้วย จะได้ความร่วมมือมากขึ้น เพื่อไปเตือนคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และให้เกิดการบังคับใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่ออย่างเข้มข้น

เมื่อถามว่า จะมีการเพิ่มมาตรการอย่างไรหลังมีผู้เสียชีวิตที่มาจากปากีสถานซึ่งผ่านมาตรการคัดกรองที่สนามบิน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเดินทางก็ต้องขออนุญาตตามขั้นตอน คือกักตัวที่ประเทศต้นทาง 14 วัน มีใบรับรองแพทย์ ก่อนขึ้นเครื่องต้องตรวจอุณหภูมิ หลังลงเครื่องก็ต้องคัดกรองที่สนามบินอีก เราทำมาตลอดแต่มีข้อหละหลวมมากมาย เช่น การกักตัวที่ประเทศต้นทางก็ยากจะดูแล ระหว่างทางมีการกินยาลดไข้ จึงเป็นที่มาของมาตรการชะลอหรือหยุดการเข้ามาประเทศไทย ซึ่งกระทรวงต่างประเทศจะทำมาตรการให้เข้มข้นขึ้นมาอีกเพื่อลดการเจ็บป่วยและการสูญเสีย

สั่งอุปกรณ์ให้แพทย์ใช้เพียงพอ

ต่อข้อถามมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ ทางรัฐมีการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างไรบ้าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีการพูดกันในที่ประชุมนานพอสมควร ซึ่งนายกฯ มีความห่วงใยเพราะจากที่มีการเผยแพร่ภาพนายแพทย์สวมใส่ชุดกันฝนแทนชุดป้องกันติดเชื้อ จึงสั่งการให้คาดการณ์ปริมาณไว้เลยว่าจะต้องใช้เท่าไร ให้สมมุติตัวเลขขึ้นมาจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยนายกฯ ได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาหน้ากาก N95 จำนวน 6 หมื่นชิ้นต่อวัน แต่ขณะนี้หน้ากากดังกล่าวเป็นที่ต้องการของทั่วโลก การสั่งซื้อก็ส่งมาให้ไม่เพียงพอตามที่มีการตกลงกันไว้ ส่วนจีนที่เราสั่งซื้อไป 2 ล้านชิ้น ก็ผลิตไม่ทัน เพียงแต่ส่งมาบ้างบางส่วน ดังนั้น ที่เราตั้งงบประมาณไว้ 6 หมื่นชิ้นต่อวันจะทำให้ดีที่สุด และจากเดิมที่จะใช้ครั้งเดียวนั้น ตอนนี้กำลังคิดวิธีนำมาใช้ซ้ำให้ได้ 3 ครั้งด้วยวิธีทำความสะอาด อยู่ระหว่างการพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญ สำหรับยาที่ต้องใช้รักษาสต็อกไว้ 5 หมื่นเม็ด สั่งญี่ปุ่น 4 หมื่นเม็ด และวันที่ 12 เมษายน จะรับจากจีนอีก 1 แสนเม็ด

ด้านนายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษก กต. กล่าวว่า การชะลอการเดินทางเข้าประเทศเป็นการจับมือร่วมกันเพื่อชะลอการแพร่ระบาดจากคนที่เดินทางเข้ามา ส่วนเรื่องนักเรียนเอเอฟเอส กต.จะประสานกับเอเอฟเอสให้มีการเดินทางอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

ชงครม.บรรจุเพิ่มด่านหน้าสู้ศึก

มีรายงานเปิดเผยว่าในการประชุมครม.นัดพิเศษ วันที่ 3 เมษายนนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขจะเสนอวาระขอบรรจุข้าราชการเพิ่มเติมที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 45,242 ตำแหน่ง เช่น พยาบาลที่ยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชราชและนักวิชาการสาธารณสุข หรือหมออนามัย ที่ทำงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของระบบสาธารณสุขไทยในการควบคุมโรคต่างจังหวัดและพื้นที่ชนบทและเป็นกำลังสำคัญในการทำระบบกักตัวโดยรัฐ หรือ State Quarantineนอกจากนี้จะมีการเสนอให้มีการปรับปรุงสวัสดิการให้แก่บุคลากรทางการแพทย์​เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์​ทำงานหนักมาก เปรียบเหมือนทหารในสงคราม แต่ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองตัวเองที่ดีพอ

ยกเว้นเคอร์ฟิวบางกลุ่มอาชีพ

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประกาศเคอร์ฟิวแล้วจะมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องปฏิบัติงานในช่วงเคอร์ฟิว เช่น พนักงานส่งของ พนักงานขนส่งหนังสือพิมพ์ ถ้าเป็นรถขนส่งหนังสือพิมพ์จะต้องมีใบรับรองจากบรรณาธิการระบุว่าชื่ออะไร หน่วยงานไหน ทำหน้าที่อะไร กรอบเวลาการทำงานว่าทำวันไหนถึงวันไหนและข้อมูลต้องตรงกับบัตรประชาชนที่เขาถือนอกจากนี้ยังยกเว้นผู้ที่ทำงานเป็นกะ ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน ข้าราชการ พนักงานโรงงาน แต่จะต้องมีใบรับรองจากบริษัทถึงความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน และขอแนะนำให้ทำสำเนาไว้มากกว่า 1 ชุด เผื่อเจอเจ้าหน้าที่ขอยึดใบรับรองนั้นไว้ จะได้เหลือใบรับรองไว้ใช้แสดงตนต่อไป

อย่างไรก็ตาม เราเห็นถึงความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เลยมีการยกเว้นตามที่กล่าวมา แต่สำหรับคนที่ไม่มีความจำเป็นจะถือว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดและจะมีโทษ

กต.ประสานนักท่องเที่ยวกลับประเทศ

วันเดียวกัน เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความระบุว่า เช้าวันนี้ได้มอบหมายให้นายโกสินทร์ ผลมั่ง หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทาง จ.ภูเก็ต ไปปฏิบัติภารกิจและประสานงานกับกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำ จ.ภูเก็ต และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย ในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันและยุโรปรวม 223 คนเพื่อกลับประเทศ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทั้งหมดได้ออกเดินทางไปยังนครแฟรงก์เฟิร์ตแล้ว และฝ่ายไทยได้ดำเนินมาตรการคัดกรองผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวอย่างรัดกุม อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนเข้าอาคารท่าอากาศยานระหว่างประเทศ จ.ภูเก็ต

ยื่นป.ป.ช.สอบนำเข้าชุดตรวจ

ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย(ภท.) และนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการประเมินชุดตรวจอย่างง่าย (Rapid Test) สำหรับโควิด-19 ที่มีข้อกล่าวหาเรื่องมาตรฐานการประเมินจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

นายศุภชัย กล่าวว่า หลังจากที่ผู้อนุมัติให้นำเข้าได้แถลงว่าชุดตรวจที่นำเข้าเป็นชุดเดียวกับที่สเปนและสหภาพยุโรป(อียู) ตรวจพบว่าการแปรผลมีปัญหา และได้ยกเลิกการนำเข้าชุดตรวจดังกล่าว ตนในฐานะ ส.ส.เห็นว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรเมื่อกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้อนุมัติก็ต้องมีหลักทางวิทยาศาสตร์ หรือหลักทางการแพทย์ที่ชัดเจนในการตรวจสอบ ก่อนที่จะอนุมัติสิ่งเหล่านี้ให้เข้ามาเพื่อการใช้ตรวจสอบได้ ทั้งนี้เมื่อมีการตรวจสอบจากข่าวพบว่าประธานคณะกรรมการที่อนุมัติการนำเข้าระบุว่า การอนุมัติใช้วิธีการตรวจสอบทางเอกสาร ทำให้รู้สึกน่าตกใจทั้งที่เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้อนุมัติควรจะต้องมีหลักที่ชัดเจนหรือมีความไม่ชอบมาพากลที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 

“มีเรื่องการกล่าวหามากมาย จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการทุจริต มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เกิดผลกระทบและความเสียหายหรืออย่างไร จากข่าวที่ออกมายังพบว่ามีบางบริษัทเป็นของนักการเมือง จึงต้องการให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบให้ชัด มีผู้ที่สั่งการซึ่งใหญ่กว่าข้าราชการเป็นผู้สั่งหรือไม่ ยังพบว่า 1 ใน 2 บริษัทได้มีการยกเลิกขอนำเข้าชุดตรวจดังกล่าวไปเอง ก่อนที่คณะกรรมการจะมีคำสั่งยกเลิก และการที่คณะกรรมการสั่งยกเลิกหลังอนุญาตเพียง 4 วัน แปลว่ามันมีความไม่ชอบมาพากล” นายศุภชัยกล่าว

“บุรีรัมย์-สตูล”ปิดเมืองอยู่บ้าน

วันเดียวกัน นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้ลงนามคำสั่งเรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออกข้ามเขตพื้นที่ จ.สตูล เว้นแต่เพื่อรักษาพยาบาลการขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพและยานพาหนะของทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 3-30 เมษายน

ขณะเดียวกัน เฟชบุ๊ก BURIRAM UNITED ได้โพสต์หนังสือประกาศของนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง มาตรการปิดบ้าน เพื่อหยุดการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยมีข้อความว่า “วันที่ 2-30 เมษายน มาตรการปิดบ้าน จับจริง กักจริง กักทั้งครอบครัว ถ้าไม่อยากให้พ่อแม่หรือคนที่คุณรักถูกกักตัว กรุณาเก็บตัวอยู่ที่เดิม อย่ามาบุรีรัมย์”

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ