ข่าว

"บิ๊กตู่"ขู่ปิดระบบขนส่งหากสถานการณ์โควิดไม่ดีขึ้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" ขู่ "ปิดระบบขนส่งมวลชน" หากสถานการณ์ระบาดไม่ดีขึ้น พร้อมประเมินผลใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินยกระดับมาตรการเข้มขึ้น ตั้ง "บิ๊กป๊อก" คุมปราบกักตุนสินค้า ผู้ว่าฯนนท์งัดยาแรงเคอร์ฟิวห้าทุ่มถึงตีห้า

สถานการณ์ระบาดไวรัส โควิด-19 แม้ภาครัฐออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น นายกฯเตรียมยกระดับมาตรการเข้มขึ้นอีก 

อ่านข่าว "หมอมนูญ" เตือน ร้องเพลง-ตะโกน คนอยู่ใกล้เสี่ยงติดโควิด

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการสกัดการระบาดโควิด-19 ว่าในส่วนของการปรับมาตรการต่างๆ เหล่านี้ได้ให้กระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบตามกฎหมายและกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีอำนาจในการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นการห้ามประชาชนเข้าออกในพื้นที่หรือจังหวัดที่มีตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น แม้แต่ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดมาล่วงหน้า

 

 

 

 

รวมถึงการปิดในหลายสถานที่ด้วยกัน ห้ามขายสุรา ห้ามเล่นกีฬาและเด็ดขาดในเรื่องของการพนัน ที่จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะหนีไปเล่นที่ไหนก็ตาม โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจและทหาร มีการตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้อย่างเต็มที่

สำหรับปัญหาสินค้าที่อาจจะมีราคาสูงขึ้นในช่วงนี้เนื่องจากมีหลายร้านค้าและหลายผู้ประกอบการฉวยโอกาส เรื่องนี้ได้สั่งการไปแล้วและขอให้ประชาชนแจ้งมาได้โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำงานตามด่านจุดตรวจจุดสกัดทั้งหมดก็สามารถรับเรื่องร้องเรียนได้และเข้าตรวจสอบได้ในทันทีเพราะมีอำนาจทางกฎหมายตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมไปถึงเรื่องหนี้นอกระบบที่กำลังแพร่หลายมากขึ้น โดยมองได้ว่าประชาชนมีความเดือดร้อนมากจึงมีการปล่อยกู้ดังนั้นต้องทำทีละขั้นทีละตอน โดยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจสกัดทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ให้รับเรื่องมาจากนั้นจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบและดำเนินคดี อย่างไรก็ตามอยากขอร้องว่าในช่วงนี้ยังไม่ให้มีการผ่อนชำระหรือให้เสียดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด ไม่เช่นนั้นต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกประการอย่างไม่ละเว้น

ส่วนการเดินทางออกนอกจังหวัดหรือนอกเขตแม้กระทั่งกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้หลายคนก็เป็นห่วงอยากให้มีการสั่งหยุดหรือปิดไปเลยแต่สิ่งเหล่านี้เราต้องดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลายอย่างด้วย โดยเฉพาะในเรื่องการจับจ่ายและซื้อสินค้า ดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวังตัวเองด้วย ขณะเดียวกันรัฐบาลเน้นย้ำในเรื่องให้บริการแกร็ปหรือไลน์แมนต่างๆ ที่ต้องมีการตรวจสอบเชื้อไวรัสจากผู้ให้บริการเหล่านี้ด้วยและอย่าไปแออัดที่ร้านค้าก่อนจะรับของไปส่งเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้บริโภคดังนั้นทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเองและรับผิดชอบผู้อื่นเสมอ

“ในส่วนของการเดินทางวันนี้ได้ให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาในกรณีหากยังมีการเคลื่อนย้ายจำนวนมากอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเราเข้าใจถึงความสะดวกแต่บางคนก็ไม่จำเป็นที่ต้องเดินทาง ดังนั้นให้ไปดูว่าการให้บริการขนส่งต่างๆ ของภาครัฐจะทำอย่างไร จำเป็นต้องลดจำนวนเที่ยวลงหรือไม่ในการให้บริการ ซึ่งหากยังไม่เรียบร้อยหรือยังไม่สามารถควบคุมได้ก็อาจต้องเจอสถานการณ์การลดการให้บริการทั้งหมด ไม่ว่าจะรถไฟฟ้า รถไฟ รถโดยสาร และรถเมล์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องลดเที่ยวในการบริการลงจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย แต่หากยังไม่เรียบร้อยอีกก็คงต้องหยุดการให้บริการทั้งหมดเพื่อลดการเคลื่อนย้ายไปมาและลดการแพร่เชื้อ” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า มีการประเมินผลการทำงานทุกสัปดาห์อยู่แล้วในการประชุม ครม. หรือการประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องรวมถึง ศบค. ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำตรงนี้อยู่แล้ว โดยมีการทบทวนทุกสัปดาห์ในส่วนของมาตรการ ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อำนาจตามกฎหมายจะใช้ได้ 3 เดือน แต่วันนี้ให้ประเมิน 1 เดือนแรกก่อนถ้าจำเป็นก็ต่อไปเดือนที่ 2 เดือนที่ 3 โดยมาตรการจะต้องเข้มข้นขึ้นตามลำดับ ดังนั้นยังไม่มีแนวโน้มจะยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินเว้นแต่ให้ไปพิจารณาว่าอะไรทำแล้วได้ผลและดีขึ้นซึ่งอาจจะมีผ่อนผันอะไรก็ว่ากันไปแต่หากไม่ดีขึ้นก็จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

เร่งหน้ากาก-อุปกรณ์นำเข้า

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมแต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ตามพ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ขึ้นใหม่ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธาน นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดทำหนังสือรวบรวมมาตรการในการป้องกันรักษาและบริหารจัดการสถานการณ์พร้อมสั่งการให้กรมศุลกากรยกเว้นภาษีอากรนำเข้าหน้ากากอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ชุดตรวจหาไวรัสและยาเวชภัณฑ์และสั่งการให้ สธ.เร่งกระบวนการตรวจเพื่อรับรองมาตรฐานภายใน 1 วัน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ใช้เวลาภายใน 4 วันรวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดในการคุมราคาสินค้าไข่ไก่และงดการส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศในระยะนี้

ส่วนด้านการเดินทางสัญจรทางนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพภาคที่ 4 กระทรวงมหาดไทย ปิดการเดินทางเข้าออก จ.ภูเก็ต ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศรวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อควบคุมสถานการณ์นอกจากนี้ยังสั่งการให้เฝ้าระวังกิจกรรมที่มีลักษณะการรวมกลุ่มทุกกิจกรรมโดยมอบหมายให้ กสทช. เข้มงวดในการออกอากาศรายการมวยทางโทรทัศน์สั่งการให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติเข้มงวดในการควบคุมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยรวมทั้งให้จับกุ่มลักลอบเล่นพนันสังสรรค์ผิดกฎหมายและฝ่าฝืนแข่งรถ

นอกจากนี้กำชับแผนการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยต่อวันในช่วง 5 วันนี้ เป็นการชั่วคราวจากจำนวนการผลิตที่กระทรวงพาณิชย์จัดหาได้ 2.3 ล้านชิ้นต่อวันให้จัดสรรให้กระทรวงมหาดไทย 8 แสนชิ้นและกระทรวงสาธารณสุข 1.5 ล้านชิ้นทั้งนี้หากประชาชนชาวไทยที่เดินกลับจากต่างประเทศต้องกักกันตัวตามมาตรการเฝ้าระวัง 14 วัน และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับประเทศต่างๆ หากมีความประสงค์จะจัดเครื่องบินเพื่อมารับพลเมืองของตนเองออกนอกประเทศ

มท.1ปูพรมปราบกักตุนสินค้า

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่าเริ่มมีการกักตุนสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่ทุกจังหวัดจึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์อย่างเข้มงวด โดยกระทรวงมหาดไทยจึงได้นำเสนอร่างพ.ร.ฎ.กำหนดท้องที่เขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ให้เขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นท้องที่เขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ได้ขอมติ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ขึ้นใหม่ โดยมี รมว.มหาดไทย เป็นประธาน ทั้งนี้เมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายสามารถปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อป้องกันปราบปรามการกักตุนสินค้าที่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประเภทอำนวยการระดับสูง และอำนวยการระดับต้น (นายอำเภอ) จำนวน 8 คำสั่ง รวมทั้งสิ้น 522 ตำแหน่ง โดยมีกำหนดเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ในวันที่ 7 เมษายนนี้ โดยไม่มีนโยบายให้ข้าราชการเลื่อนการเดินทางแต่อย่างใดและห้ามมิให้ข้าราชการผู้ได้รับการแต่งตั้งจัดงานรื่นเริงเลี้ยงรับ-เลี้ยงส่ง รวมถึงการรวมตัวของประชาชนเพื่อร่วมแสดงความยินดีหรือเพื่อการเดินทางในทุกกรณี ตามมาตรการของภาครัฐในการป้องกันไวรัสระบาด

วันเดียวกัน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ว่าจากมติ ครม.ให้เลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 จากวันที่ 13 ถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ออกไปก่อน โดยไม่เป็นวันหยุดราชการและวันหยุดเอกชนจึงไม่มีความจำเป็นและไม่มีความเหมาะสมในการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปีนี้

มั่นคงจ่อแผนพิทักษ์มาตุภูมิ

มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกเพื่อรับทราบสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องติดสถานการณ์ ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติโดยใช้แผนพิทักษ์มาตุภูมิ ทั้งนี้นายกฯ เห็นความสำคัญของประชาชนในพื้นที่และหลีกเลี่ยงมาตรการจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่หาเช้ากินค่ำเนื่องจากบางกลุ่มต้องการให้รัฐบาลใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อให้ปัญหาคลี่คลายโดยเร็ว แต่ปัญหาที่ตามมาคือประชาชนที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนมากจึงปรับเปลี่ยนมาตรการมารองรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมกันนี้ให้ผู้บังคับหน่วยลงพื้นที่สำรวจที่พัก โรงแรมว่าสามารถดัดแปลงเพื่อเป็นโรงพยาบาลในการกักตัวผู้ป่วยจำนวน 14 วันได้หรือไม่ หากได้ก็ขอให้สนับสนุนการปรับปรุงโดยใช้แนวทาง จ.ชลบุรี เป็นโมเดลโดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและภาคีในพื้นที่เพื่อระดมทุนเป็นค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่ถูกกักตัวอยู่ที่บ้านรวมถึง อสม.ที่ทำหน้าที่ดูแล

สำหรับแผนพิทักษ์มาตุภูมิจะใช้กำลังประจำถิ่น อาทิ  กำนัน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ตำรวจและทหาร ใช้ส่วนรวมในการตรวจคัดกรอง

กทม.ช่องโหว่เลี่ยงด่านตรวจ

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการปฏิบัติงานบริเวณจุดตั้งด่านตรวจถนนยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ด่านดอนเมือง 1 เขตดอนเมืองและบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ เพื่อติดตามการปฏิบัติงาน โดย พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า กทม.ได้ตั้งด่านตรวจคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ บนถนนสายหลัก 12 จุด และสถานีขนส่งอีก 3 แห่งตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม เป็นต้นมาตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อคัดกรองและจดบันทึกประวัติบุคคลที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ นอกจากนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปสำรวจเส้นทางเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มเติมเพื่ออุดช่องโหว่หลีกเลี่ยงด่านตรวจด้วย ทั้งนี้ กทม.ขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางออกนอกบ้านและงดเดินทางข้ามจังหวัด ในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อร่วมกันป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด

ด้าน นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผอ.สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ในวันที่ 1 เมษายน จะประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อของกทม.ซึ่งจะนำประเด็นจากที่รัฐบาลได้ประกาศไปและรายละเอียดที่กทม.พิจารณาแล้วว่าควรมีสถานที่ที่ต้องปิดเพิ่มเติมเพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดมาพิจารณาเพื่อเสนอผู้ว่าฯ กทม.ออกประกาศเพิ่มเติมต่อไป

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ลงนามประกาศจังหวัดนนทบุรี ฉบับที่ 2 ขอความร่วมมือประชาชนหลังจากยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยให้งดการออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00-05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้นการขนส่งสินค้าหรือจำเป็นเร่งด่วน

เตือนเอพิลฟูลเดย์ป่วนโควิด

วันเดียวกัน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชมโซเชียลมีเดียหรือเพจต่างๆ ซึ่ง เพจ “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ที่แจ้งล่วงหน้าว่าตอนนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน พรุ่งนี้วันที่ 1 เมษายน เป็นวัน April Fool's Day หรือวันโกหก แต่อย่ามาทำโกหกเรื่องไวรัสโควิด-19 เช่น โกหกว่าป่วยติดเชื้อ จึงขอบคุณเพจ “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ที่เตือนว่าอย่าเอาเรื่องนี้มาโพสต์เล่นๆ และเตือนด้วยว่าคุกแน่นอน

ขณะที่นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กเตือนประชาชน วันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางสากลถือเป็น “วันโกหก” เมื่อถึง “วันโกหก” ที่ไม่ขำ เสี่ยงมีโทษหนัก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามแชร์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 จำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท ในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี โดยผู้คนจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน มุกตลกและคนที่ถูกหลอกจะเรียกว่าเป็น “คนโง่เดือนเมษา” ตามสำนักพิมพ์หรือสื่อต่างๆ อาจรายงานเรื่องหลอกลวงในวันที่ 1 เมษายน และออกมาเฉลยในวันต่อมา เป็นเรื่องที่ต่างประเทศเขาทำกัน ประเทศไทยทำไม่ได้นะครับ อย่าเผยแพร่ อย่าแชร์ข่าวลวง ข่าวเท็จ ผิดกฎหมายโทษหนัก เตือนกันด้วยความ "ห่วงใย”

 

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ