อาลีบาบาเปิดโหลดคู่มือสู้โควิด-19 ภาษาไทย

31 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  มูลนิธิแจ็ค หม่า และมูลนิธิอาลีบาบา ได้เปิดให้ดาวน์โหลดคู่มือป้องกันการแพร่ระบาดและการรักษาโควิด-19 (The COVID-19 Prevention and Treatment Handbook) ฉบับภาษาไทยแล้ว  

อ่านข่าว  สุดยอดบริษัททัวร์...ปรับวิกฤติเป็นโอกาส...ไม่เคยก็ต้องทำ

พิษโควิด"ประมง"อ่วมส่งออกลดฮวบ 

โดยคู่มือนี้เขียนโดยแพทย์จากโรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง สาขาที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ในแนวหน้าของการรักษาโรคระบาดในจีน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากประสบการณ์ทำงานในโรงพยาบาลเพื่อต่อสู้กับไวรัส คู่มือนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและรายละเอียดเชิงลึกที่มีคุณค่าแก่บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลทั่วโลก โดยคู่มือต้นฉบับที่เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษมียอดดาวน์โหลดแล้วมากกว่า 1.4 ล้านครั้ง ภายในห้าวันแรกหลังจากเปิดตัว   

แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวในการเปิดตัวคู่มือนี้ว่า “หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้แพทย์และพยาบาลในพื้นที่ที่มีการระบาด สามารถเรียนรู้วิธีการต่อสู้กับโรคได้จากผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน โดยไม่ต้องเริ่มต้นทุกอย่างเองจากศูนย์” ในช่วงที่เกิดโรคระบาดของไวรัสมากกว่า 50 วันในจีน โรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง สาขาที่หนึ่ง ได้รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 100 ราย โดยทำสถิติไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต ไม่มีการวินิจฉัยที่ผิดพลาด และไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจากการรักษา  

คู่มือนี้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งวิธีการจัดการการกักตัว การตรวจวินิจฉัย มาตรการเชิงรุก และการฟื้นฟูผู้ป่วยโควิด-19 หลังการรักษา อีกทั้งยังเป็นคู่มือทางการแพทย์ฉบับแรกๆ ที่บรรจุคำอธิบายขั้นตอนต่างๆ ไว้อย่างละเอียด การแปลคู่มือฉบับภาษาไทยจัดทำโดยอาสาสมัคร และเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วจากเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นใหม่คือ Global MediXchange for Combating COVID-19

ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มออนไลน์แบบรวมศูนย์ที่ตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการสื่อสารและความร่วมมือข้ามพรมแดนแบบออนไลน์ในการต่อสู้กับไวรัส คู่มือนี้เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วได้ใน 14 ภาษา รวมถึงภาษาไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และจะจัดทำภาษาอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต 

มูลนิธิแจ็ค หม่า และมูลนิธิอาลีบาบา ยังประกาศบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับอีก 7 ประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน ภูฏาน อินเดีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิสถาน และเวียดนาม จากการประกาศประเทศเพิ่มเติมนี้ ทำให้ปัจจุบันทั้งสองมูลนิธิบริจาคสิ่งของให้ประเทศทั้งหมด 23 ประเทศ รวมเป็นสิ่งของที่ทุกประเทศได้รับ คือ หน้ากากอนามัย 7.4 ล้านชิ้น ชุดตรวจโควิด-19 485,000 ชุด ชุดป้องกันการติดเชื้อ 100,000 ชุด และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ อีกมากมาย