ข่าว

สัตวแพทย์จุฬาฯ แนะลดเสี่ยง โควิด-19 กักเฝ้าระวังอาการ 14 วัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ควรหลีกเลี่ยงพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน เจ้าของกลุ่มเสี่ยงห้ามเล่น - ใกล้ชิด หากสัตว์เลี้ยงต้องสงสัยสัมผัสไวรัสโรคโควิด-19 ให้ขังไว้ พบความผิดปกติเกิดขึ้นปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

 

               31 มีนาคม 2563  จากข่าวการพบเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ในสุนัขที่ฮ่องกงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ และล่าสุดพบในแมวที่ประเทศเบลเยียมเมื่อ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้คนรักสัตว์เริ่มวิตกกังวลว่าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 และอาจเป็นพาหะนำเชื้อสู่คนได้

อ่านข่าว - ราชกิจจาฯ ประกาศ กฎกระทรวง ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร

 

 

 

               ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น อนุมานได้ว่าเจ้าของที่ป่วยจากโรคโควิด-19 ไปมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงของตนเอง เมื่อมีการสัมผัสปริมาณไวรัสในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีไวรัสบางส่วนเล็ดลอดเข้าไปเกาะติดกับเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจหรือทางเดินอาหารของสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ในสัตว์ดังกล่าวอาจมีตัวรับ (receptors) บางตำแหน่งที่เอื้อให้ไวรัสมาเกาะติดได้

               “ข้อมูลในปัจจุบันสุนัขไม่แสดงอาการป่วยแต่อย่างใด แต่พบปริมาณไวรัสในระดับต่ำ และพบการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในสุนัขดังกล่าว ส่วนในแมวมีอาการป่วยทั้งระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งตรวจพบไวรัสก่อโรคในอาเจียนและในมูลแมว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 จากสัตว์เลี้ยงสู่มนุษย์” ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ กล่าว

 

 

 

               จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 ในขณะนี้ การรณรงค์ลดความเสี่ยงของการติดโรคในสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ได้แนะข้อปฏิบัติสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง ควรหลีกเลี่ยงพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน หากสัตว์เลี้ยงหลุดออกนอกบ้าน การอาบน้ำสามารถลดการปนเปื้อนตามตัวสัตว์ได้ หากท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยง สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสโรคควรกักไว้ในกรงที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน โดยใช้ข้อปฏิบัติเช่นเดียวกับในคนกลุ่มเสี่ยง หากสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงสัมผัสโรคหรือมีอาการที่เข้าข่ายของโรค ให้โทรศัพท์สอบถามสัตวแพทย์ ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงมาโรงพยาบาลสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงที่สัมผัสโรคเสียชีวิต ให้แจ้งสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ในท้องที่

 

 

 

               สำหรับเจ้าของฟาร์มสัตว์เลี้ยงควรมีมาตรการคัดกรองพนักงานที่ปฏิบัติงานในฟาร์ม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องสัมผัสกับสัตว์อย่างเข้มงวดตามมาตรการของกรมปศุสัตว์ พนักงานที่มีความเสี่ยงควรหยุดพักงานตามระเบียบ พนักงานที่ปฏิบัติงานในฟาร์มต้องมีการอาบน้ำ ฆ่าเชื้อ และเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้าฟาร์มทุกครั้งตามมาตรฐานฟาร์ม ควรสวมใส่หน้ากากผ้าและถุงมือหากต้องสัมผัสสัตว์ หากพบอัตราการป่วย อัตราการตายที่ผิดปกติ ให้แจ้งสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มโดยด่วน

               รศ.สพ.ญ.ดร.รสมา ภู่สุนทรธรรม ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายว่า สัตว์เลี้ยงหลายชนิดสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ โดยเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ก่อให้เกิดโรคในสัตว์เลี้ยงปัจจุบัน จะมีความจำเพาะของเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคเฉพาะในสุนัขและแมวเท่านั้น เชื้อดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดโรคในคน จนถึงปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข หรือแมว สามารถแพร่โรคโควิด-19 สู่คน ในทางตรงข้าม การติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงทั้งหมดเกิดจากการแพร่เชื้อไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19 จากผู้ป่วยสู่สัตว์เลี้ยงทั้งสิ้น

 

 

 

               “ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรดูแลเรื่องความสะอาดและสุขลักษณะ โดยล้างมือก่อนและหลังให้อาหารและน้ำ เวลาจับอุปกรณ์หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงควรล้างมือทุกครั้ง ทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารและน้ำ ตลอดจนบริเวณที่เลี้ยงสัตว์เป็นประจำ เมื่อพบความผิดปกติเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงต้องปรึกษาสัตวแพทย์ทันทีเพื่อรับคำแนะนำ ขอย้ำว่า ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงที่สงสัยว่าสัมผัสโรคโควิด-19 มาพบสัตวแพทย์ที่โรงพยาบาลสัตว์ แต่ให้ขังไว้ในกรงเพื่อเฝ้าระวังอาการเท่านั้น นอกจากนี้ หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงสงสัยหรือมีอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ต้องห้ามเล่น สัมผัส หรือใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง กักตัวอยู่แต่ในบ้าน และกักบริเวณสัตว์เลี้ยงไม่ให้ออกนอกบ้าน ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ก่อโรคจากคนสู่สัตว์เลี้ยงแสนรักของท่านได้เป็นอย่างดี” สพ.ญ.ดร.รสมา กล่าวในที่สุด

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ