ข่าว

ไวรัสลาม"ผู้นำอังกฤษ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนไทยในนิวยอร์กเสียชีวิตจากโควิด อีก 2 ราย คนมะกันติดเชื้อกว่า 8.3 หมื่นรายแซงจีน ส่วนอิตาลีเสียชีวิต 8,215 ราย พุ่งสูงสุดในโลก ญี่ปุ่นยกเลิกฟรีวีซ่าคนไทย-ชาติอื่น

สถานการณ์ระบาดไวรัส โควิด-19 ในต่างประเทศ มีผู้บริหารประเทศติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวมทั้งมีคนไทยในต่างแดนเสียชีวิตด้วย

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม มีรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ว่ามีคนไทยเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในรัฐและนครนิวยอร์กแล้ว 2 คน เป็นชายทั้ง 2 คน โดยรายแรกได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 25 มีนาคม เป็นช่างซ่อมรถยนต์ในเขตควีนส์ของนครนิวยอร์ก ส่วนรายที่สองได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม เป็นพ่อครัวร้านอาหารไทยในเขตแมนฮัตตันตอนเหนือ ทั้งสองรายอายุประมาณ 50 ปี ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ได้แสดงความเสียใจแก่ญาติผู้เสียชีวิตและจะติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือต่างๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ถึงปัจจุบันมีคนไทยในสหรัฐเสียชีวิตจากโควิด-19 รวม 3 ราย โดยก่อนหน้านี้เป็นหญิงไทยที่ถือสองสัญชาติและไปตั้งรกรากอยู่ในสหรัฐ

 

 

 

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 83,836 คน นับตั้งแต่พบผู้ป่วยคนแรกเมื่อวันที่ 21 มกราคม โดยผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 14,995 คน ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ทำให้สหรัฐกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดแซงหน้าประเทศจีนที่มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 81,782 คน และอิตาลี 80,589 คน ขณะที่สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตอยู่ในอันดับ 5 ของโลก จำนวน 1,288 ราย รักษาหาย 681 คน โดยรัฐนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด มีผู้ติดเชื้อจำนวนสูงสุด

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันสถานการณ์ภายในประเทศจะกลับเป็นปกติภายในช่วงเทศกาลอีสเตอร์คือก่อนกลางเดือนหน้า และเตรียมลดระดับแนวทางปฏิบัติเรื่องระยะห่างทางสังคมแต่ผู้ว่าการรัฐหลายรัฐมีท่าทีคัดค้าน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเพิ่มความช่วยเหลือทั้งในด้านบุคลากรและเวชภัณฑ์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แต่อาการไม่รุนแรงและจะยังทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไปขณะกักตัวเอง

รายงานของสำนักข่าวต่างประเทศถึงสถานการณ์ในอิตาลี มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 712 คน ภายในเวลา 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่คืนวันพุธจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศล่าสุดอยู่ที่ 8,215 คนแล้ว ก่อนหน้านี้ สำนักงานป้องกันพลเรือนอิตาลีระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 662 คนในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ข้อมูลของพวกเขาไม่ได้รวมผู้เคราะห์ร้าย 50 คนในแคว้นพีดมอนต์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเข้าไปด้วย

สำนักงานป้องกันพลเรือนอิตาลี ชี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุด แสดงให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันพุธ ที่พบผู้เสียชีวิต 683 คน ซึ่งลดลงจาก 743 คนในวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่วันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของอิตาลีคือวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พบผู้เสียชีวิตถึง 793 รายใน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม อัตราผู้ติดเชื้อใหม่รายวันได้กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากชะลอตัวลงมาตลอด 4 วันที่ผ่านมา โดยเพิ่มจาก 74,386 รายในวันพุธ เป็น 80,539 รายในวันพฤหัสบดี หรือ 6,153 ราย มากที่สุดนับตั้งแต่วันเสาร์

ส่วนสถานการณ์ในจีนที่ตัวเลขการระบาดกลับมารอบใหม่จากคนที่เดินทางเข้าไปในประเทศ ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่า จะปิดพรมแดนไม่ให้ชาวต่างชาติเกือบทั้งหมดเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม เป็นต้นไป แม้ว่าพวกเขาจะถือวีซ่าหรือหนังสืออนุญาตพำนักในถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกต้องก็ตาม เพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ ส่วนนักการทูตและลูกเรือของสายการบินและเรือระหว่างประเทศจะยังคงได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศต่อไป ขณะที่ชาวต่างชาติที่ต้องเดินทางมาประเทศจีนเพราะเหตุจำเป็นต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าใหม่ และผู้ถือวีซ่าจีนที่ออกหลังจากวันที่ 26 มีนาคม จะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ 

ทั้งนี้จีนเป็นประเทศแรกที่มีการระบาดไวรัสและมีผู้ติดเชื้อพุ่งไปถึง 81,700 ราย เสียชีวิตอีกกว่า 3,200 คน แต่ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ในจีนเริ่มดีขึ้นจนไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศแล้ว อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศกลับเพิ่มสูงขึ้นจนรัฐบาลจีนต้องออกมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสกลับมาระบาดอีกครั้ง

นอกจากนี้ มีรายงานคณะแพทย์โรงพยาบาลถงจี้ในเมืองอู่ฮั่นเปิดเผยสื่อของจีนว่า ผลการศึกษากับผู้ป่วยหายแล้ว 147 คน พบว่ามีเพียง 5 คน หรือราวร้อยละ 3 ตรวจพบเชื้อในการตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสอีกครั้ง แต่ไม่พบหลักฐานว่าสามารถแพร่เชื้อได้อีก อ้างอิงจากการสังเกตคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิดและการทดสอบในห้องทดลองปฏิบัติการ

ขณะที่วารสารข่าวไลฟ์ไทมส์ในเครือหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีรายงานว่า สถานกักดูอาการในอู่ฮั่นแจ้งว่าผู้ป่วยหายแล้วร้อยละ 5-10 ตรวจพบเชื้ออีก ทำให้เกิดคำถามว่า การตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสอาจไม่สามารถติดตามร่องรอยไวรัสในผู้ป่วยหายแล้วบางคนได้อย่างแม่นยำ โดยอาจเป็นผลจากชุดตรวจ วิธีการเก็บและการส่งมอบตัวอย่างของผู้ป่วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมจะยกเลิกมาตรการฟรีวีซ่ากับวีซ่าแบบซิงเกิล/มัลติเพิล ที่ให้แก่คนไทยและประเทศอื่นๆ ดังนั้น คนไทยจะไปญี่ปุ่นโดยไม่ขอวีซ่าไม่ได้แล้ว และเมื่อถึงญี่ปุ่นต้องกักตัว 14 วันและห้ามใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในญี่ปุ่น ข้อมูล ณ วันที่ 27 มีนาคม มีผู้ติดเชื้อ 1,361 ราย โดยรวมเป็นผู้ที่กลับมาด้วยเครื่องเช่าเหมาลำ หากรวมผู้ติดเชื้อจากเรือสำราญไดมอนด์ ปริ๊นเซส ที่จอดที่ญี่ปุ่นอีก 712 คน ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 2,073 คน โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อในโตเกียวรวม 259 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 55 ราย

ด้านประเทศเพื่อนบ้านของไทย มีรายงานว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ป้องกันและสกัดกั้นไวรัสโควิด-19 โดยประกาศปิดด่านพรมแดนไทย-กัมพูชา ทุกช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม-30 เมษายน ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 98 คน ทำให้รัฐบาลกัมพูชาเกรงว่าจะแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ จึงได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมการระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนในส่วนตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของไทยด้วย

 

 

 

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุสลดที่ประเทศตุรกีซึ่งมียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 3.5 พันคน เสียชีวิตแล้ว 75 ราย หลังจากประชาชนหลายสิบคนพากันดื่มเอทิลแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เพราะคิดว่าจะช่วยฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และอีกประมาณ 20 คนอาการสาหัส

 

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ