ข่าว

สธ. เตือน มาตรการไม่แรงพอ สิ้นเดือน เม.ย.ติดเชื้อ 3,500

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ. เตือน มาตรการไม่แรงพอ สิ้นเดือน เม.ย.ติดเชื้อ 3,500

 

               ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 111 ราย ยอดสะสมทะลุพัน บุคลากรการแพทย์ติดเชื้อแล้ว 9 ราย สธ.เตือนถ้ามาตรการไม่แรงพอ สิ้นเดือนเม.ย.ติดเชื้อ 3,500 คน ลั่นสงครามยังไม่จบ จี้คนไปสนามมวยเร่งแสดงตัว วอนคนไทยหยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ

 

               กระทรวงสาธารณสุข - วันที่ 26 มี.ค.2563 เวลา 13.00 น. ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อ 457,930 ตาย 20,780 เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 2,700 ราย โดยกระจุกตัวในยุโรป

 

               ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทย มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 111.ราย ยอดรวมสะสม 1045 ราย ป่วยหนัก 4 ราย รักษาตัวใน รพ. 953 ราย ตาย 4 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 88 ราย โดยแบ่งผู้ติดเชื้อที่พบในวันนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 29 ราย มาจากสนามมวย 6 ราย สถานบันเทิง 3 ราย สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาก่อนหน้านี้ 19 ราย และเดินทางไปประกอบศาสนกิจในประเทศมาเลยเซีย 1 ราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ปัตตานี

 

               กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 19 ราย เดินทางจากต่างประเทศ คนไทย 5 ราย ต่างชาติ 1 ราย เป็นสหรัฐอเมริกา อาศัยหรือทำงานอยู่ในสถานที่แออัด 9 ราย สถานบันเทิง ขับรถสาธารณะ พนักงานร้านนวด บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย รวมแพทย์ติดเชื้อ 9 ราย และผู้ป่วยที่เป็นปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย กลุ่มที่ 3  ผู้ที่แพทย์พบเชื้อซึ่งต้องรอสอบประวัติและแต่ต้องรอสอบสวนโรคจำนวน 63 ราย

 

"ถ้ามาตรการไม่แรงพอ 30 เม.ย. ติดเชื้อ 3,500 ราย"

 

               "จุดเปลี่ยนของเราคือ หลังวันที่ 15 มี.ค.จากจำนวนผู้ติดเชื้อหลักสิบเพิ่มเป็นหลักร้อย จากเหตุสถานบันเทิง สนามมวย และการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาของคนไทย 132 คน ในประเทศมาเลเซีย ทั้ง 3 กรณีทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันคงตัวอยู่ที่หลักร้อย หากมาตรการของเราไม่แรงพอ ยังปล่อยให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละหลักร้อย ประมาณการณ์ว่า ณ วันที่ 30 เม.ย.นี้ เราจะมีผู้ป่วยติดเชื้อ 3,500 คน ดังนั้น พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ประกาศออกมาเพื่อช่วยหน่วงสถานการณ์ และหวังว่าผู้ป่วยในไทยคงไปไม่ถึง 3,500 คน "นพ.อนุพงศ์กล่าว


"สงครามยังไม่จบ เรียกร้องคนไปสนามมวยแสดงตัว"

 

               นพ.อนุพงศ์ กล่าวอีกว่า กรณีสนามมวยทำให้พบผู้ติดเชื้อในกทม.และต่างจังหวัด 160 ราย จากการสอบสวนโรคพบกิจกรรมในสนามมวยตั้งแต่วันที่. 1,5,6,7 มี.ค. และมีการปิดสนามมวยในวันที่ 15 มี.ค. คนติดเชื้อมีทั้งวัยรุ่น กลางคน สูงอายุ และมีกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดที่บ้านอีก 17 ราย รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ จึงชี้ให้เห็นว่าการไปเที่ยวสถานบันเทิง สนามมวย เป็นการเอาโรคไปติดเด็กและคนสูงอายุที่บ้าน ซึ่งการติดเชื้อกระจายไปทุกภาค โดยอัตราการติดต่อในกทม. ค่อนข้างสูง 1:3.4 

 

               ขณะนี้สงครามยังไม่จบ ขอเรียกร้องให้คนที่เข้าไปในสนามมวย สถานบันเทิง เข้าตรวจคัดกรองโรค เพื่อความสบายใจว่าไม่ได้ป่วยโควิด สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ สะสม 9 ราย รายแรกเป็นบุคลากรทางการแพทย์ใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ป่วยมีอาการคล้ายไข้เลือดออก ส่วนรายอื่นๆ เป็นความเสี่ยงที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นเป็นรายวันจนตัวเลขแตะที่ 1,054 ราย

 

"เตือนแลปแพนด้า จัดรถออกตรวจโควิด ไม่ปลอดภัย"

 

               ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหมอแลปแพนด้า จัดรถฉุกเฉินออกตรวจโรคโควิดตามบ้าน ราคา 4,500 บาท นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ถ้าไปเก็บไม่มีความรู้ ผู้เก็บไม่ใส่เครื่องป้องกันที่ดีพอ อาจมีโอกาสติดเชื้อ แต่ถ้าไปเก็บแล้วตรวจด้วยเครื่องแปลผลเร็ว เช่น การเจาะเลือดหยดใส่ชุดตรวจสอบเร็วผู้ตรวจจะปลอดภัยมากกว่า แต่คนแปลผลการตรวจ "บวก ลบ" ต้องทำโดยมีข้อมูลประกอบ เรื่องความปลอดภัยชี้แจงว่าไม่ปลอดภัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องประเมินศูนย์แลปต่างๆ จนสามารถตรวจได้ใน. 44 แห่ง และในช่วงสิ้นเดือนนี้จะเพิ่มมากขึ้น 

 

"ช่วงเวลาทอง อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ"

 

               นพ.อนุพงศ์ กล่าวอีกว่า ตอนที่เราเข้าสู่เฟส 2 เราคิดว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ป่วยน้อยที่สุด หน่วงสถานการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด แต่จุดเปลี่ยนในช่วงต้นเดือนมี.ค.ซึ่งไม่อยู่ในความคาดหมาย หลังวันที่ 15 มี.ค. เรารู้สถานการณ์แล้ว แต่ยังตั้งใจทำให้มี "ช่วงเวลาทอง" เพื่อกดจำนวนผู้ป่วยให้น้อย การประกาศพรก.ฉุกเฉิน รณรงค์ขอให้ทุกคนหยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ไปซื้อของกินของใช้ได้ แต่ไม่สังสรรค์ ไม่พบปะทำกิจกรรมร่วมกัน จะทำให้เราดูแลกันเองได้

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ