ข่าว

ผลชันสูตรพบ "ไวรัสโคโรน่า" หลงเหลือในร่างผู้ป่วย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จีนเผยผลชันสูตรศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 พบยังคงมีไวรัสหลงเหลืออยู่ในปอด และอวัยวะสำคัญหลายส่วนเสียหาย ด้าน ผอ.สถาบันบำราศฯ แจงร่างผู้เสียชีวิตไม่แพร่เชื้อ ถูกบรรจุร่างในถุงซิป 3 ชั้น ฌาปนกิจด้วยความร้อนสูง

 

                   เมื่อวันอังคารที่ (24 มี.ค.) ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน เผยว่า คณะวิจัยจีนได้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) 29 ราย และพบว่ายังคงมีไวรัสหลงเหลืออยู่ในปอดของผู้ป่วยหลังจากเสียชีวิต

อ่านข่าว "เสี่ยตัน" เปิดโรงแรมที่เชียงใหม่ให้ "หมอ-พยาบาล" พักฟรี

 

 

 

                   หวังกุ้ยเฉียง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากโรงพยาบาลหมายเลข 1 แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แถลงข่าวว่า ผลชันสูตรพลิกศพเผยให้เห็นความเสียหายรุนแรงที่เกิดกับระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ซึ่งอาจเป็น “ปัจจัยสำคัญยิ่ง” ในการเสียชีวิต การติดเชื้อไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพ (pathological change) อย่างรุนแรงในปอดของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดการหลั่งสารในหลอดลมขนาดเล็ก (small bronchial tubes) ซึ่งทำให้จับออกซิเจนได้ยากขึ้น

                   หวัง เสริมอีกว่า ในทางคลินิก การเปิดทางเดินหายใจของผู้ป่วยและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญ สืบเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่เสียหาย ผู้ป่วยจึงติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งพบเห็นได้บ่อยในผู้ป่วยอาการรุนแรง อีกทั้งการติดเชื้อซ้ำซ้อนเช่นนี้มักเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อาการของผู้ป่วยทรุดลงหรือแม้กระทั่งเสียชีวิต

                   "จากผลการชันสูตร หัวใจ ตับ และไต ยังพบความเสียหายในระดับที่ต่างกันไปอีกด้วย" หวัง ระบุทิ้งท้าย

                   ทั้งนี้ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผอ.สถาบันบำราศนราดูร ได้พูดเอาไว้เมื่อวานนี้(24 มี.ค.63) ว่า ร่างของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 นั้นไม่แพร่เชื้อแน่นอน เพราะถูกบรรจุร่างในถุงซิป 3 ชั้น และทำการฌาปนกิจด้วยความร้อนสูง

อ่านข่าว อีกเสียง "ผอ.บำราศ" แจงยิบศพ "โควิด-19" ไม่แพร่เชื้อ

 

 

 

 

                   "การจัดการศพมีหลักการเป็นทฤษฎี ร่างจะถูกชุบแอลกอฮอล์ในการแพ็ค แพ็คเสร็จใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ พ่นฆ่าเชื้อทุกด้าน ทุกซอกของตัวร่าง เพื่อให้เกิดความสะอาด ใช้สำลีชุบน้ำยาแอลกอฮอล์อุดตามอวัยวะและด้านหลังของศพ จากนั้นนำร่างบรรจุใส่ถุงซิป 3 ชั้น ระหว่างการรูดซิปชั้นที่ 1 เจ้าหน้าที่จะต้องสเปรย์แอลกอฮอล์พ่นฆ่าเชื้อที่ถุงซิป จากนั้นผู้บรรจุศพต้องออกจากห้อง ถอดชุดป้องกัน ถอดถุงมือออกไปทำความสะอาดร่างกาย แล้วกลับมาบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่ 2 และทำซ้ำแบบเดียวกันในการบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่ 3 เพื่อให้มั่นใจว่าถุงซิปชั้นที่ 2 และ 3 ไม่มีโอกาสที่จะมีเชื้อโรคเลย" นพ.อภิชาต ระบุ

                   นพ.อภิชาต กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับถุงซิปเป็นถุงที่ทำเฉพาะใส่ร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคติดต่ออันตราย จากนั้นศพจะเคลื่อนย้ายไปสู่ที่ฌาปนสถานโดยไม่มีการเปิดถุงซิป เพราะญาติจะสวมชุดป้องกันเข้าไปยืนยันศพก่อนบรรจุร่าง ในข้อเท็จจริงจึงไม่มีเชื้อโรคผ่านออกไปสู่สังคม

                   "จึงไม่ต้องกังวลว่าร่างผู้เสียชีวิตจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค เพราะเชื้อจะถูกทำลายด้วยความร้อน 60 องศา โดยการฌาปนกิจเผาด้วยความร้อน 800-1,000 องศา และเป็นการฌาปณกิจผ่านถุงซิป 3 ชั้น จึงขอให้มั่นใจในขั้นสูงสุดของระบบสาธารณสุขไทย"

 

 

 

-------------------------

ที่มา xinhuathai.com

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ